ก่อนจะเริ่มหาสำนักงานบัญชีใหม่ ควรแจ้งยกเลิกล่วงหน้ากับสำนักงานบัญชีปัจจุบันแบบสุภาพ ตรงไปตรงมา เพราะเป็นธรรมเนียมธุรกิจที่ควรทำสำหรับการยกเลิกบริการทุกชนิด ในบางโอกาส เราอาจจะมีธุระที่จะได้กลับมาทำงานร่วมกันใหม่ การจากกันด้วยดีจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด |
การหาสำนักงานบัญชีใหม่ อาจจะเกิดด้วยจากเหตุหลายๆ อย่าง เช่น
- ธุรกิจเติบโต สำนักงานบัญชีเดิมอาจรองรับไม่ไหว
- สำนักงานบัญชีไม่มีเวลาให้บริการตามที่ตกลง
- อยากได้ที่ปรึกษาดีๆ สักคนมากกว่าคนบันทึกบัญชี
- อยากประหยัดค่าทำบัญชี
เมื่อถึงเวลาต้องหาสำนักงานบัญชีใหม่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าของธุรกิจจะตัดสินใจได้ในทันที เพราะการย้ายข้อมูลธุรกิจไปให้กับผู้ดูแลใหม่ ควรวางแผนเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทำให้ธุรกิจสะดุดในช่วงระหว่างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนมี 4 ข้อแนะนำ ที่เจ้าของธุรกิจควรทำก่อนเริ่มงานกับสำนักงานบัญชีใหม่คือ
เลือกอ่านได้เลย!
1. ติดต่อสำนักงานบัญชีใหม่รอไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
แน่นอนค่ะว่า ถ้าจะหาสำนักงานบัญชีใหม่ก็ต้องสรรหาและติดต่อไว้ล่วงหน้าก่อนเสมอ ซึ่งเจ้าของธุรกิจต้องถามตัวเองด้วยว่า เราต้องการเปลี่ยนสำนักงานบัญชีเพราะอะไร และคนใหม่ที่เราเลือกมาจะสามารถแก้ปัญหาที่คุณมีได้หรือเปล่า
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากเปลี่ยนสำนักงานบัญชี เพราะอยากได้คนที่มีเวลาให้ แต่ตอนที่เลือกสำนักงานบัญชีใหม่กลับเลือกเพราะเห็นว่าราคาถูกกว่าที่เก่า นั่นก็อาจไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด
และถ้าคิดว่าจะรอบอกเลิกสำนักงานบัญชีเก่าก่อนแล้วค่อยหาสำนักงานบัญชีใหม่ คุณคิดผิดถนัดเลย เพราะว่าถ้าติดต่อสำนักงานบัญชีเก่าไม่ได้แล้ว ส่วนสำนักงานบัญชีใหม่ก็ยังไม่ตกลงจ้างใคร จะทำให้ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นช่วงที่ยากและเสียเวลาที่สุดเลยล่ะ
เพราะฉะนั้น ให้ติดต่อสำนักงานบัญชีใหม่ที่คิดว่าใช่รอไว้เลย และบอกแต่เนิ่นๆ ว่าเรากำลังจะย้ายจากที่เก่ามาใช้บริการกับคุณสำหรับปีบัญชีนี้นะ
2. แจ้งสำนักงานบัญชีเก่าล่วงหน้า
การแจ้งล่วงหน้าไม่ใช่ต้องทำกับสำนักงานบัญชีใหม่อย่างเดียว เจ้าของธุรกิจต้องแจ้งสำนักงานบัญชีเก่าไว้ล่วงหน้าเช่นกัน เพื่อให้นักบัญชีสามารถเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ และเตรียมส่งต่อข้อมูลมาให้สำนักงานบัญชีใหม่
การบอกล่วงหน้าแบบสุภาพ ตรงไปตรงมานี้ถือเป็นธรรมเนียมธุรกิจที่ควรทำสำหรับการยกเลิกบริการทุกชนิด เพราะคงไม่มีใครอยากจากกันไปด้วยความรู้สึกที่ค้างคาในบางโอกาส เราอาจจะมีธุระที่จะได้กลับมาทำงานร่วมกันใหม่ การจากกันด้วยดีจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
และถ้าอยากให้มั่นใจว่าเราจะไม่โดนเทงานแน่นอน แนะนำว่าให้ทำสัญญาบอกเลิกและระบุงานที่สำนักงานบัญชีเดิมต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนชำระค่าบริการงวดสุดท้ายจะดีที่สุด
3. ส่งต่อข้อมูลให้ครบถ้วน
อย่าลืมว่าภารกิจการบอกเลิกสำนักงานบัญชีเดิม ไม่ได้จบแค่การโบกมืออำลา เพราะเราต้องแจ้งสำนักงานบัญชีเดิมให้ส่งต่อข้อมูลกับสำนักงานบัญชีใหม่ด้วย แต่ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือ เจ้าของธุรกิจไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีข้อมูลอะไรบ้างที่ฝากไว้กับสำนักงานบัญชี จึงไม่มั่นใจว่ามีข้อมูลบัญชีที่จะส่งต่อครบถ้วนแล้วหรือยัง
โดยทั่วไปแล้ว สำนักงานบัญชีควรจะมีข้อมูลบริษัทตามนี้
- การบันทึกบัญชีในโปรแกรมบัญชีทั้งหมด ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแฟ้มเอกสารก็แล้วแต่
- แฟ้มเอกสาร เช่น เอกสารซื้อ ขาย รับ จ่าย ที่เราเคยส่งให้สำนักงานบัญชีบันทึกบัญชี
- แบบภาษีทั้งหมด
- งบการเงิน
- Username และ Password ที่ใช้ร่วมกัน เช่น สำหรับส่งงบในระบบ DBD e-Filing หรือส่งภาษีในระบบออนไลน์
ข้อสุดท้าย ถ้าได้มาแล้วอย่าลืมเปลี่ยนรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลด้วยนะ
จริงๆ แล้วข้อมูลทั้งหมดข้างต้นควรอยู่ในความครอบครองของเจ้าของธุรกิจตั้งแต่แรก แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเองทั้งหมดได้เลย ต้องรอขอเอกสารจากสำนักงานบัญชีอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลของธุรกิจเราเอง เราควรต้องเข้าถึงได้ตลอดเวลา ถูกไหมคะ
ลองใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลธุรกิจของคุณที่นี่ดูค่ะ
4. กำหนดช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านให้เรียบร้อย
การกำหนดเวลาให้ชัดเจนสำหรับการโยกย้ายสำนักงานบัญชีจะช่วยให้ทุกฝ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องเสียเวลาอยู่กับการเปลี่ยนผ่านนานจนเกินไป โดยเราอาจกำหนดไทม์ไลน์ไว้แบบนี้ เช่น
- พฤศจิกายน 2564 หาสำนักงานบัญชีใหม่
- ธันวาคม 2564 บอกเลิกสำนักงานบัญชีเก่า มอบหมายให้ปิดงบ 2564 และส่งต่องานให้เรียบร้อยภายใน มีนาคม 2565
- มกราคม - มีนาคม 2565 สำนักงานบัญชีใหม่เริ่มงาน รับช่วงงานต่อจากสำนักงานเก่า และสำนักงานบัญชีเก่าปิดงบปี 2564 เรียบร้อยทั้งหมด
ถ้าสมมติเราควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามนี้ได้ทั้งหมด เราจะสามารถตั้งต้นกับที่ใหม่และจบจากที่เก่าได้ภายใน 3 เดือนหลังเริ่มปี 2565 ช่วงเวลานี้น่าจะเพียงพอสำหรับการส่งต่อข้อมูลและเรียนรู้การทำงานใหม่ๆ ระหว่างกัน และหลังจากนั้นในเดือนเมษายน เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องงานบัญชีอีกต่อไป
อย่างที่บอกไว้ การหาสำนักงานบัญชีใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำได้บ่อยๆ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าให้การเปลี่ยนแปลงนี้กลายเป็นภาระต้องหนักใจ เพราะเตรียมตัวไม่ดีพอ เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะมีปัญหาปวดหัวในอนาคตนะคะ
About Author
นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่