พื้นฐานด้านการเงินที่เจ้าของธุรกิจทุกคนควรนึกถึงเสมอ คือ การแยกบัญชีระหว่างธุรกิจกับส่วนตัวออกจากกัน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างถูกต้อง และไม่มีปัญหาการเงินในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าทำไปเพื่อประเด็นทางภาษี แต่ความจริงแล้วมันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นครับ |
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ คืออะไร

ต่อจากบทความที่แล้ว FlowAccount ได้กล่าวถึงชนิดของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปไปแล้ว (อ่านเนื้อหาใบกำกับภาษีเต็มรูปได้ที่ ใบกำกับภาษี ) คราวนี้เรามารู้จักประเภทของใบกำกับภาษีอีกประเภทหนึ่งที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ “ใบกำกับภาษีอย่างย่อ”
ซึ่งใบกำกับภาษีอย่างย่อ ก็คือเอกสารสำคัญในอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับกิจการที่เป็น “กิจการค้าปลีก” ที่เป็นการขายให้กับผู้บริโภคโดยตรง หรือให้บริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก
ทำธุรกิจต้องเก็บตัวเลขอะไรบ้าง? ถึงจะรู้ว่ากิจการเรา “กำไร” หรือ “ขาดทุน” (ตอนสอง)
ภาษีธุรกิจ EP7: เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไปเสียภาษี ตอนจบ
“พี่หนอมครับ เอาแบบนี้ดีกว่าพี่ พี่ช่วยสรุปมาเลยว่าถ้าผมอยากจะ ประหยัดภาษี ต้องทำยังไงบ้าง เอาง่าย ๆ สั้น ๆ แบบเจนวายนะครับ ผมไม่ค่อยมีเวลามากเท่าไร”
“ได้ครับ จัดให้” แต่ยังไงช่วยไปอ่านบทความตอนที่ 1 – 4 ย้อนหลังก่อนนะ จะได้เข้าใจ ไม่งั้นสรุปไปถ้านึกไม่ออกก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ฮ่า ๆ
เอาล่ะครับ…. หลังจากที่เขียนมาทั้งหมด 4 ตอนต่อกัน ตอนนี้ก็ถึงตอนสุดท้ายที่จะเป็นบทสรุปของบทความเข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไปเสียภาษีแล้วล่ะครับ โดยผมจะให้เทคนิคง่าย ๆ 3 ข้อ เพื่อทบทวนอีกทีครับว่า
ทำอย่างไรให้กำไรสุทธิทางภาษีของกิจการต่ำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้เรา ประหยัดภาษี ได้สูงสุด
สิ่งที่ต้องเริ่มต้นในการวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล นั่นคือ ทำให้กำไรต่ำที่สุดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และประเด็นแรกที่ผมอยากให้พิจารณา นั่นคือ การเริ่มต้นจากการบันทึกรายการทางบัญชีให้ถูกต้องครับ
1. บันทึกรายการทางบัญชีให้ถูกต้อง
โดยคำว่าถูกต้องของผมนั้น หมายความรวมถึงคำว่า “ครบถ้วน” ด้วยครับ เพราะรายการที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้น ควรนำมาบันทึกบัญชีไว้ เราจะได้ตรวจสอบได้ว่าธุรกิจเรานั้นมีกำไรและขาดทุนจริง ๆ เท่าไร เพื่อให้เข้าใจฝีมือในการบริหารจัดการธุรกิจของเรา เพราะก่อนที่จะวางแผนภาษี ธุรกิจเราควรจะอยู่รอดก่อนครับ
เทคนิคตรงนี้มีเพิ่มเติมเรื่องการลดงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงด้วยครับ นั่นคือ กรณีที่มีรายการค่าใช้จ่ายต้องห้าม ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ หรือรายจ่ายส่วนตัวที่เรารู้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นทีต้องเอามาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีครับ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเสียเวลา และสุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์อะไรในเรื่องภาษีอยู่ดีครับ
2. บริหารจัดการภาษีในสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
หลังจากที่เรามองภาพรวมของกำไรเบื้องต้นออกแล้ว สิ่งทีต้องบริหารจัดการต่อมาคือสิทธิประโยชน์ในการจัดการภาษีครับ ซึ่งจากรายการที่เล่ามาทั้งหมด 4 รายการ ในตอนที่ 2-4 จะเห็นว่าตัวช่วยเดียวที่พอจะเกี่ยวข้องและมีประโยชน์จริง ๆ คือ สิทธิประโยชน์ในการหักค่าใช้จ่ายได้เพิมขึ้น โดยถ้าอ้างอิงจากรูปในตอนที่ 4 จากแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล จะเห็นว่ามีรายการต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากมาย ได้แก่ รายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับลูกจ้าง การลงทุนในสินทรัพย์ การจ้างงานบุคคลพิเศษ (ผู้สูงอายุ นักศึกษา คนพิการ) รวมถึงการบริจาคต่าง ๆ

ดูภาพขนาดใหญ่ได้ที่นี่
3. คำนวณภาษีให้ถูกต้อง และจ่ายให้ตรงกำหนดเวลา
อ่านมาถึงข้อนี้ ใครหลายคนคงคิดว่า เฮ้ย มันง่าย ๆ แค่นี้เองเหรอ ใช่ครับ มันมีแค่นี้แหละครับ เพราะว่าการคำนวณภาษีได้ถูกต้อง จะมีผลเรื่องของการ ประหยัดภาษี แน่นอนครับ ตั้งแต่อัตราภาษีที่เลือกใช้ตามประเภทของกิจการที่แตกต่างกันไป เช่น ธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs ที่มีทุนชำระไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาทจะได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า (เรื่องนี้จะอธิบายขยายความในหัวข้อ “อัตราภาษี” ที่จะเขียนถึงในอนาคตครับ)
ส่วนเรื่องของการจ่ายให้ตรงกำหนดเวลานั้น ช่วยประหยัดภาษีได้แน่นอนจากการที่กิจการเราไม่ต้องเสีย “เบี้ยปรับ” และ “เงินเพิ่ม” ที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมกรณีจ่ายล่าช้าหรือไม่ครบถ้วนนั่นเองครับ
“โหววว พี่หนอม ไม่เห็นมีเทคนิคดี ๆ เจ๋ง ๆ ซับซ้อน อย่างที่คนเขาสอนกันเลย” น้องคนเดิมเจ้าเก่ายังคงเอ่ยปากเหน็บแนมผมเบา ๆ หลังจากที่ได้รู้เทคนิคที่ผมแนะนำ
“หลาย ๆ คนมักจะหาทางลัด หรือทำทุกทางเพื่อ ประหยัดภาษี แต่รู้ไหมว่าบางที ค่าใช้จ่ายพวกนี้ แพงกว่าภาษีที่เราต้องจ่ายเสียอีกนะ”
ผมตอบไปจากประสบการณ์ และหวังว่าเขาจะรู้ได้ว่าจริง ๆ แล้วแก่นที่สำคัญที่สุดในการวางแผนภาษี คือ การทำให้ถูกต้องตามกฎหมายและเลือกใช้สิทธิที่ให้ประโยชน์ตามความเป็นจริงนั่นเอง
ตอนนี้บทความในหัวข้อ “เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไปเสียภาษีของผม” ก็เดินทางมาถึงตอนจบแล้วล่ะครับ หวังว่าทั้ง 5 ตอนนี้จะช่วยให้ใครหลายคนเข้าใจในเรื่องของการวางแผนภาษีสำหรับการทำธุรกิจมากขึ้นด้วยนะครับ หลังจากนี้ในตอนต่อ ๆ ไปจะเป็นเรื่องของภาษีต่าง ๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ที่จะนำมาฝากกันเรื่อย ๆ ครับผม ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ รับประกันว่าได้รับความรู้เรื่องภาษีอย่างทั่วถึงแน่นอนครับ
ภาษีธุรกิจ EP6: เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไปเสียภาษี ตอนที่ 4
“ปกติ แบบแสดงรายการทางภาษี อะไรเนี่ย ผมไม่เคยกรอกเลยครับพี่ ให้บัญชีเค้าทำมาให้ตลอด”
เจ้าน้องคนดีคนเดิมบ่นพึมพำหลังจากที่ผมแนะนำเรื่องการปรับปรุงกำไรในบทความ เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไป เสียภาษี ตอนที่ 3 ไปเป็นที่เรียบร้อย
“อ้าวแล้วไม่คิดจะดูเลยเหรอว่าเค้ากรอกถูกหรือเปล่า” ผมแซวกลับไป ทั้ง ๆ ที่ในใจรู้คำตอบดีอยู่แล้ว 😁
สำหรับธุรกิจที่อยู่ในรูปแบบนิติบุคคล เชื่อว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจเมื่อดูแบบแสดงรายการคือตัวเลขภาษี ที่ระบุไว้ว่าต้องจ่ายแค่ไหน จ่ายแพงไปก็ใจสั่น ถ้าจ่ายถูกก็หวั่นใจว่าจะถูกตรวจสอบย้อนหลัง เอาเป็นว่าบทความในตอนนี้จะมาอธิบายหน้าตาและความหมายของแบบแสดงรายการทางภาษี ให้เข้าใจกันดีขึ้นครับ
ภาษีธุรกิจ EP5: เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไปเสียภาษี ตอนที่ 3
“ผมว่าวิธีการคำนวณ กำไรของธุรกิจ ที่ต้องทำก่อนเสียภาษี มันดูยุ่งยากมากขึ้นเลยครับพี่ ทำไมเขาถึงไม่ทำให้ง่ายๆ ล่ะครับ”
เจ้าน้องคนเดิมยังบ่นเข้ามาใน TaxBugnoms เหมือนเช่นเคย เรื่องการคำนวณกำไรทางภาษีที่ผมได้เล่าไปในบทความเรื่อง “เข้าใจเรื่อง “กำไร” ก่อนจะไป เสียภาษี ตอนที่ 2″
อย่างที่เคยบอกไปครับว่า การคำนวณภาษีก่อนจะเสียภาษี นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อกฎหมายกำหนดธุรกิจต้องการหักค่าใช้จ่ายตามจริง ต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด และโดยปกติแล้วธุรกิจที่อยู่ในรูปแบบบุคคลธรรมดา มักจะเลือกคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีตามวิธีการ “หักเหมาค่าใช้จ่าย” มากกว่า “ค่าใช้จ่ายจริง” เนื่องจากมีความสะดวกมากกว่า
แต่ในกรณีของนิติบุคคลนั้น ไม่มีทางเลือกครับ เพราะกฎหมายกำหนดให้คำนวณจาก
กำไรสุทธิทางภาษี (รายได้ทางภาษี – ค่าใช้จ่ายทางภาษี)
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างกันดีกว่าครับเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
รายได้ทางภาษี
คือ รายการที่บัญชีไม่ได้ลงบันทึกเป็นรายได้ แต่ภาษีบอกว่าต้องเป็นบันทึกรายได้ (กำไรของธุรกิจ จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เสียภาษีเพิ่มขึ้น) ซึ่งรายการที่เห็นได้ชัดนั้นจะถูกกำหนดไว้มาตรา 65 ทวิ(4) แห่งประมวลรัษฏากรครับ ผมขอสรุปใจความออกมาเป็นภาษาคนได้ว่า
“ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องมีรายได้
และห้ามคิดต่ำกว่าราคาตลาด”
ยกตัวอย่างเช่น นายบักหนอมเป็นเจ้าของบริษัท TAXBugnoms ตอนปลายปีนายบักหนอมเกิดอาการช็อตยืมเงินบริษัทไป 1,000,000 บาท ซึ่งถ้าคิดตามหลักปกติไม่ต้องคิดดอกเบี้ยอะไรกัน แต่ทางภาษีบังคับเลยครับว่า ต้องคิดดอกเบี้ย เพราะถือว่านายบักหนอมกับบริษัท TAXBugnoms เป็นคนละคนกันทางกฎหมาย และการกู้ยืมเงินนั้นต้องจ่ายดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดอีกด้วย!
รายได้ยกเว้น
คือ รายการที่ภาษีไม่ให้ถือเป็นรายได้ แต่บัญชีบันทึกเป็นรายได้ไปเรียบร้อยแล้ว ต้องนำมาหักออก ซึ่งมีผลให้ กำไรของธุรกิจ ลดลง และเสียภาษีลดลง โดยตัวอย่างของรายการจะเห็นได้ชัดเจนในเรื่องของรายได้จากเงินปันผล ตามมาตรา 65 ทวิ(10) แห่งประมวลรัษฏากรครับ สรุปเป็นภาษาคนอีกทีก็คือ กรณีที่มีรายได้เงินปันผลที่ได้จากบริษัทจำกัด ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงกึ่งหนึ่ง หรือยกเว้นทั้งจำนวน ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีไปครับ (อันนี้ธุรกิจที่ไม่ได้ลงทุนในลักษณะนี้อาจจะไม่เคยเจอ ไม่ต้องแปลกใจกันไปครับผม)
รายจ่ายค่าใช้จ่ายต้องห้าม
คือ รายการที่ทางบัญชีบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วแต่ทางภาษีไม่ให้บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย ต้องนำมาบวกกลับ ทำให้กำไรของธุรกิจเพิ่มขึ้นและเสียภาษีเพิ่มขึ้น โดยหลักการของกลุ่มค่าใช้จ่ายต้องห้ามนี้ จะถูกกำหนดไว้ในมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฏากรครับ หลักการของกฎหมายนี้คือไม่ให้ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือไม่มีหลักฐานการจ่ายที่พิสูจย์ผู้รับ หรือ ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายเห็นว่าไม่สมควรเป็นรายจ่ายได้ครับ ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆก็เป็น
พวกค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ หรือค่าใช้จ่ายที่
ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทั้งหลายนั่นแหละครับ
รายจ่ายที่หักได้เพิ่ม
คือ สำหรับตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นโปรโมชั่นเลยครับ เพราะเป็นรายการจ่ายที่หักได้เพิ่มขึ้นโดยปกติจะอยู่ที่ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายทางบัญชีครับ บัญชีหักได้เท่าไร ภาษีหักออกไปอีกเท่านึงเลย จ่าย 1 แต่หักได้ 2 แบบนี้เรียกว่าคุ้มจริงๆเลยล่ะครับ (ตัวนี้ไม่ค่อยมีกฎหมายหลักในประมวลรัษฏากรครับ จะออกเป็นกฎหมายรองอย่างพระราชกฤษฏีกาออกมาเพิ่มเติมมากกว่าครับ)
ยกตัวอย่างรายจ่ายที่หักค่าใช้จ่ายรายจ่ายที่หักค่าใช้จ่ายได้เพิ่มเช่น ก็มีรายการที่สนับสนุนต่างๆ เช่น การจ้างคนพิการ จ้างผู้สูงอายุ ส่งพนักงานไปอบรม หรือว่ารายจ่ายสาธารณะประโยชน์ต่างๆครับผม
“เอิ่ม พี่หนอมครับ ผมไม่ทำธุรกิจแล้วได้ไหมเนี่ย. เจ้าน้องคนดีคนเดิมฟังจบแล้วรู้สึกปวดหัวยิ่งกว่าเก่า เอาเป็นว่าในตอนต่อไปผมจะมาอธิบายเรื่องของแบบแสดงรายการภาษีเพิ่มเติมครับ ไหนๆมาถึงตรงนี้แล้ว ต้องเอาให้รู้ลึกรู้จริงกันไปเลยดีกว่า ไม่แน่นะครับว่าการดูแบบแสดงรายการภาษีเงินได้สำหรับธุรกิจเหล่านี้อาจจะทำให้เราเขา้ใจอะไรมากขึ้นก็ได้นะครับ ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะครับ”