คุณยีราฟ – สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ผู้ก่อตั้ง Saturday School (มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์) อดีตโปรแกรมเมอร์ ผู้อยากเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทย เล่าถึงการวางระบบบัญชีมูลนิธิ และแนะนำโปรแกรมบัญชีออนไลน์ FlowAccount ในการช่วยบริหารรายได้จากการระดมทุน บันทึกรายจ่ายในการจัดกิจกรรม รวมถึงดูภาพรวมของงบประมาณให้เป็นไปอย่างโปร่งใส |
ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นมากมาย อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิต จนอยากเกาะเกี่ยวงานที่มั่นคงเอาไว้ให้แน่น แต่สำหรับ คุณยีราฟ – สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร กลับเลือกผันตัวเองจากการเป็นโปรแกรมเมอร์หนุ่มในบริษัทใหญ่ มาเป็นครูภายใต้โครงการครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง ของมูลนิธิ Teach for Thailand จากนั้นก็ได้ก่อตั้ง Saturday School Foundation หรือ มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ เพื่อแบ่งปันความรู้นอกตำรา เปิดโลกให้นักเรียนที่ขาดโอกาสได้ค้นหาและพัฒนาศักยภาพในตัวเอง บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ‘หากเปลี่ยนแปลงการศึกษาได้ ปัญหาอื่นๆ ในสังคมน่าจะดีขึ้นตามไปด้วย’
สรวิศเล่าว่า แรงผลักดันของการทำงานพัฒนาสังคมนั้น เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ซึ่งเคยได้รับทุนเรียนในโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่ที่สอนสรวิศเสมอว่า การได้รับทุนเข้าไปเรียน ก็เหมือนกับประเทศกำลังลงทุนในตัวของเขา กลายเป็นแรงผลักดันให้สรวิศในวัยเติบใหญ่อยากมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“ตอนมาทำงานจริงๆ ผมรู้สึกว่า อยากจะทำอะไรที่มากกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย เลยตัดสินใจออกมาลองดูทางด้านนี้ดีกว่า ทุกคนน่าจะอยากเห็นสังคมดีขึ้น เราก็รู้สึกว่าเราอยากจะเป็นคนลงมือทำมัน
“ผมเห็นว่าเด็กๆ มีศักยภาพสูงมาก ในห้องเรียนวันปกติอาจจะไม่ได้ทำให้เด็กๆ เข้าถึงศักยภาพที่ควรจะเป็น ก็เลยเริ่มเปิดพื้นที่โรงเรียนวันเสาร์ขึ้นมา ให้เด็กได้มาเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเรียน ขณะเดียวกันเราเห็นว่าคนทั่วไปอยากมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ก็เลยเปิดพื้นที่ให้คนทั่วไปได้มาช่วยกันเปลี่ยนแปลงการศึกษาด้วยครับ” สรวิศเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของมูลนิธิ
เลือกอ่านได้เลย!
Toggleระบบการสอนของมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์
หลักสูตรของ Saturday School เป็นหลักสูตรที่แตกต่างออกไปจากในรั้วโรงเรียน ไม่ใช่การเรียนการสอนที่มีปลายทางคือ การสอบผ่าน หรือได้เกรดดี แต่มุ่งหวังให้เด็กๆ ค้นหาตัวตนเจอ และช่วยจุดไฟให้พัฒนาศักยภาพของตัวเองไปสุดทาง เพื่อจะได้กล้าเดินตามความฝันต่อไป ดังนั้น วิชาเรียนจึงมีอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งวิชาเต้น ศิลปะ ร้องเพลง ดนตรี กีฬา ตัดต่อวิดีโอ ทำหนังสั้น ทำอาหาร ฯลฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และเน้นเจาะกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นหลัก เพราะเป็นช่วงวัยที่กำลังค้นหาตัวตน
สรวิศอธิบายว่า ระบบการสอนของมูลนิธิเป็นแบบ Active learning หรือเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ ในหนึ่งห้องเรียน ประกอบด้วยครูอาสาประมาณ 5 คน จับกลุ่มเข้าไปพูดคุยและทำกิจกรรมกับเด็กเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยครูอาสา 1 คน จะดูแลเด็กประมาณ 3-4 คน
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โรงเรียนวันเสาร์ก็จำต้องปรับรูปแบบการสอนไปเป็นออนไลน์เช่นเดียวกับโรงเรียนอื่นๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนลดน้อยลง แต่กับบางวิชาอย่างวิชาแคสต์เกม และเขียนโปรแกรม ซึ่งอาศัยทักษะทางคอมพิวเตอร์ การเรียนออนไลน์กลับช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสามารถแชร์หน้าจอระหว่างผู้เรียนและผู้สอนได้ง่ายๆ เรียกได้ว่า ท่ามกลางวิกฤติ ก็ยังมีแง่มุมที่ดีของการเรียนการสอนแบบออนไลน์อยู่
รีวิวโปรแกรมบัญชีคลาวด์ ที่ช่วยให้การบริหารระบบบัญชีมูลนิธิ โปร่งใสได้
ในช่วงแรกเริ่มของการทำงานมูลนิธินั้น สรวิศเล่าว่า การจัดการเรื่องการเงินและบัญชียังคงใช้วิธีแบบแมนนวลอยู่ โดยบันทึกรายได้จากการระดมทุน และรายจ่ายในการจัดกิจกรรมบนตารางใน Google Sheet ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบากพอสมควร
“บางทีต้องมานั่งผูกสูตร ต้องมานั่งหาว่า เอกสารนี้อยู่ตรงไหนนะ อันนี้มันแมตช์กับใบเสร็จอันไหน ฝั่งออกเอกสารก็ต้องมานั่งคีย์ลง Google Docs ทีละใบๆ แล้วพิมพ์ออกมา… ค่อนข้างเกิดปัญหาแบบสุดๆ ไม่ไหวแล้ว ก็เลยมาลองใช้ FlowAccount
“FlowAccount ช่วยได้เยอะมากๆ จริงๆ ตอนนี้ไม่ได้มีใครจบบัญชีมาเป็นฟูลไทม์ด้วยซ้ำ ผมมองว่าไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานมากนักเกี่ยวกับบัญชี ก็มาใช้ FlowAccount ได้เลย เพราะใช้งานง่าย User Friendly มากๆ ครับ หาข้อมูลเจอง่าย ดูข้อมูลย้อนหลังได้รวดเร็ว”
สรวิศอธิบายต่อว่า FlowAccount ช่วยให้จัดการบัญชีง่าย เพราะมีระบบรันเลขให้อัตโนมัติ ทำให้สามารถติดตามข้อมูลย้อนหลังต่างๆ ได้อย่างสะดวก ดูได้ว่าค่าจ่ายในโครงการมีเท่าไหร่ จากใบเสร็จเลขที่ใด นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปดูภาพรวมขององค์กรทั้งหมดได้ง่ายๆ ในรูปแบบกราฟ ไม่ต้องผูกสูตรให้วุ่นวายเมื่อทำรายงาน ส่งผลให้การบริหารการเงินและบัญชีรายรับรายจ่ายของมูลนิธิเป็นไปอย่างง่ายดายและโปร่งใส
แนะนำโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ทีม FlowAccount ช่วยแก้ Bug งานบัญชีได้
สรวิศทิ้งท้ายว่า บริการอย่างหนึ่งของ FlowAccount ที่ทำให้ประทับใจมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือ การที่มีทีมงานคอยตอบกลับผ่านทางแชตอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกครั้งที่เกิดปัญหา ก็จะรู้สึกว่ามีคนคอยช่วยแก้ไข
“การที่เราติดตรงไหน แล้วมีคนมาช่วยแก้ ถ้าเปรียบเทียบกับการเขียนโปรแกรม ก็เหมือนเวลาเราเจอบั๊ก (Bug) แล้วมีคนมาคอยช่วยแก้บั๊กให้ มันก็ทำให้เรื่องปวดหัวน้อยลงไปเยอะครับ”
About Author

รำไพพรรณ บุญพงษ์ (นุ่ม) มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ด้านงานเขียน ทั้งในวงการสิ่งพิมพ์และออนไลน์ สนุกกับการเขียนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แนวธุรกิจ การตลาด การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย