จดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท จด VAT แตกต่างกันอย่างไร

จดทะเบียนพาณิชย์

การเริ่มต้นธุรกิจ เราแค่หาลูกค้าให้ได้เยอะๆ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะเรายังต้องเข้าใจเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจดทะเบียนทำธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่จดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท ไปจนถึงจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม


การเริ่มต้นธุรกิจ เราแค่หาลูกค้าให้ได้เยอะๆ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะเรายังต้องเข้าใจเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจดทะเบียนทำธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่จดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท ไปจนถึงจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทะเบียนทั้ง 3 ตัวนี้เป็นคนละเรื่องกัน และที่สำคัญเจ้าของธุรกิจมีความสับสนอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งนี้ 

การจดทะเบียนทั้ง 3 แบบคืออะไร มีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้บ้าง มาทำความเข้าใจในบทความนี้พร้อมๆ กันค่ะ

ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนบริษัท ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

เลือกอ่านได้เลย!


จดทะเบียนพาณิชย์

การจดทะเบียนพาณิชย์ คือ การจดทะเบียนเพื่อยืนยันว่าเรากำลังดำเนินธุรกิจ ค้าขายหรือให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เสมือนการบอกให้คนภายนอกรับรู้ว่า นี่ชั้นกำลังขายของอยู่นะ ในนามร้านชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน


ใครต้องจดทะเบียนพาณิชย์บ้าง


คนที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่ทำมาค้าขายหรือให้บริการค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะทำในนามบุคคลธรรมดาหรือบริษัท ถ้าเริ่มทำมาค้าขายตามธุรกิจในลิสนี้เมื่อไร ให้ไปจดทะเบียนพาณิชย์ได้เลย

ธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์


โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าของธุรกิจทั้งหลายน่าจะเข้าข่ายจดทะเบียนพาณิชย์เกือบหมดค่ะ ยกเว้นบางธุรกิจที่ไม่ต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์ เช่น หาบเร่แผงลอย พาณิชยกิจเพื่อการกุศลหรือบำรุงศาสนา ทำมูลนิธิสมาคม ซึ่งไม่ต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์ค่ะ

เงื่อนไขในการจดคืออะไร

จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งใหม่ ต้องจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มประกอบพาณิชยกิจ (โดยไม่สนใจว่าเราจะมีรายได้เท่าใด)

หากไม่จดทะเบียนพาณิชย์จะมีความผิดอย่างไรบ้าง

ถ้ากิจการเข้าข่ายต้องจดทะเบียนพาณิชย์แล้วไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 100 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

จะเห็นว่าการจดทะเบียนให้ถูกต้องนั้นสำคัญทีเดียว แถมเริ่มทำธุรกิจภายใน 30 วันก็ถือว่าเข้าเกณฑ์ได้แล้ว เลยแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมและไปจดกันนะคะ

ทางทีม FlowAccount ได้เขียนบทความที่เจาะลึกเรื่องนี้ละเอียดมากขึ้นเอาไว้แล้ว รวมไปถึงอธิบายเพิ่มว่า จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างกับ จดทะเบียนพาณิชย์ธรรมดา หรือจดทะเบียนการค้า ยังไง ใครอยากรู้ตามไปอ่านกันเพิ่มได้เลยค่ะ

บทความนี้จะพูดถึงการจดทะเบียนประเภทอื่นๆ เสริมต่อให้อีกนะคะ

จดทะเบียนบริษัทกับ FlowAccount ฟรี! โปรแกรมบัญชีออนไลน์


จดทะเบียนบริษัท คืออะไร

จดทะเบียนบริษัทคืออะไร


จดทะเบียนบริษัท คือ การจดทะเบียนเพื่อ
ขอเป็นนิติบุคคลรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนิติบุคคลนี้จะแยกต่างหากออกจากตัวเราซึ่งเป็น “บุคคลธรรมดา” นะคะ 


จดทะเบียนบริษัท กับจดทะเบียนนิติบุคคลที่ทุกคนสับสน จริงๆแล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างไร 


“การจดทะเบียนบริษัท” ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งปกติแล้วนิติบุคคลนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น

  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด
  • บริษัทจำกัด
  • บริษัทมหาชนจำกัด

ในปัจจุบันเจ้าของธุรกิจมักเลือกจดทะเบียนแบบบริษัทมากกว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดเพราะว่าดูน่าเชื่อถือกว่า ส่วนบริษัทมหาชนจำกัดนั้น หมายถึง บริษัทจำกัดที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ

เงื่อนไขในการจดทะเบียนบริษัท 

ถ้าอยากจดทะเบียนบริษัท ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า “ต้องมีผู้เริ่มก่อการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เข้าชื่อกัน แล้วก็กำหนดทุนและแบ่งหุ้นกันให้เรียบร้อย”

และตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.2566 เป็นต้นไป กฎหมายได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยกำหนดให้การจดทะเบียนบริษัทมีผู้เริ่มก่อการตั้งแต่ 2 คนได้ค่ะ

หากไม่จดทะเบียนนิติบุคคล มีความผิดอย่างไรบ้างหรือไม่ 

การจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนนิติบุคคลเป็นทางเลือกสำหรับเจ้าของธุรกิจ หากเลือกที่จะประกอบธุรกิจรูปแบบบุคคลธรรมดา ก็ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนนิติบุคคลก็ได้ ไม่ได้มีความผิดอะไร

จดทะเบียนนิติบุคคล

 

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร

การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือจด VAT คือ การจดทะเบียนตามกฎหมายเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายหรือบริการจากลูกค้า 7% เพื่อนำส่งสรรพากร

ใครต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบ้าง

ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่บังคับสำหรับคนที่รายได้เข้าเงื่อนไขของการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ตาม 2 เงื่อนไขนี้

  • เป็นรายได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้น เช่น ขายหนังสือออนไลน์ ขายพืชผัก 
  • รายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทต่อปี

หากไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีความผิดอย่างไรบ้างหรือไม่

ประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างน้อยจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และเสียเบี้ยปรับอีกสองเท่าของเงินภาษีตลอดระยะเวลาที่ประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือเป็นเงินหนึ่งพันบาทต่อเดือนภาษี แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่ากัน ตามมาตรา 89(1) แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วยค่ะ

จดทะเบียนนิติบุคคล


การจดทะเบียนเริ่มต้นธุรกิจทั้ง 3 เรื่องนี้ ถ้าตั้งหลักทำความเข้าใจดีๆ เราจะรู้ว่าทั้ง 3 เรื่อง มีวัตถุประสงค์ในการจดแตกต่างกัน และมีเงื่อนไขแตกต่างกันเสียด้วย บางธุรกิจอาจจะต้องจดแค่บางข้อ และหลายธุรกิจต้องจดทุกข้อ ดังนั้น อย่าลืมกลับไปสำรวจธุรกิจตัวเอง และเริ่มต้นจดทะเบียนให้ถูกต้องก่อนเริ่มธุรกิจอย่างสบายใจค่ะ

สนใจจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ติดต่อ FlowAccount ช่วยจัดการให้ได้เลยทันที 


FlowAccount รับจดจัดตั้งนิติบุคคล
พร้อมมอบโปรแกรมบัญชีออนไลน์ และสิทธิประโยชน์ อยู่เคียงข้างผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล ให้บริหารธุรกิจด้วยตัวเองได้อย่างมั่นใจตั้งแต่ก้าวแรกด้วย 9 บริการจากเรา ในการช่วยเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ตามระเบียบขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อ่านรายละเอียดและติดต่อทีมงานได้เลยที่นี่

จดทะเบียนบริษัทกับ FlowAccount ฟรี โปรแกรมบัญชีออนไลน์

About Author

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท และจด VAT

1. บุคคลธรรมดาต้องจด VAT ไหม

ตอบ: การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็น “บุคคลธรรมดา” หรือ “นิติบุคคล” แต่ขึ้นอยู่กับลักษณะกิจการ และรายได้จากการประกอบธุรกิจ เป็นหลัก

บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเปิดร้าน ขายของออนไลน์ หรือให้บริการต่าง ๆ หากเข้าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็มี หน้าที่ต้องจด VAT เช่นเดียวกับบริษัททั่วไป

2.ถ้าจดพาณิชย์ไว้ แล้วอยากเปลี่ยนเป็นบริษัทได้ไหม

ตอบ​ : สามารถเปลี่ยนจาก “ร้านค้า” ที่จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ เป็น “บริษัทจำกัด” ได้ค่ะ
แต่ในทางกฎหมายแล้ว “การเปลี่ยน” นี้ ไม่ใช่การแปลงสภาพนิติบุคคลโดยตรง เพราะ:
ร้านค้าจดพาณิชย์ = บุคคลธรรมดา
บริษัทจำกัด = นิติบุคคลใหม่ (ที่มีสถานะแยกจากเจ้าของเดิมโดยสิ้นเชิง)

ดังนั้นคุณจะต้อง เลิกสถานะร้านเดิม (ถ้าไม่ใช้แล้ว) และ จัดตั้งบริษัทจำกัดใหม่ขึ้นมาแทน โดยสามารถโอนกิจการ ทรัพย์สิน หรือชื่อทางการค้าเดิมมายังบริษัทใหม่ได้ เพื่อความต่อเนื่องของธุรกิจ

3.คนขายของ Shopee / Lazada / TikTok ต้องจดภาษีอะไร

ตอบ : คนขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะขายผ่าน Shopee, Lazada, TikTok Shop, Facebook, Instagram หรือแม้แต่เว็บไซต์ส่วนตัว มีหน้าที่จดทะเบียนธุรกิจ เช่นเดียวกับการเปิดร้านทั่วไป โดยขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจการและรายได้

ดังนั้น คนขายของออนไลน์ จะมีหน้าที่จดทะเบียนดังนี้

จดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) — ถ้ารายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือบริษัท ถ้ารายได้จากการขายของ เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับกรมสรรพากร เมื่อจดแล้วต้องออกใบกำกับภาษี และยื่นแบบภาษีทุกเดือน

จดทะเบียนพาณิชย์ (กรณีบุคคลธรรมดา)
หากคุณขายของออนไลน์ในนามส่วนตัว ยังไม่ตั้งบริษัท ยังไม่มีหุ้นส่วนหลายคน คุณควรจดทะเบียน “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” ที่สำนักงานเขตหรืออำเภอใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของราชการ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย

จดทะเบียนบริษัท (กรณีธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้น หรือมีพาร์ตเนอร์)
ถ้าคุณเริ่มมีรายได้มากขึ้น มีพนักงาน หรืออยากแยกบัญชีธุรกิจออกจากรายได้ส่วนตัว คุณสามารถจดทะเบียนเป็น บริษัทจำกัด ได้ ซึ่งจะทำให้ ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ จัดการภาษีได้ง่ายกว่าในระยะยาว สามารถมีหุ้นส่วนหรือผู้ร่วมทุนได้ อีกทั้งขอสินเชื่อหรือทำสัญญากับคู่ค้าได้สะดวก

4.บริษัทต้องจด VAT ทันทีไหมหลังจดทะเบียนบริษัท

ตอบ​ : ไม่จำเป็นต้องจด VAT ทันทีหลังจดทะเบียนบริษัท การจด VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะขึ้นอยู่กับรายได้ของบริษัทและลักษณะธุรกิจเป็นหลัก โดยอธิบายได้ดังนี้

กรณีต้องจด VAT
หากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า หรือให้บริการที่อยู่ในข่ายเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (เฉลี่ยประมาณ 150,000 บาท/เดือน) จะต้อง ยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) ภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีรายได้เกินเกณฑ์

กรณีไม่ต้องจด VAT ทันที
หากบริษัทเพิ่งเริ่มต้น และยอดขายรวมยัง ไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี บริษัท ยังไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน VAT กับกรมสรรพากรในช่วงเริ่มต้น (แต่สามารถเลือกจดล่วงหน้าได้ด้วยความสมัครใจ ถ้ามีความจำเป็นทางธุรกิจ)

5.ต้องจดภาษีทั้ง 3 อย่างพร้อมกันไหม (จด VAT, จดทะเบียนพาณิชย์, จดทะเบียนบริษัท)

ตอบ : ไม่จำเป็นต้องจดทั้ง 3 อย่างพร้อมกันค่ะ เพราะแต่ละอย่างมีวัตถุประสงค์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน การจดทะเบียนใดก่อน ขึ้นอยู่กับ “รูปแบบธุรกิจ” และ “แผนการขยาย” ของคุณ

ตัวอย่างสถานการณ์
กรณี 1: คนเริ่มขายของออนไลน์เองคนเดียว
-จดทะเบียนพาณิชย์ (แบบบุคคลธรรมดา)
-ยังไม่ต้องจดบริษัท
-ยังไม่ต้องจด VAT (จนกว่าจะขายเกิน 1.8 ล้าน/ปี)

กรณี 2: ทำธุรกิจแบบจริงจัง มีพาร์ตเนอร์
-จดทะเบียนบริษัท (ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อีก เพราะบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้ว)
-ยังไม่ต้องจด VAT ถ้ารายได้ยังไม่ถึง 1.8 ล้าน/ปี (หรือจะจดล่วงหน้าก็ได้)

กรณี 3: เปิดบริษัทแล้ว มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
-จดทะเบียนบริษัท
-จด VAT
-ไม่ต้องจดพาณิชย์ (เพราะบริษัทไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อีก)

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกจดอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามขนาดและรูปแบบของธุรกิจ หากเริ่มจากเล็กๆ อาจเริ่มจากจดทะเบียนพาณิชย์ก่อน แล้วค่อยขยับเป็นบริษัท หรือถ้ารู้ว่าจะทำจริงจังในรูปแบบบริษัทตั้งแต่แรก ก็เริ่มจาก “จดทะเบียนบริษัท” ได้เลย โดยไม่ต้องจดพาณิชย์ซ้ำ

รับวันใช้งานฟรี 30 วัน
เมื่อสมัครทดลองใช้ FlowAccount วันนี้
สมัครเลย

บทความที่คุณน่าจะสนใจ