ขายของออนไลน์ให้ปังต้องรู้จักรายงานยอดขาย และใช้ประโยชน์จากรายงานนี้ให้เป็น

รายงานยอดขาย คือ รายงานที่สรุปการขายสินค้าของธุรกิจว่า เราขายอะไรไปบ้าง ราคาเท่าไร รวมเป็นเงินทั้งหมดเท่าไร เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อว่าควรจะโฟกัสการขายสินค้าประเภทไหนดี แล้วตัวที่ขายไม่ดี เราจะมีกลยุทธ์ยังไงต่อไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ถ้าไม่วิเคราะห์รายงานยอดขายให้ดีๆ อาจเสียโอกาสขายสินค้าและเอาชนะคู่แข่งได้ภายในพริบตา

วันนี้ Flowaccount จะชวนเพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ รวมไปถึงนักบัญชีมาทำความรู้จักรายงานยอดขายในรูปแบบต่างๆ พร้อมมุมมองการใช้ประโยชน์จากรายงานยอดขายนี้ไปพร้อมๆ กัน

1. สรุปยอดขาย

รายงานสรุปยอดขาย เป็นรายงานที่สรุปว่าในช่วงเวลาที่เราเลือกแต่ละวัน เรามีการขายสินค้าเลขที่เอกสารอะไรถึงอะไรบ้าง มูลค่าเป็นเท่าไร และสถานะการรับเงินเป็นอย่างไร

ตัวอย่างรายงานสรุปยอดขาย

รายงานนี้เจ้าของธุรกิจจะสามารถใช้วิเคราะห์ความสามารถในการขายสำหรับช่วงเวลาที่สนใจได้ เช่น 

• ช่วงที่ทำโปรโมชั่นขายของได้มากกว่าช่วงที่ไม่ทำโปรโมชั่นไหม เพื่อประเมินผลการทำโปรโมชั่นว่ามีประสิทธิภาพหรือเปล่า
• ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ขายของได้ดีกว่าวันธรรมดาหรือไม่ 
• วันใดในสัปดาห์มักจะขายของได้ดี 

และในส่วนของนักบัญชีเอง สามารถใช้รายงานยอดขายสอบยันความถูกต้อง (cross check) กับการบันทึกบัญชีในระบบเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึกรายได้อีกรูปแบบหนึ่ง 

2. ยอดขายตามสินค้า

รายงานยอดขายตามสินค้า เป็นรายงานสรุปยอดขาย แต่จัดประเภทตามสินค้าว่าสินค้าใดขายได้จำนวนเท่าใด ราคาต่อหน่วยเท่าไร และยอดรวมการขายสินค้าแต่ละชนิดเป็นอย่างไรบ้าง 

รายงานนี้จะระบุช่วงเวลาที่เราต้องการเลือกดูได้ ว่าเป็นช่วงวันที่หรือเดือนตามแต่ที่เราต้องการ

ตัวอย่างรายงานยอดขายแยกตามสินค้า

เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากรายงานยอดขายตามสินค้าได้ในหลายแง่มุม เช่น

• วิเคราะห์ได้ว่าช่วงเดือนที่ผ่านมา เราขายสินค้าอะไรได้ดีที่สุด
• วิเคราะห์เทรนด์การขายสินค้าว่าสินค้าใดมาแรง หรือสินค้าใดยอดขายตกบ้าง ในแต่ละช่วงเวลา
• วางแผนการสั่งซื้อสินค้าในล็อตถัดไป 
• วิเคราะห์เปรียบเทียบราคาสินค้าขายดีกับคู่แข่ง

และในส่วนของนักบัญชีเองอาจจะใช้รายงานยอดขายนี้วิเคราะห์ข้อมูลประกอบกับรายงานอื่นๆ เช่น

• เปรียบเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นว่าสินค้าที่ขายดี สามารถทำกำไรให้ธุรกิจเบื้องต้นจำนวนเท่าไร และมีสินค้าชนิดใดบ้างที่ควรจะเน้นการขาย เพื่อช่วยเพิ่มกำไรธุรกิจในภาพรวม
• เปรียบเทียบกับยอดสินค้าคงเหลือว่า สินค้าที่ขายได้ช้ายังมีสินค้าคงเหลือที่ต้องรีบระบายออกไหม
• เปรียบเทียบกับการตัดสินค้าในสต็อกคงคลังว่าตัดสินค้าถูกต้องไหม หรือจำเป็นต้องปรับปรุงบัญชีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า

3. ยอดขายตามลูกค้า

รายงานยอดขายตามลูกค้า เป็นรายงานอีกมุมมองหนึ่งนอกเหนือจากยอดขายตามเอกสารและตามสินค้า เพราะรายงานนี้จะช่วยให้เรามองเห็นว่าในช่วงเวลาที่เราสนใจ มีลูกค้ารายใดบ้างที่ขายสินค้าให้ไป เมื่อวันที่เท่าใด จำนวนเท่าใด และสถานะการรับเงินเป็นอย่างไรบ้าง

ตัวอย่างรายงานยอดขายตามลูกค้า

เจ้าของธุรกิจใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ยอดขายตามลูกค้าได้ เช่น

• วิเคราะห์ว่าขายให้ลูกค้ารายใดสูงสุด 
• ลูกค้าเก่ามีแนวโน้มกลับมาซื้อสินค้าอีกไหม 
• ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากที่ใด 
• ลูกค้าที่มีสถานะรอเก็บเงิน หรือยกเลิกสินค้ามีจำนวนเท่าใด 

ส่วนนักบัญชีเอง อาจจะช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติมสำหรับเรื่องการรับชำระเงินว่า ในระบบหลังบ้านได้บันทึกรับชำระเงินจากลูกค้า Lazada และ Shopee อย่างครบถ้วนหรือยัง เมื่อเทียบกับ Bank Statement และมีลูกค้ารายใดที่มีปัญหาบ้าง

ตัวอย่างรายงานยอดขายแยกตามพนักงาน

นอกจากนี้ สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มีพนักงานแอดมินหรือเซลล์แล้ว  ในระบบ FlowAccount ยังมีรายงานยอดขายตามพนักงาน ที่สามารถดูได้ว่าพนักงานแต่ละคนสามารถทำยอดขายได้จำนวนเท่าใด เปิดบิลเลขที่เท่าไร และมีสถานะเก็บเงินแล้วหรือยัง ซึ่งจะช่วยให้ประเมินพนักงานแต่ละคนได้ว่ามีการขายเป็นอย่างไรในแต่ละเดือน 

รายงานทั้งหมดนี้สามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ Excel เพื่อนำมาใช้ประกอบการวางแผนการขายต่อได้

โดยสรุปแล้ว แม้ว่าการขายสินค้าใน Lazada และ Shopee จะทำให้เจ้าของธุรกิจมีช่องทางการขายที่มากขึ้นและรับลูกค้าได้สะดวกขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว ทุกๆ การขายต้องมีการวิเคราะห์และทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำได้ดีแล้วหรือยัง ทั้งในแง่ของยอดขายรายวัน ยอดขายรายสินค้า รวมไปถึงยอดขายรายลูกค้า ถ้าเรารู้จักวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จาก “รายงานยอดขาย” อย่างเต็มที่ อาจช่วยให้เราตัดสินใจวางกลยุทธ์การขายได้ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน