เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือนักบัญชีทุกท่านก็คงสัมผัสได้ถึงการพัดผ่านของกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้ง Digital Disruption และสภาวะเศรษฐกิจตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต้องเจอทั้งความผันผวน ความซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ใช่ไหมหละคะ

 

ผู้ประกอบการก็เสมือนต้นไม้ที่ลู่ลม ที่คอยปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยในแต่ละขั้นตอนการทำงานทั้งการขายหรือให้บริการหน้าบ้านไปจนถึงการจัดการหลังบ้านด้านบัญชีภาษี เพื่อเพิ่มความสามารถปรับตัว ลดต้นทุน ยกระดับธุรกิจเข้าสู่ระบบดิจิทัล 

 

เทคโนโลยีทางบัญชีถูกพูดถึงและนำมาปรับใช้กันล้นหลามในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น AI, Blockchain, Cloud Accounting Software ที่มาช่วยบันทึกรายการบัญชีและจัดประเภทรายการ OCR มาช่วยในการอ่านเอกสารและแปลงเป็นไฟล์ข้อความเพื่อเตรียมพร้อมในการบันทึกบัญชี RPA ที่เข้ามาทำรายการธุรกรรมที่เกิดซ้ำๆแทนการทำงานของมนุษย์เพื่อลดการผิดพลาด

 

 

ในบทความนี้จะมาเจาะลึกกันค่ะว่า ที่เค้าว่าโปรแกรมทางบัญชีหรือ Cloud Accounting Software จริงๆแล้วมีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์มากมายมีจริงไหมและเอามาใช้ในกิจการได้อย่างไรกันค่ะ

 

ความหมายง่ายๆ ของโปรแกรมบัญชี

 

ในย่อหน้านี้ลองตัดคำว่า ออนไลน์ ออกไปก่อนนะคะ ทีนี้ก็จะเหลือแค่คำว่าโปรแกรมบัญชีพอค่ะ

 

โปรแกรมบัญชีมีทั้งขนาดใหญ่ที่รองรับการรายการมากมายของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีขนาดที่ว่าราคาต่อ 1 user เป็นหลักแสนบาทเลยก็มีค่ะ ไปจนถึงขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับกิจการเล็กๆในครอบครัว หรือทำธุรกิจในรูปแบบบุคลลธรรมดาเลยก็ได้ค่ะ

 

ซึ่งโปรแกรมบัญชีเหล่านี้ก็เป็นไปได้ว่ามีผู้ผลิตโปรแกรมมาให้ใช้โดยเฉพาะกิจการนั้น หรือให้ผู้ใช้งานหลายๆคนสามารถเข้ามาใช้งานพร้อมกันได้ โดยที่มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและมีการพัฒนาปรับปรุงระบบอยู่ตลอดเวลาโดยผู้ผลิตค่ะ ในทางตรงกันข้ามกิจการที่มีลักษณะพิเศษในการดำเนินงานที่ไม่เหมือนใคร ลองไปใช้ของยี่ห้อไหนก็ไม่ตรงสเป๊กสักทีเลยสร้างโปรแกรมบัญชีหลังบ้านด้วยตัวเองไปเลยก็มี อันนี้ก็คงต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบเพิ่มเข้ามาอีกค่ะ มากกว่านั้นอาจจะมีบางผู้ประกอบการใช้โปรแกรมบัญชีแบบลูกผสม นั่นก็คือเก็บข้อมูลสำคัญไว้ที่โปรแกรมบัญชีที่สร้างเอง ส่วนข้อมูลทั่วไปไว้ในอีกโปรแกรมหนึ่ง ฟังแล้วก็มีความซับซ้อนอยู่ในนั้นค่ะ

 

ในความเป็นจริงแล้ววัตถุประสงค์หลักของโปรแกรมบัญชี เกิดมาเพื่อช่วยทำให้กระบวนการทำบัญชี ภาษีง่ายขึ้น เชื่อมโยงข้อมูลตัวเลขจากทุกฝ่ายมาไว้ในที่เดียว ช่วยให้เจ้าของธุรกิจหรือจะเป็นผู้บริหาร หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ติดตามสถานการณ์การเงินและวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น ลองจินตนาการดูนะคะว่าจะโหดร้ายแค่ไหนถ้าเกิดเราเป็นเจ้าของโรงงานที่มีอาคารผลิตก็ทีนึง ฝ่ายจัดซื้อก็อยู่ที่นึง ร้านขายสินค้าก็มีหลายร้านไปอีกแต่ทุกฝ่ายยังมีการเขียนใส่กระดาษ ไม่มีรูปแบบการบันทึกที่เหมือนกัน เอาหละ ก็จะเกิดเป็นงานหนักของนักบัญชีทีเดียวเชียว กว่าจะเก็บข้อมูลครบคู่แข่งเค้าก็ไปถึงไหนกันแล้วถูกไหมคะ

 

 

ต่อไปลองใส่คำว่า ออนไลน์ หรือที่นิยมกันที่สุดตอนนี้ก็คือคลาวด์นั่นเองค่ะ

 

โปรแกรมบัญชีหรือ Cloud Accounting Software คืออะไร

 

หากอธิบายให้เห็นภาพมากที่สุดคือ คลาวด์ตรงตัวที่สุดคือก้อนเมฆที่ลอยบนอากาศ แม้เรามองไม่เห็นแต่สัมผัส (ใช้ประโยชน์) ได้ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ว่ามาก็เป็นการเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลจากเดิมที่อยู่บน Hardware ของกิจการไปเป็นการจัดเก็บบนระบบ Cloud ดังนั้นส่วนที่แตกต่างมีเพียงวิธีการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลเท่านั้น ในส่วนการใช้งานต่างๆ ของนักบัญชีก็ยังคงเป็นแบบเดิมค่ะ

 

สิ่งที่โปรแกรมบัญชีเข้ามาเพิ่มคุณค่าของงานบัญชีนั่นก็คือการที่งานบัญชีหลังบ้านเกิดไปพร้อมกับรายการธุรกิจหน้าบ้าน แบบ ณ วินาทีนั้นเลย (Real-time) กิจการมี business process ด้านการขายที่จะต้องออกใบกำกับภาษี ใบส่งสินค้า ใบเสร็จรับเงิน, ด้านการซื้อ-ขาย-เติมสินค้าอะไรไปตามปกติ, ด้านภาษีที่เกิดขึ้นตลอดเวลาไปพร้อมๆกับรายได้และค่าใช้จ่าย 

 

แล้ว ณ จุดต่างๆ ที่เป็นจังหวะในการออกเอกสารหน้าบ้านเหล่านั้น เป็นจุดเดียวกับที่ระบบถูก set ให้บันทึกบัญชีตามคู่มาตรฐานบัญชีที่ถูกต้องให้อัตโนมัติเลย เท่ากับว่าบัญชีหลังบ้านไม่เป็นงานเพิ่ม งานซ้ำ งานซ้อนที่สมัยก่อนเจ้าของกิจการคงมีบ่นๆ กันบ้างออกไป

ไม่ใช่เพียงแค่การนำข้อมูลทางบัญชีไปจัดเก็บบน Cloud เท่านั้น แต่รวมถึงการใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์นี้ร่วมไปกับ Platform อื่นๆ มากมาย ปฏิเสธได้ยากจริงๆค่ะในสมัยนี้ที่เจ้าของกิจการแม้ใจอยากจะเปิดแค่หน้าร้านใจแทบขาด แต่ด้วยแรงกดดันในตลาดก็ต้องพลักตัวเองให้ออกใบขายบน E-Commerce ที่ขายบนเจ้าเดียวก็ไม่ได้อีก ต้องหลายๆเจ้า ดังนั้นความกังวลใจเมื่อจะต้องรวม (Integrate) ข้อมูลจากต้นทางหลายๆแหล่งก็หมดไปได้ เพราะโดยทั่วไปโปรแกรมบัญชีออนไลน์จะมีการเชื่อมต่อ API เพื่อโอนข้อมูลมาลงบัญชีให้แบบอัตโนมัติ

 

เนื้องานของนักบัญชีที่ต้องรายงานต่อผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นการกระทบยอดทางบัญชี การจัดทำรายงานต่างๆ และการให้คำแนะนำเรื่องการหมุนเงินไม่ให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง ก็แทบจะอัพเดตกันได้ทันทีเลยค่ะ

 

และด้วยความที่ค่าบริการโปรแกรมบัญชีมักจะคิดรายเดือน ดังนั้นสำหรับฟรีแลนซ์และธุรกิจขนาดเล็ก นี่เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในด้านต้นทุนมากกว่าการจ้างบริษัทบัญชีแบบครบวงจร ส่วนสำนักงานบัญชีที่ผันการให้บริการขึ้นสู่ระบบดิจิทัลให้ทันต่อธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป การให้บริการทำบัญชีออนไลน์ผ่านโปรแกรมบัญชีก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการขยายฐานลูกค้าให้รับได้ทั่วประเทศค่ะ

 

โปรแกรมบัญชีที่ดีควรตอบโจทย์ระบบธุรกิจอะไรบ้าง

 

มาทบทวนกันสักนิดค่ะว่า ระบบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ (Business Process) ที่ถูกออกแบบมาเป็นการควบคุมภายในที่ดี ที่เจ้าของกิจการเองก็สามารถเลือกโปรแกรมบัญชีที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ไว้สำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการปิดรอยรั่วด้านการคบคุมภายใน แถมยังเพิ่มความน่าเชื่อถือในกิจการได้อีกด้วยค่ะ

 

 

1. ระบบการขายและการรับเงิน

 

ระบบนี้เท่ากับเป็นท่อน้ำหล่อเลี้ยงให้กิจการยังไปต่อได้เลยค่ะ ฉะนั้นแน่นอนว่าโปรแกรมบัญชีที่จะเข้ามาจัดการระบบรายได้หรือระบบการขาย ไปจนถึงการรับเงินจากลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆค่ะ  

 

การออกแบบขั้นตอนเอกสารจัดทำใบเสนอราคา ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี/ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ใบลดหนี้ ใบเพิ่มหนี้ พร้อมๆกับหลังบ้านมีการบันทึกบัญชีอัตโนมัติตามคู่บัญชีที่ถูกต้องตามมาตรฐานรายงานทางการเงินทันทีที่มีการออกเอกสาร หรือเปลี่ยนสถานะเอกสารค่ะ 

 

ที่ขาดไม่ได้เลยการบันทึกภาษีขายคู่ไปด้วยค่ะ  และหากการขายนั้นเป็นการขายสินค้าจะต้องบันทึกบัญชีตัดสินค้าออกจากคลังสินค้า เพื่อรับรู้จำนวนสินค้าคงเหลือ ต้นทุนและกำไรขั้นต้นได้รวดเร็วที่สุด

 

ยิ่งถ้าโปรแกรมไหนมี Mobile POS บนมือถือ ก็ยิ่งขายแบบมีหน้าร้าน หรือให้น้องพนักงานขายหรือให้บริการถึงที่บันทึกยอดขายได้ง่ายขึ้นไปอีก สุดท้ายของฝั่งรายได้คือการติดตามการชำระเงินจากลูกค้าค่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละวันมีรายได้เท่าใด รับชำระเป็นเงินสด เงินโอนเท่าใดบ้าง จะได้นับเงินว่ารายได้ตรงกับยอดขายหรือไม่ บวกกับสามารถทวงหนี้จากลูกค้าที่ครบกำหนดชำระให้เข้ามาเป็นกระแสเงินสดหล่อเลี้ยงกิจการได้ด้วยค่ะ

 

2. ระบบสินค้าคงเหลือ

 

ระบบสินค้าคงเหลือที่โปรแกรมบัญชีมีก็ควรครอบคลุมทุกส่วนของงานคลังสินค้า ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแต่ผู้ขายนำสินค้ามาส่งพนักงานของแผนกที่ทำการตรวจรับสินค้าเปรียบเทียบสินค้ากับเอกสารใบกำกับสินค้าและใบสั่งซื้อ เมื่อตรวจเสร็จโปรแกรมบัญชีก็สามารถออกใบรับสินค้าเรียงตามลำดับเลขที่ป้องกันการข้ามหรือซ้ำของเลขที่เอกสาร

 

เมื่อเวลาใดที่มีการเบิกสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าสามารออกเอกสารใบกำกับภาษี/ใบส่งสินค้าให้กับลูกค้าและเป็นเอกสารยืนยันกับแผนกบัญชีในการบันทึกลดยอดบัญชีคุมสินค้า หรือ 

 

เวลาที่มีการการตรวจนับสินค้าก็โปรแกรมบัญชีก็ควรต้องพิมพ์ยอดสินค้าในระบบเพื่อมาตรวจสอบคู่กับสินค้าคงคลัง และจัดทำเป็นรายงานการตรวจนับโดยมีผู้ตรวจนับลงนามร่วมกันไว้เป็นหลักฐาน 

 

ตลอดจนการรายงานสินค้าคงเหลือที่ต้องจัดทำได้แก่ สินค้าหมุนเวียนช้า สินค้าล้าสมัย สินค้าเกินปริมาณสูงสุดและน้อยกว่าจุดต่ำสุดที่กำหนดไว้ และสินค้าชำรุดได้แบบ Real-time  ถ้าต้องการเข้าใจการบริหารสินค้าคงเหลืออ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ค่ะ ทำความเข้าใจวงจรงานคลังสินค้า และเทคโนโลยีที่มาเพิ่มความเป๊ะ

 

3. ระบบค่าใช้จ่ายและจัดการสินทรัพย์

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ดีควรจะต้องรองรับการบันทึกค่าใช้จ่ายในปริมาณมากๆ ด้วยวิธีการง่ายๆ และมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยหรือ OCR ที่เพียงถ่ายภาพ หรือ แสกนก็สามารถแปลงไฟล์เป็น text เพื่อบันทึกบัญชี ลดการคีย์ซ้ำแบบนี้ก็จะช่วยลดงานได้มากเลยหละค่ะ หรืออีกฝั่งก็คือค่าใช้จ่ายแม้มีหลายประเภทมากน้องแอดมินหรือผู้บันทึกอาจไม่เข้าใจว่าเลขที่บัญชี (Account Code) ต่างๆคืออะไร ก็สามารถบันทึกตามประเภทบัญชีที่ถูกต้องได้ก็จะยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ

 

พร้อมทั้งอีกขาหนึ่งที่คล้ายกับค่าใช้จ่ายแต่ไม่เชิงคือ การจัดการสินทรัพย์ (Asset) ค่ะ คงจะ perfect ที่สุด ถ้าหากโปรแกรมบัญชีสามารถบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ ตู้ โต๊ะ ทีวีของกิจการ พร้อมตัดค่าเสื่อมราคา (Depreciation) เป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละปี เพื่อให้ผู้บริหารเห็นงบทดลอง ติดตามกำไรที่แท้จริงได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าเสื่อมราคาได้ด้วย เป็นแนวทางในการควบคุมต้นทุน บริหารกระแสเงินสด วางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ

 

4. ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีงินได้หัก ณ ที่จ่าย

 

แน่นอนว่าเวลาจดทะเบียนบริษัทระบบภาษีย่อมเป็นเรื่องที่ตามมาแน่นอน ดังนั้นถ้าจะเลือกโปรแกรมบัญชีสักหนึ่งอันก็ควรจะต้องมองหาอันที่สามารถเรียกดูรายงานภาษีขาย จัดการภาษีซื้อของกิจการเป็นไปตามข้อกำหนดของสรรพากร และยังสามารถส่งหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย สามารถยื่นนำส่งเพื่อชำระภาษี ภ.ง.ด 3 - 53 ได้แบบสะดวกสบาย

 

และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือโปรแกรมบัญชีต้องสนับสนุนการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice ค่ะ เพราะเห็นได้ชัดๆ จากการนโยบายต่างๆของหน่วยงานรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็น Easy e-Receipt นโยบาย เที่ยวเมืองรอง แผนยุทธศาสตร์ e-Payment และอื่นๆ อีกมากมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ของ e-Tax Invoice ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

 

5. ระบบเก็บข้อมูลลูกค้า และพนักงานขาย

 

โปรแกรมบัญชีที่ดีควรมีระบบจัดการด้านการขายที่มีเก็บประวัติลูกค้า ว่าลูกค้ารายใดเป็นลูกค้าสำคัญเพื่อเป็นแนวทางในการทำโปรโมชัน หรือให้สิทธิพิเศษดึงให้ลูกค้าอยู่กับเรานานๆ รวมถึงการบันทึกการขายของพนักงานเพื่อวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การขายสินค้าหรือการให้บริการของพนักงานได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุดนั่นเองค่ะ

 

เหตุผลที่โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป เป็นสิ่งที่ถูกเลือกในยุคนี้

 

เมื่อทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงจะได้ทราบความหมายและการตอบโจทย์กระบวนการต่างๆของกิจการว่าโปรแกรมบัญชีควรจะมีอะไรบ้างกันแล้วนะคะ ทีนี้มาดู 4 เหตุผลหลักกันดีกว่าค่ะว่าทำไมผู้ประกอบการถึงเลือกใช้โปรแกรมบัญชี

 

 

1. เชื่อมต่อข้อมูลจากโปรแกรมอื่นมายังระบบบัญชีได้

 

เมื่อกลับไปมองในชีวิตประจำวัน จะพบว่า คนใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอย่างแยกกันไม่ออกแล้ว ทั้งการติดต่อสื่อสาร ดูหนัง ฟังเพลง ซื้อสินค้า และบริการ ทำธุรกรรมกับธนาคาร แม้กระทั่งการจ่ายภาษี ผ่านทางออนไลน์แอปพลิเคชันต่าง ๆ เพราะว่าเกิดความสะดวกขึ้นในการเข้าถึงและง่ายในการติดต่อหรือทำรายการ

 

ผู้พัฒนาโปรแกรมทางบัญชีมักจะเปิดหว้างให้โปรแกรมธุรกิจระบบอื่นที่ใช้ Cloud based เช่น E-Commerce, Food delivery, ระบบ e-Tax Invoice สามารถเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน API (Application Programming Interface) มายังระบบบัญชีได้เลย ที่สำคัญแอดมินของกิจการและนักบัญชีไม่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลซ้ำ และมีเวลาที่จะไปทำงานด้านอื่นที่เพิ่มคุณค่าให้กับกิจการได้ค่ะ

 

2. ข้อมูลธุรกรกรรมจากฝ่ายต่างๆ เชื่อมโยงไปลงบัญชีได้อัตโนมัติ

 

ด้วยนวัตกรรมการพัฒนาระบบหลังบ้านที่มีการ set ว่าจุดการออกเอกสาร หรือปรับสถานะใด จะเป็นจังหวะในการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ดังนั้นการทำงานหน้าบ้านไม่จำกัดอีกต่อไปว่าผู้ที่บันทึกจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านบัญชี แต่เป็นการเปิดโอกาสให้หลายๆคนที่คิดว่าไม่มีพื้นฐานด้านบัญชี ก็ลงบัญชี ทำภาษีได้ถูกต้องแบบไม่รู้ตัว ผ่านการออกแบบ UX/UI ที่เข้าใจง่ายเหมือนเป็นการกดปุ่ม หรือพิมพ์ข้อความคุยกับเพื่อนเท่านั้นเองค่ะ

 

นั่นทำให้สิ่งที่นักบัญชีกังวลที่สุดคือ ความครบถ้วน (Completeness) ของข้อมูล Input เพื่อตั้งต้นในการทำด้านอื่นๆนั้นหายไปได้ค่ะ เพราะการใช้โปรแกรมบัญชีบันทึกหรือทำให้เกิดการลงบัญชีทันทีเข้ามาช่วยได้นั่นเอง

 

3. อัพเดตข้อมูลธุรกิจ Real time เพื่อใช้ตัดสินใจได้ทันที

 

ความยืดหยุ่นในการทำงานที่หลายฝ่ายสามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ฐานข้อมูลเดียวกัน ภายใต้การจำกัดให้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เข้าดูหรือแก้ไขข้อมูลได้เท่านั้น ผู้บริหารก็จะได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจได้ทันที ไม่ต้องรอนักบัญชีค้นหาข้อมูลและออกเป็นรายงานฉบับใหม่ขึ้นมา แถมเสียเวลาไปอีก ข้อมูลที่ได้รับก็มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่ได้มาจากการบันทึกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน เลยเป็นการลดโอกาสในการผิดพลาดได้อีกค่ะ

 

4. ลดต้นทุนค่าซอฟแวร์

 

ค่าใช้จ่ายโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปมักจะเป็นค่าบริการรายเดือน ที่แบ่งช่วงราคาตามความจำเป็นในการทำงาน แถมหลังบ้านยังมีนักพัฒนาคอยปรับปรุง อัพเดต version ให้อยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้อซอฟแวร์ราคาสูง รวมทั้งจ้างผู้เชี่ยวชาญมาคอยดูแลระบบเพิ่ม เลยช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย

 

ดิจิทัลเป็นทางรอดไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป การ Transformation ผ่านการเลือกใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์จึงเป็นสะพานพาไปสู่เป้าหมายคือการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จในรูปแบบใหม่ของกิจการพร้อมๆไปกับนักบัญชีในอนาคต 

 

ส่วนใครที่กำลังกังวลว่าจะหาโปรแกรมบัญชีดีๆ เช่นที่ว่าได้จากที่ไหน ผู้เขียนก็ขอแนะนำโปรแกรมบัญชีออนไลน์ FlowAccount ค่ะ ที่ยืนยันความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานมากกว่า 120,000 user และมากกว่า 4,190 สำนักงานบัญชีที่เลือกใช้