ปัจจุบันคงมีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักคริปโทเคอร์เรนซีหรือที่เรียกติดปากกันว่า “คริปโต” เพราะหลังจากที่เป็นข่าวฮือฮาในช่วงปีก่อนๆ จากการที่มูลค่าของ Bitcoin ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีรายงานโดย Skynova ที่เผยว่ามีผู้ประกอบกิจการขนาดเล็กในสหรัฐฯ กว่า 30% เริ่มรับคริปโตเป็นช่องทางการชำระเงินแล้ว

แล้วสำหรับเจ้าของธุรกิจในประเทศไทยล่ะ คริปโตจะเหมาะกับธุรกิจของเราหรือไม่ มีเรื่องมีอะไรที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจรับคริปโตบ้าง บทความนี้จะมาเล่าให้ฟัง

คริปโทเคอร์เรนซี คืออะไร

Cryptocurrency คือ สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีมูลค่าและสามารถซื้อ-ขายได้จริงตามกลไกตลาด ซึ่งก็เหมือนกับสกุลเงินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง เงินบาท เงินดอลลาร์ เป็นต้น เพียงแต่ไม่สามารถพิมพ์ออกมาให้จับต้องได้ โดยการทำธุรกรรมจะถูกบันทึกอยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส

สิ่งที่ทำให้คริปโตแตกต่างกับสกุลเงินที่เราคุ้นเคย ก็คือมันสามารถตัดคนกลางออกจากการทำธุรกรรมไปได้ หมายความว่าการทำธุรกรรมโดยเฉพาะธุรกรรมข้ามประเทศจะไม่ผ่านตัวกลาง ทำให้สามารถลดต้นทุนและระยะเวลาลงไปได้อย่างมาก 

ประโยชน์ของคริปโทเคอร์เรนซีสำหรับผู้ประกอบกิจการ

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังพิจารณาข้อดีของคริปโทเคอร์เรนซีที่จะมีต่อกิจการ สามารถสรุปออกได้ดังต่อไปนี้

• ค่าธรรมเนียมต่ำ: คริปโทเคอร์เรนซีสามารถตัดคนกลางออกจากการทำธุรกรรมไปได้ นั่นจึงทำให้มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงอย่างมาก นอกจากนี้การทำธุรกรรมด้วยคริปโตยังสามารถแบ่งหน่วยทศนิยมได้เยอะ จึงเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการทำธุรกรรมขึ้นไปอีก
• ขยายฐานลูกค้า: คริปโตเป็นเครือข่ายที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จากทุกมุมโลกเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต นั่นหมายความว่าผู้ประกอบกิจการสามารถขยายกิจการออกไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้นโดยเปิดช่องทางการรับชำระเงินเพิ่มเป็นคริปโทเคอร์เรนซีเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่สนใจบริการของเรา
• ปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า: การรับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นอีกช่องทาง นอกจากจะช่วยขยายฐานลูกค้าออกไปแล้ว ยังเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้ให้บริการทางการเงินได้อีกด้วย

สิ่งที่ต้องระวังของคริปโทเคอร์เรนซี

เหรียญทุกเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ คริปโทเคอร์เรนซีไม่ได้มีแค่ประโยชน์แต่ก็มีข้อที่ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน โดยสิ่งที่ต้องระวังสำหรับคริปโตมีดังนี้

• ความยาก: เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซีถือเป็นเรื่องที่ยังค่อนข้างใหม่สำหรับหลาย ๆ คน เจ้าของธุรกิจจึงควรมีความรู้ความเข้าใจในระบบการทำงานของมันให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานของ Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ รวมถึงศึกษาเรื่องของบล็อกเชนและพื้นฐานของคริปโตสกุลต่างๆ
  
  • สำหรับคนที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโตสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต 
    
• ความผันผวนของราคา: ข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่ควรระวังที่สุดสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจคริปโทเคอร์เรนซีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคริปโตสามารถซื้อ-ขายได้ตลอดเวลา และไม่มีตัวกลางสามารถเข้ามาควบคุมมูลค่าได้ มูลค่าของมันจึงเป็นไปตามกลไกอุปสงค์-อุปทานของตลาด ราคาคริปโตจึงอาจผันผวนได้มากกว่า 25% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หากเจ้าของธุรกิจสนใจประยุกต์ใช้คริปโทเคอร์เรนซีก็ต้องพิจารณารับความเสี่ยงและหาวิธีรับมือไว้ด้วย

• ความไม่ชัดเจนของกฎหมาย: อีกหนึ่งข้อควรระวังเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีก็คือแนวการกำกับดูแลหรือข้อกฎหมายที่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งกำลังมีการร่างข้อกฎหมายเพื่อกำกับการใช้งานคริปโต และเมื่อกฎระเบียบต่างๆ มีผลบังคับใช้แล้ว ก็มีแนวโน้มว่าจะมีการพัฒนาต่อไป ซึ่งหมายความว่าเจ้าของธุรกิจจะต้องปรับตัวตามให้ทัน

สรุป

คริปโทเคอร์เรนซีคือสกุลเงินดิจิทัลที่ทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน สามารถตัดตัวกลางออกจากการทำธุรกรรมไปได้ จึงสามารถมอบประโยชน์ให้กับเจ้าของกิจการได้ในแง่ของค่าธรรมเนียมที่ถูกลงเมื่อทำธุรกรรมระหว่างประเทศ สามารถขยายฐานลูกค้าให้เปิดกว้างออกไปได้มากขึ้น และเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ต้องระวังในการประยุกต์ใช้คริปโทเคอร์เรนซีกับธุรกิจ ได้แก่ ความซับซ้อนของคริปโทเคอร์เรนซีที่มีค่อนข้างสูง ต้องศึกษาและทำความเข้าใจให้ดีก่อน รวมถึงความผันผวนของราคาและความไม่แน่นอนของกฎหมายที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเสมอ

อ้างอิง: Bitkub Blog, Business News Daily, Entrepreneur

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

คำเตือน:

* คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต