รวม มาตรการผ่อนปรนทางบัญชี ช่วง Covid-19 ที่สำนักงานบัญชีควรแนะนำลูกค้า

มาตรการผ่อนปรนทางบัญชี

สรุป มาตรการผ่อนปรนทางบัญชี ช่วง Covid-19 ที่สำนักงานบัญชีสามารถแนะนำให้กับลูกค้าที่ดูแลอยู่ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์และลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ อาทิ 

  • ขยายเวลายื่นงบการเงิน 
  • เลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 
  • ผ่อนปรนแนวทางการปฏิบัติทางบัญชี 
  • ลดอัตราเงินสมทบและขยายเวลานำส่งเงินสมทบประกันสังคม 
  • ลดค่าไฟฟ้า-ขยายเวลาชำระเงิน-ผ่อนผันค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ 
  • ลดค่าน้ำประปา-ขยายเวลาชำระเงิน 
  • มาตรการเงินกู้-สินเชื่อ

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 มีการปิดเมืองปิดประเทศ ผู้ประกอบการหลายรายได้รับความเดือดร้อน บางรายขาดรายได้ ขาดสภาพคล่อง และอาจจะต้องถึงขั้นปิดกิจการ

 

ทางภาครัฐเองก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 มามากมาย เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤต Covid-19 ไปด้วยกัน 

 

มีมาตรการไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับงานบัญชี และเราสามารถบอกต่อแก่ผู้ประกอบการ เพื่อช่วยลดภาระแก่พวกเขาได้ ลองดูสรุปมาตรการผ่อนปรนทางบัญชี ช่วง Covid-19 ที่จะเน้นในเรื่องมาตรการที่กระทบต่องบการเงิน แนวทางปฏิบัติด้านบัญชี มาตรการลดรายจ่าย และมาตรการกู้ยืม สำหรับผู้ประกอบการ ในบทความนี้กันค่ะ

 

 

ขยายเวลายื่นงบการเงิน

 

สำหรับกิจการประเภทห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศประกอบกิจการในไทย กิจการร่วมค้า ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 สามารถยื่นงบการเงินได้ล่าช้าถึง 31 สิงหาคม 2563 โดยไม่ต้องมีหนังสือชี้แจง

 

ประเภทกิจการ

รอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด

ขยายระยะเวลายื่นงบการเงิน

  • ห้างหุ้นส่วน
  • นิติบุคคลตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศประกอบกิจการในไทย
  • กิจการร่วมค้า

31 ตุลาคม 2562 ถึง

31 มีนาคม 2563

ถึง 31 สิงหาคม 2563

 

 

เลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

 

สำหรับผู้ประกอบการประเภทบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สมาคมการค้า และหอการค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จนไม่สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อมีการจัดประชุมเกิดขึ้นแล้ว ให้ทำหนังสือชี้แจงเหตุผลยื่นต่อนายทะเบียนเป็นกรณีไป 

 

ดาวน์โหลดหนังสือชี้แจงเหตุผลประชุมล่าช้า (https://www.dbd.go.th/download/regis_file/covid19/dbdregist_exam_COVID19.pdf)

 

ส่วนกำหนดการส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นและส่งงบการเงินแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะยึดตามไทม์ไลน์เดิม นับจากวันที่จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว ดังนี้

 

ประเภทกิจการ

กำหนดการส่งรายชื่อผู้ถือหุ้น

กำหนดการส่งงบการเงิน

บริษัทจำกัด
  • ส่ง บอจ.5 ภายใน 14 วัน นับแต่วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
  • ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่งบได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัทมหาชนจำกัด
  • ส่ง บอจ.6 ภายใน 1 เดือน นับแต่วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
  • ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่งบได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
สมาคมการค้าและหอการค้า       -
  • ภายใน 30 วัน นับแต่มีการประชุมใหญ่

 

ข้อสังเกตสำหรับกิจการกลุ่มนี้ คือ ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่ได้กำหนดว่าต้องจัดประชุมภายในวันที่เท่าใด ดังนั้นการส่งงบการเงินและรายชื่อผู้ถือหุ้นก็สามารถนำส่งล่าช้าได้ โดยยึดตามวันที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นนั่นเอง

 

 

ผ่อนปรนแนวทางการปฏิบัติทางบัญชี

 

ในส่วนของการบัญชี คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ก็ได้มีประกาศผ่อนปรนชั่วคราวเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติทางบัญชี 2 ฉบับ ได้แก่

 

  • แนวปฏิบัติฯ ฉบับที่ 1 เรื่อง มาตรการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับกิจการที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

 

เพื่อช่วยผ่อนปรนให้กับสถาบันการเงินที่อยู่ในกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กิจการที่ให้สินเชื่อลูกค้า เช่น เช่าซื้อ ลีสซิ่ง บัตรเครดิต รวมทั้งกิจการอื่นๆ ทุกกิจการ ที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามแนวทางของ ธปท. เพื่อช่วยให้ลูกหนี้เกิดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ

สภาวิชาชีพบัญชีได้ผ่อนปรนทางบัญชีการจัดชั้นลูกหนี้ตามหลักการของ TFRS 9 เช่น 

  • การจัดชั้นลูกหนี้ Non-NPL เป็นชั้น 1 (stage1) ได้ทันที โดยไม่ต้องรอติดตามผล 
  • การจัดชั้นลูกหนี้ NPL เป็นชั้น 1 (stage 1) โดยให้ติดตามเพียง 3 เดือนหรือ 3 งวด 
  • การให้คงลูกหนี้อยู่ชั้นเดิมต่อไปได้ก่อนเข้ามาตรการช่วยเหลือ 
  • การยกเว้นการคำนวณหนี้สงสัยจะสูญจากวงเงินที่ยังไม่ได้ใช้ (Unused credit line) เป็นต้น

 

  • แนวปฏิบัติฯ ฉบับที่ 2 เรื่อง มาตรการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับทางเลือกเพิ่มเติมทางบัญชีเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

 

แนวปฏิบัติฉบับนี้ ช่วยผ่อนปรนให้ทุกกิจการที่ใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน และได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ประกอบด้วย

  • TFRS ฉบับที่ 9 เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน 
  • TFRS ฉบับที่ 13 เรื่อง การวัดมูลค่ายุติธรรม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน 
  • TFRS ฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า มาตรฐานการบัญชี 
  • TFRS ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ มาตรฐานการบัญชี 
  • TFRS ฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ มาตรฐานการบัญชี 
  • TFRS ฉบับที่ 37 เรื่อง ประมาณการหนี้สินฯ 

 

สภาวิชาชีพบัญชีได้มีมาตรการผ่อนปรนชั่วคราวทางบัญชีในเรื่องต่าง ๆ เช่น 

  • การคำนวณหนี้สงสัยสูญด้วยวิธีอย่างง่าย ให้สามารถใช้ข้อมูลในอดีตโดยไม่ต้องนำข้อมูลคาดการณ์ในอนาคตมาใช้คำนวน 
  • การวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุนนอกตลาดให้สามารถใช้ยอด ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งวัดด้วยมูลค่ายุติธรรมแล้วโดยการประเมินมูลค่ายุติธรรมในการปิดงบไตรมาสที่ 1 2 3 และงบปี 2563 สามารถใช้ยอดมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้นได้ 
  • การวัดมูลค่ายุติธรรมสามารถใช้หลักการตามมาตฐาน TFRS 9 ย่อหน้า ข 5.2.3 ซึ่งเปิดช่องให้สามารถพิจารณาราคาทุน หรือมูลค่าสุทธิตามบัญชีมาใช้ได้ เป็นต้น

 

สำหรับระยะเวลาการผ่อนปรนของแนวทางปฏิบัติทางบัญชีทั้งสองฉบับ สรุปได้ตามนี้

 

แนวทางปฏิบัติทางบัญชี

ระยะเวลาการผ่อนปรน

แนวปฏิบัติฯ ฉบับที่ 1 เรื่อง มาตรการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับกิจการที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่า ธปท. จะมีการเปลี่ยนแปลง
แนวปฏิบัติฯ ฉบับที่ 2 เรื่อง มาตรการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับทางเลือกเพิ่มเติมทางบัญชี 1 มกราคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2563

 

ลดอัตราเงินสมทบและขยายเวลานำส่งเงินสมทบประกันสังคม

 

  • ลดอัตราเก็บเงินสมทบประกันสังคม ของนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นระยะเวลา 3 เดือน 

 

 

งวดค่าจ้าง

อัตราสมทบเดิม

อัตราสมทบใหม่

ลูกจ้าง มีนาคม - พฤษภาคม 2563

5%

4%

นายจ้าง

มีนาคม - พฤษภาคม 2563

5%

1%

 

  • ขยายระยะเวลานำส่งเงินสมทบประกันสังคม ให้แก่นายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สำหรับช่วงเวลา 3 เดือนนี้

 

งวดค่าจ้าง

กำหนดเดิม

กำหนดใหม่

มีนาคม 2563 15 เมษายน 2563 15 กรกฎาคม 2563
เมษายน 2563 15 พฤษภาคม 2563 15 สิงหาคม 2563
พฤษภาคม 2563 15 มิถุนายน 2563 15 กันยายน 2563

 

ลดค่าไฟฟ้า-ขยายเวลาชำระเงิน-ผ่อนผันค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ

 

มาตรการลด-ขยาย-ผ่อนผันค่าไฟฟ้า จากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อช่วยเหลือกิจการแบ่งตามประเภท ดังนี้

มาตรการ

ประเภทกิจการ ระยะเวลา

รอบบิล

ลดค่าไฟฟ้า 3% ทุกประเภท 3 เดือน เมษายน – มิถุนายน 2563
ขยายระยะเวลาชำระค่าไฟ 6 เดือน โรงแรม กิจการให้เช่าอาศัย 2 เดือน เมษายน - พฤษภาคม 2563
ผ่อนผันการเก็บค่าไฟฟ้าอัตราขั้นต่ำ กิจการขนาดกลาง - ใหญ่ โรงแรม  3 เดือน เมษายน - มิถุนายน 2563

 

ลดค่าน้ำประปา-ขยายเวลาชำระเงิน

 

มาตรการลดค่าน้ำประปาและขยายระยะเวลาชำระเงิน สรุปรายละเอียดดังนี้

มาตรการ ประเภทกิจการ ระยะเวลา รอบบิล
ลดค่าน้ำประปา 3% ทุกประเภท 3 เดือน เมษายน – มิถุนายน 2563
ขยายระยะเวลาชำระค่าน้ำประปา โดยไม่คิดดอกเบี้ย และผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน โรงแรม กิจการให้เช่าอาศัย 2 เดือน เมษายน - พฤษภาคม 2563

 

มาตรการเงินกู้-สินเชื่อ

 

ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการต่างๆ มามากมายเพื่อช่วยเหลือกิจการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลักๆ ได้แก่

 

1) ลดอัตราดอกเบี้ย  

ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง จนมาอยู่ที่ร้อยละ 0.5 

 

2) เลื่อนและลดภาระการชำระหนี้ 

เลื่อนกำหนดการชำระหนี้ สำหรับธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs

 

3) ให้สินเชื่อเพิ่มเติม เช่น

  • โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยธนาคารออมสินสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม  150,000 ล้านบาท ให้แก่สถาบันการเงินและสถาบันการเงินให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายไม่เกิน 20 ล้านบาท
  • โครงการสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ได้แก่ ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจสปา ธุรกิจขนส่งที่เกี่ยวเนื่อง โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท วงเงินต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับ 2 ปีแรก กู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 5 ปี รับคำขอสินเชื่อถึง 30 ธันวาคม 2563
  • โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำส่งเสริมการจ้างงาน วงเงิน 30,000 ล้านบาท จากสำนักงานประกันสังคมร่วมกับสถาบันการเงิน สำหรับกิจการที่ขึ้นทะเบียนและจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องรักษาจำนวนผู้ประกันตนไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อเป็นระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3%-5% ต่อปี และคงที่ 3 ปี 
  • โครงการสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (Soft Loan) ให้แก่ธุรกิจ SMEs วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก นับจากวันที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร รัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยแทนโดยมีเงื่อนไขว่าลูกหนี้ต้องไม่มีสถานะเป็น NPL ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

 

4) ปรับโครงสร้างหนี้ 

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ให้สถาบันการเงินเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ SMEs ได้ โดยไม่ต้องรอให้เป็นหนี้เสีย เพื่อให้การผ่อนชำระหนี้สอดคล้องกับรายได้ในอนาคต เช่น 

  • ยืดระยะเวลาผ่อน 
  • เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน 
  • ลดอัตราดอกเบี้ย 
  • เปลี่ยนประเภทหนี้ให้เป็นสินเชื่อระยะยาวที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า

 

ถ้าเราลองศึกษาดูดีๆ มีหลายมาตรการเลยที่เรานำมาใช้ได้กับลูกค้าบัญชีที่เราดูแลอยู่ คงจะดีไม่น้อยหากเราได้บอกต่อ และช่วยให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากมาตรการเหล่านี้ บางครั้งความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากเราอาจจะช่วยให้พวกเขาไม่ต้องปิดกิจการก็เป็นได้นะคะ

 

About Author

ลองใช้งานFlowAccount ฟรี 30 วันได้ง่ายๆ วันนี้
ลองใช้งานฟรีได้ง่ายๆ วันนี้
สมัครเลย

You may also like