
| หลายคนที่กำลังวางแผนขยายธุรกิจ และมีเป้าหมายอยากจดทะเบียนบริษัท มักจะสะดุดเมื่อพบกับคำว่า “ทุนจดทะเบียนบริษัท” ซึ่งเป็นคำที่ได้ยินอยู่บ่อยในขั้นตอนการจัดตั้งบริษัท แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจแน่ชัดว่าหมายถึงอะไร หรือมีผลอย่างไรต่อการดำเนินธุรกิจ จนเกิดคำถามตามมาว่า “ทุนจดทะเบียนคืออะไร สำคัญอย่างไร และควรตั้งไว้เท่าไรถึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของเรา” |
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกมุมของทุนจดทะเบียนบริษัท ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ ไปจนถึงแนวทางการกำหนดทุนที่เหมาะสม เพื่อให้การเริ่มต้นธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น
เลือกอ่านได้เลย!
Toggleทุนจดทะเบียนบริษัท คืออะไร ?
ทุนจดทะเบียนบริษัท (Registered Capital) คือ มูลค่าที่บริษัทกำหนดขึ้นเพื่อนำไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถมาจาก เงินสด ทรัพย์สิน หรือแรงงานที่นำมาตีราคาเป็นมูลค่าเงินบาท เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการจำนวนเท่าใด
ซึ่งการทำความเข้าใจเรื่องของทุนจดทะเบียนบริษัท ถือว่าเป็นขั้นตอนจดทะเบียนบริษัท ขั้นแรกที่ผู้ประกอบการมือใหม่ ควรต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนเริ่มจดทะเบียนบริษัท
ทุนจดทะเบียนบริษัท สำคัญอย่างไร ? บ่งบอกกับธุรกิจอะไรได้บ้าง
ทุนจดทะเบียนบริษัท เปรียบเสมือนหน้าตาของบริษัท เพราะเป็นขั้นตอนแรกที่ใช้แสดงให้คนภายนอกเห็นถึง “ศักยภาพ” ของธุรกิจ ว่าบริษัทมีฐานทุนมากน้อยเพียงใด และมีความมั่นคงทางการเงินและความพร้อมในการดำเนินธุรกิจในระดับไหน โดยความสำคัญของทุนจดทะเบียน สามารถแบ่งออกเป็นข้อสำคัญหลัก ๆ ได้ดังนี้
แสดงศักยภาพและความมั่นคงของบริษัท
ทุนจดทะเบียนบริษัท จะปรากฏบนเอกสารราชการและเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้บุคคลภายนอกสามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการประเมินว่าบริษัทมีศักยภาพและความมั่นคงทางการเงินเพียงใด ยิ่งทุนจดทะเบียนสูง ก็ยิ่งสะท้อนถึงความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนความรับผิดชอบความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นรับร่วมกัน
กำหนดโครงสร้างการถือหุ้น
ทุนจดทะเบียนจะถูกแบ่งออกเป็นหุ้น โดยแต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่ากัน ทำให้สามารถระบุได้ว่าใครถือหุ้นจำนวนกี่หุ้น และมีสัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัทเท่าไร
ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมี ทุนจดทะเบียน (Registered Capital) จำนวน 1,000,000 บาท และกำหนด มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) หุ้นละ 100 บาท จะคำนวณจำนวนหุ้นได้ดังนี้
สูตรการคำนวณหาจำนวนหุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมด = ทุนจดทะเบียน ÷ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้
= 1,000,000 ÷ 100
= 10,000 หุ้น
การกำหนดเช่นนี้ช่วยให้สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ใครถือหุ้นจำนวนกี่หุ้น และมีสัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัทเท่าใด
กำหนดความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้น
จำนวนทุนจดทะเบียนยังสะท้อนขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้น หากมีการชำระค่าหุ้นไม่ครบ ผู้ถือหุ้นมีหน้าที่รับผิดชอบต่อส่วนที่ยังไม่ได้ชำระตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ หากเกิดหนี้สินหรือภาระผูกพันของบริษัท ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบเฉพาะจำนวนที่ยังไม่ได้ชำระ และไม่เกินสัดส่วนที่ถืออยู่
สร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจและร่วมทุน
ทุนจดทะเบียนจะช่วยสร้างความมั่นใจให้คู่ค้า นักลงทุน หรือผู้ร่วมทุน ว่าบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรองรับความเสี่ยงและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ทุนจดทะเบียนบริษัท ขั้นต่ำเริ่มที่กี่บาท ?
เรื่อง ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ เป็นประเด็นที่มักถกเถียงกันในวงการธุรกิจอยู่เสมอ หลายคนมักแนะนำว่าควรกำหนดไว้ที่ 100,000 บาท หรือบางรายบอกว่า 500,000 บาท แต่ในความเป็นจริงสำหรับประเทศไทย ต้องเข้าใจก่อนว่าเรื่องทุนจดทะเบียนถูกกำกับอยู่ภายใต้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซึ่งกฎหมายไม่ได้ระบุตัวเลขขั้นต่ำของทุนจดทะเบียนอย่างชัดเจน แต่กำหนดเพียงว่า มูลค่าหุ้นต่อหุ้นจะต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท และบริษัทจำกัดต้องมี ผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน เมื่อรวมเงื่อนไขทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน จะเท่ากับว่าทุนจดทะเบียนขั้นต่ำตามกฎหมาย คือ 10 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนขั้นต่ำสุดที่สามารถจดทะเบียนบริษัทได้
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะกำหนดทุนจดทะเบียนสูงกว่านี้หลายเท่า ไม่ว่าจะเพื่อความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ สร้างความมั่นใจให้คู่ค้า นักลงทุน หรือเพื่อความยืดหยุ่นในการออกหุ้นและระดมทุนในอนาคต

ความแตกต่างระหว่างทุนจดทะเบียนน้อยกับทุนจดทะเบียนสูง มีอะไรบ้าง ? อยากเริ่มจดทะเบียนบริษัทต้องให้ความสำคัญ!
ทุนจดทะเบียนน้อย
เหมาะกับผู้เริ่มต้นธุรกิจหรือธุรกิจขนาดเล็ก เพราะสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ ทำให้ลดความเสี่ยงด้านการเงินในช่วงเริ่มต้น และสามารถทดลองตลาดหรือรูปแบบธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น แต่ในทางกลับกัน การตั้งทุนจำนวนน้อยอาจทำให้ ภาพลักษณ์ของบริษัทดูเล็กหรือยังไม่มั่นคง ส่งผลให้คู่ค้า นักลงทุน หรือสถาบันการเงินมองว่า บริษัทยังไม่พร้อมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่หรือการร่วมลงทุน และอาจจำกัดโอกาสในการขยายธุรกิจหรือระดมทุนเพิ่มเติมในอนาคต
ทุนจดทะเบียนสูง
ช่วยสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า นักลงทุน และผู้ร่วมทุน เพราะสะท้อนถึงความพร้อมทางการเงินและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้สามารถ ขยายธุรกิจ ดึงดูดหุ้นส่วน และระดมทุนได้ง่าย แต่ต้องแลกมาด้วยการใช้เงินลงทุนสูงตั้งแต่เริ่มต้น และผู้ถือหุ้นต้องรับผิดชอบต่อหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระตามสัดส่วน ซึ่งอาจสร้างภาระทางการเงินและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
ควรเลือกทุนจดทะเบียนบริษัท เท่าไหร่ดี ? แนะนำตามประเภทของธุรกิจ
หลายคนอาจเริ่มตั้งคำถามว่า หากทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเพียง 10 บาท จะน้อยเกินไปหรือไม่ หรือ ทุนจดทะเบียนบริษัท 5 ล้าน จะมากเกินไปหรือไหมควรกำหนดทุนเท่าไรถึงเหมาะสม และควรตั้งทุนจากปัจจัยใดเป็นหลัก อีกทั้งหลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าการตั้งทุนในปัจจุบันจะสูงหรือต่ำเกินไปหรือไม่
เพื่อให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น FlowAccount ได้จัดทำ แนวทางการตั้งทุนจดทะเบียน ไว้ให้พร้อมภายในบทความนี้แล้ว คุณสามารถใช้แนวทางดังกล่าวเป็นตัวช่วยในการกำหนดทุนจดทะเบียนที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ทันที
ธุรกิจขนาดเล็ก (Small Business)
ทุนจดทะเบียนแนะนำ: ประมาณ 100,000 – 500,000 บาท
เหมาะกับ: ผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการขยับสู่การดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัท เพื่อแยกออกจากรายได้ประจำอย่างชัดเจน
ประเภทธุรกิจ: เหมาะสำหรับธุรกิจบริการขนาดเล็ก ร้านค้าออนไลน์ หรือสตูดิโอครีเอทีฟ ที่มีการดำเนินงานขนาดไม่ใหญ่ และต้องการเริ่มต้นจัดตั้งบริษัทอย่างเป็นระบบ
ข้อดี: ใช้เงินทุนตั้งต้นไม่มาก บริหารจัดการง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
ธุรกิจขนาดกลาง (Medium Business)
ทุนจดทะเบียนแนะนำ: ประมาณ 500,000 – 2,000,000 บาท
เหมาะกับ: บริษัทที่เริ่มมีพนักงานประจำ และมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ประเภทธุรกิจ: ธุรกิจบริการมืออาชีพ เช่น บริษัทที่ปรึกษา เอเจนซี่ด้านการตลาด พัฒนาและวางระบบซอฟต์แวร์ หรือรับเหมาก่อสร้าง
ข้อดี: ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท สร้างความมั่นใจแก่คู่ค้า และเปิดโอกาสในการเข้าถึงโครงการหรือธุรกิจขนาดใหญ่
ธุรกิจขนาดใหญ่ (Large Business)
ทุนจดทะเบียนแนะนำ: ตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป
เหมาะกับ: ธุรกิจที่มีแผนขยายกิจการ ต้องการระดมทุน ดึงดูดนักลงทุน หรือทำงานร่วมกับองค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงานภาครัฐ
ประเภทธุรกิจ: บริษัทที่มีการหมุนเวียนเงินสูง เช่น ธุรกิจก่อสร้าง เทคโนโลยี โรงงานผลิต หรือธุรกิจอุตสาหกรรม
ข้อดี: สร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ ดึงดูดทั้งนักลงทุนและคู่ค้าระดับองค์กรได้ง่าย
ข้อควรรู้ก่อนเริ่มกำหนดทุนจดทะเบียนบริษัท มีอะไรบ้าง ?
หลายคนที่กำลังสงสัยว่าแล้วแบบนี้ เราควรต้องจดทะเบียนบริษัทตอนไหนดี ก่อนอื่นนั้นคุณต้องเข้าใจการทำความเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อทั้งการจัดตั้งบริษัท ภาพลักษณ์ทางธุรกิจ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้วางแผนได้อย่างเหมาะสมและไม่ตั้งทุนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งสิ่งที่ควรรู้และเตรียมตัวก่อนกำหนดทุนจดทะเบียน มีดังนี้
1.เข้าใจความหมายของทุนจดทะเบียน
อย่างไรที่อธิบายไปแล้วในข้างต้นว่า ทุนจดทะเบียนคือ จำนวนเงินที่ผู้ถือหุ้นตกลงว่าจะลงทุนในบริษัท สะท้อนถึงขนาด ความมั่นคง และขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นต่อบริษัท
2. รู้ว่าต้องแบ่งทุนออกเป็นหุ้น
จากนั้นจำนวนทุนจดทะเบียน จะต้องถูกแบ่งแต่ละหุ้นต้องมีมูลค่าเท่ากันและไม่ต่ำกว่า 5 บาทตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถระบุสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้อย่างชัดเจน
3. เตรียมความพร้อมด้านการชำระค่าหุ้น
กฎหมายกำหนดให้ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นอย่างน้อย ร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน ในวันที่จดทะเบียนบริษัท และสามารถทยอยชำระส่วนที่เหลือภายหลังได้ ซึ่งการชำระทุนนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินสดเสมอไป แต่สามารถเป็น
- เงินสด
- ทรัพย์สิน เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรืออุปกรณ์สำนักงาน (ต้องตีมูลค่าเป็นเงินบาทและทำเอกสารแสดงการโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัท)
- แรงงานหรือผลงานทางวิชาชีพ (ในบางกรณี เช่น การให้สิทธิบัตร ทรัพย์สินทางปัญญา หรือบริการเฉพาะทาง ต้องตีมูลค่าและมีหลักฐานรองรับอย่างเป็นทางการ)
4. ทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ต้องมีหลักฐานการชำระทุนจริง
หากบริษัทมีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ผู้ยื่นจดทะเบียนจะต้องแนบ หนังสือรับรองยอดเงินฝากจากธนาคาร เพื่อยืนยันว่าผู้ถือหุ้นมีเงินในบัญชีเพียงพอตามจำนวนที่ระบุไว้ และใช้เป็นหลักฐานประกอบการชำระค่าหุ้น ทั้งนี้ จะต้องมี หนังสือยืนยันจากกรรมการผู้ยื่นคำขอจดทะเบียน แสดงว่าจำนวนเงินตามหนังสือรับรองยอดเงินฝากดังกล่าว เป็นเงินที่ได้รับชำระค่าหุ้นจริงตามที่แจ้งไว้
5. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจและทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ
สำหรับบางประเภทกิจการ ก่อนเริ่มดำเนินธุรกิจจริง ผู้ประกอบการจำเป็นต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบางใบอนุญาตจะกำหนดให้บริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ ถึงจะสามารถยื่นขอได้ เช่น การขอใบอนุญาตทำงาน(ขั้นต่ำ 2 ล้าน) ใบอนุญาตเป็นบริษัทจัดหางาน(ขั้นต่ำ 1 ล้าน )
6. ไม่จำเป็นต้องตั้งทุนสูงตั้งแต่แรก เพราะสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ภายหลัง
ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนทุนสูงตั้งแต่แรก เพราะ “ทุนจดทะเบียน” สามารถ เพิ่มหรือลดได้ในภายหลัง ตามความเหมาะสมของการดำเนินธุรกิจ โดยหลักแล้ว ผู้ประกอบธุรกิจควรตั้งทุนจดทะเบียน ให้สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินและเงินหมุนเวียนในกิจการ เพื่อไม่ให้เป็นภาระเกินความจำเป็น หากตั้งทุนสูงเกินไป ผู้ถือหุ้นอาจต้องรับผิดชอบเงินลงทุนที่ยังไม่ได้ชำระจริง หรือถูกมองว่าบริษัทมีฐานทุนสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางบัญชีและภาษีได้
ในทางกลับกัน หากทุนจดทะเบียนต่ำเกินไป ก็อาจทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมกับคู่ค้า หรือลูกค้ารายใหญ่ ดังนั้น การตั้งทุนจดทะเบียนควรอยู่ในระดับที่ สะท้อนศักยภาพของธุรกิจจริง
อยากเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง? เริ่มจดทะเบียนบริษัทกับ FlowAccount สะดวก ง่าย มีทีมงานคอยให้คำปรึกษา
ท้ายที่สุดแล้ว ทุนจดทะเบียนบริษัท ไม่ได้เป็นเพียงข้อมูลที่ต้องกรอกในขั้นตอนการจดบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็น “รากฐานสำคัญ” ที่สะท้อนศักยภาพ ความมั่นคง และความพร้อมของธุรกิจ
และหากคุณกำลังวางแผน จดทะเบียนบริษัท แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน FlowAccount มีบริการ รับจดทะเบียนบริษัทครบวงจร ที่ช่วยดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการยื่นจดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
พิเศษ! เมื่อจดทะเบียนบริษัทกับ FlowAccount จะได้รับ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ FlowAccount ฟรี 1 ปี (มูลค่า 5,490 บาท) เพื่อให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ บริหารบัญชี เอกสาร และภาษีได้ครบในที่เดียวพร้อมมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ช่วยตั้งบริษัทได้ง่าย ถูกต้อง และคุ้มค่าที่สุด สำหรับใครที่สนใจสามารถ Add Line มาสอบถามได้ที่ @flowaccount
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับทุนจดทะเบียนบริษัท
ทุนจดทะเบียนบริษัท มีผลอย่างไร กับการเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง ?
ตอบ : ทุนจดทะเบียนบริษัท มีผลสะท้อนถึง “ฐานทุน” ของบริษัท และเป็นตัวบ่งบอกความมั่นคงทางการเงินในสายตาคู่ค้า นักลงทุน และหน่วยงานรัฐ ยิ่งทุนจดทะเบียนสูง บริษัทก็ยิ่งมีภาพลักษณ์มั่นคง สามารถรับผิดชอบธุรกิจและขยายกิจการได้มากขึ้น
ทุนจดทะเบียนบริษัท จ่ายให้ใคร ?
ตอบ : ค่าหุ้นจากทุนจดทะเบียน จ่ายให้บริษัท ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง การชำระค่าหุ้นนี้จะกลายเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออุปกรณ์ จ้างพนักงาน หรือใช้ในการลงทุนอื่น ๆ
ต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำเท่าไหร่ และสามารถชำระด้วยอะไรได้บ้าง ?
ตอบ : ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้น ขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ในวันที่จดบริษัท และสามารถชำระด้วยได้ทั้ง
- เงินสด
- ทรัพย์สิน เช่น อุปกรณ์ เครื่องจักร หรืออสังหาริมทรัพย์
- แรงงานหรือบริการเฉพาะทาง
หากไม่ชำระค่าหุ้นเต็ม จะมีผลอย่างไรต่อผู้ถือหุ้นและบริษัท ?
ตอบ : ผู้ถือหุ้นจะ มีความรับผิดชอบต่อส่วนที่ยังไม่ได้ชำระ ตามสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ หากบริษัทประสบปัญหาหนี้สิน ผู้ถือหุ้นอาจถูกเรียกให้ชำระส่วนที่ค้างอยู่ นอกจากนี้ทุนที่ยังไม่ชำระเต็มอาจลดความน่าเชื่อถือของบริษัทในสายตาคู่ค้า นักลงทุน หรือหน่วยงานรัฐ
ทุนจดทะเบียนมีผลต่อสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นอย่างไร ?
ตอบ : จำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้นกำหนด สัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัท ของแต่ละผู้ถือหุ้น ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นละ 100 บาท ผู้ถือหุ้น 5,000 หุ้น จะถือ 50% ของบริษัท การกำหนดจำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้นอย่างชัดเจนจึงสำคัญ
About Author

Senior Marketer – Inbound / CRO ที่มีพื้นฐานประสบการณ์จากสายสื่อสารมวลชน ยังคงรักในการสัมภาษณ์และอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ หากมีอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับ FlowAccount จะรีบนำมาเล่าให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
