ภาษีธุรกิจ EP3: เข้าใจเรื่อง ” กำไร ” ก่อนจะไปเสียภาษี ตอนที่ 1

เข้าใจเรื่อง กำไร ก่อนจะไปเสียภาษี

บางคนทำบัญชีรายจ่ายของธุรกิจ เชื่อไหมครับว่าพอทำเสร็จแล้วเขาตัดสินใจเลิกธุรกิจทันทีเพราะเพิ่งรู้ความจริงว่าที่ผ่านมามีแต่ขาดทุน ทำแล้วขายดีแค่ไหน แต่ทำไมถึงจนลงมาโดยตลอด แต่ก็มีหลายรายที่ทำแล้วได้ข้อมูลที่ดีมา ทำให้รู้ว่ากิจการตัวเองมีกำไรเท่าไร ซึ่งตรงนี้แหละครับจะเป็นส่วนที่ต่อยอดในการเริ่มต้นวางแผนจัดการภาษีได้ง่ายขึ้น


ผมกลับมาย้อนมาดูกล่องข้อความในเพจ TAXBugnoms คำถามที่ได้รับมักจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ตอบ เพราะทุกคนมักจะเปิดด้วยคำถามที่ว่า “กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ เลยอยากมาขอคำแนะนำคุณหนอมว่า ทำยังไงให้ประหยัด ภาษี ได้สูงสุด”



เอ้า..มันก็แน่ล่ะคุณหนอม คุณทำเพจให้ความรู้เรื่องภาษี คุณก็ต้องได้รับคำถามเกี่ยวกับการประหยัดภาษีเป็นธรรมดาใครจะมาถามคุณเรื่องวิธีทำให้ธุรกิจกำไรสูงสุดกันล่ะ?



ไม่เป็นไรผมไม่โกรธและไม่ได้ว่าะไรครับ (บ่นไปอย่างนั้นเอง) เมื่ออยากจะประหยัดภาษีก็จัดให้ครับ



ผมเลยถามกลับไปว่า “โอเค อยากประหยัดภาษีสูงสุดใช่ไหมครับ แล้ววันนี้รู้หรือยังครับว่า ธุรกิจของตัวเองมีกำไรเท่าไหร่?”



รู้ไหมครับว่า คำตอบที่ผมได้รับกลับทำให้ผมอึ้งอีกครั้ง… เพราะส่วนใหญ่จะตอบกลับมาว่า “ไม่รู้” หรือ “ไม่แน่ใจ” หนักว่านั้นคือ”ยังไม่ได้คิดจะทำธุรกิจอ่ะ แค่มาถามเฉยๆ” แป่วววว



แล้วทำไมการวางแผนประหยัดภาษี ถึงต้องรู้ก่อนว่าธุรกิจเรามีกำไรเท่าไร?
ถ้าให้ตอบสั้น ง่าย กระชับ ในสไตล์ตัวเองคงต้องบอกว่า

“เพราะธุรกิจคำนวณภาษีจาก กำไร ไงล่ะ”


แต่ถ้าขยายความให้มากหน่อยตามหลักกฎหมายและการบริหารการเงิน ผมอยากให้ทุกคนเริ่มต้นจากความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนครับว่า “กำไร” ของธุรกิจของเรานั้นเป็นเท่าไร ผ่านการทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่ถูกต้อง สำหรับกรณีที่ยังไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในรูปแบบนิติบุคคล (อ่านเรื่องรูปแบบธุรกิจได้ที่ ภาษีธุรกิจ EP2: รู้จักกับประเภทของธุรกิจ)



การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย คือ การจดบันทึกรายการการเงินต่างๆที่เกิดขึ้นในธุรกิจ เพื่อให้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน และเปรียบเทียบได้ว่าธุรกิจของเรานั้นมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไร ซึ่งสรุปออกมาเป็นสมการง่ายๆ ดังนี้ครับ


กำไร (ขาดทุน) = รายได้ – ค่าใช้จ่าย


บัญชีรายรับ – รายจ่าย เป็นสิ่งที่คุณต้องมีในการทำธุจกิจ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม (สำหรับนิติบุคคลจะอยู่ในรูปแบบ”งบการเงิน”) เพื่อให้รู้ว่าธุรกิจของเรานั้น มีกำไรจริงเท่าไร



กรณีนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท) จะได้รับประโยชน์ตรงที่การจัดทำงบการเงินจะทำให้ทราบถึงสถานะการเงินเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งจะทำให้กิจการมองภาพรวมและทิศทางการจัดการได้ดีขึ้นครับ



ฟังดูแล้วก็น่าจะใช่ไหมครับ แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่ที่พบเจอมา คือ ธุรกิจไม่ได้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือ ธุรกิจจัดทำงบการเงิน โดยมียอดกำไรหรือขาดทุนไม่ตรงกับความเป็นจริง (กรณีนิติบุคคล) ทำให้เจ้าของนั้น ไม่ทราบกำไรหรือขาดทุนที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาและผลเสียต่างๆมาอีกมากมายครับ ดังนั้นสำหรับข้อแนะนำข้อแรกของผม ไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม สิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับแรก คือ


ทำบัญชีรายรับรายจ่ายสำหรับธุรกิจ แยกออกจากบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัว


เพื่อให้คุณได้ทราบว่าธุรกิจของเรานั้นจริงๆแล้วกำไรหรือขายทุนเท่าไรกันแน่


ถ้าทำเสร็จแล้ว รู้แล้ว จะเอายังไงต่อล่ะ?


เมื่อทำแล้ว สิ่งที่คุณจะได้รู้คือ “กำไร” และ “ขาดทุน” ที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้นำมาวิเคราะห์ต่อว่า กำไรที่เกิดขึ้นนั้น เพียงพอหรือไม่ หรือถ้าหากขาดทุนแล้ว เราควรจะเอายังไงกับธุรกิจของเราต่อไปดี จะแก้ไข เลิก หรือ ทำยังไงกับมันต่อไป


ผมเคยแนะนำให้ บางคนทำบัญชีรายจ่ายของธุรกิจ เชื่อไหมครับว่าพอทำเสร็จแล้วเขาตัดสินใจเลิกธุรกิจทันทีเพราะเพิ่งรู้ความจริงว่าที่ผ่านมามีแต่ขาดทุน ทำแล้วขายดีแค่ไหน แต่ทำไมถึงจนลงมาโดยตลอด


แต่ก็มีหลายรายที่ทำแล้วได้ข้อมูลที่ดีมา ทำให้รู้ว่ากิจการตัวเองมีกำไรเท่าไร ซึ่งตรงนี้แหละครับจะเป็นส่วนที่ต่อยอดในการเริ่มต้นวางแผนจัดการภาษีได้ง่ายขึ้น


ทีนี้เราจะมาต่อกันในเรื่องของการวางแผนภาษีได้ในขั้นต่อไป แต่น่าเสียดาย พื้นที่สำหรับตอนนี้หมดลงแล้ว รอติดตามกับบทความ เข้าใจเรื่องกำไร ก่อนจะไปเสียภาษี (ตอนที่2) ในตอนต่อไปครับ


ลองใช้งานFlowAccount ฟรี 30 วันได้ง่ายๆ วันนี้
ลองใช้งานฟรีได้ง่ายๆ วันนี้
สมัครเลย

You may also like