ทำความรู้จัก ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คืออะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) คือ ภาษีทางอ้อมที่เก็บจากการขายสินค้า หรือการให้บริการที่เข้าเงื่อนไข โดยผู้ขายจะเก็บ VAT จากผู้ซื้อ แล้วนำส่งให้แก่กรมสรรพากร สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ VAT ดังนี้

 

1. อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ปัจจุบันคือ 7% 

2. ผู้ประกอบการที่มีรายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้าน บาทขึ้นไป ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 

3. เมื่อขายสินค้า ภาษีที่ผู้ขายเรียกเก็บจากผู้ซื้อ เรียกว่า ภาษีขาย

4. เมื่อซื้อสินค้า ภาษีที่ผู้ซื้อถูกเรียกเก็บ เรียกว่า ภาษีซื้อ

5. ตอนปลายเดือนผู้ประกอบการต้องนำส่งแบบ ภ.พ. 30 ให้กรมสรรพากร 

• ถ้าภาษีขาย มากกว่า ภาษีซื้อ ให้ชำระส่วนต่าง 
• แต่หากภาษีขาย น้อยกว่า ภาษีซื้อ จะสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือยกยอดไปเครดิตภาษีในเดือนถัดไปได้

 

สำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว การเข้าใจว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร อาจจะไม่เพียงพอ เพราะ VAT ไม่ได้มีแค่เรื่องการคิดเงิน 7% เพิ่มจากราคาสินค้าหรือบริการ แต่ยังมีเรื่องเอกสารที่เรียกว่า ใบกำกับภาษี ที่ผู้ขายต้องออกให้กับผู้ซื้อทุกคราวที่เรียกเก็บ VAT และผู้ซื้อสามารถนำไปใช้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เอกสารใบกำกับภาษีซื้อที่ถูกต้อง จะช่วยให้เรานำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสรรพากรน้อยลงในแต่ละเดือนด้วย

 

ดังนั้น การตรวจสอบให้มั่นใจว่าคู่ค้าของเรา ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และสามารถเรียกเก็บ VAT จากผู้ซื้อ และออกใบกำกับภาษีได้อย่างถูกกฎหมายหรือเปล่า จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ 

 

VAT INFO คืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

“VAT INFO” คือ ระบบออนไลน์ที่ให้บริการโดยกรมสรรพากร ซึ่งเราสามารถตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของกิจการภายในประเทศได้อย่างง่าย โดยค้นหาจาก เลขประจำตัวผู้เสียภาษี หรือชื่อผู้ประกอบการ จึงสามารถใช้ VAT INFO เพื่อ

• เป็นหลักฐานเบื้องต้นให้ผู้ประกอบการใช้ตรวจสอบความมีตัวตนของคู่ค้า
• ตรวจสอบว่า “ผู้ขาย / ผู้ให้บริการ” จดทะเบียน VAT แล้วหรือไม่
• ตรวจสอบว่าเอกสารใบกำกับภาษี ใช้เลขผู้เสียภาษี / ชื่อถูกต้องตามทะเบียนหรือไม่

การใช้ VAT INFO จึงเป็นอีก “เครื่องมือ” ที่ช่วยเจ้าของธุรกิจคัดกรองคู่ค้า และตรวจสอบเอกสารใบกำกับภาษีเบื้องต้นในยุคที่มีมิจฉาชีพมากมายในประเทศไทย

 

VAT INFO มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของ VAT INFO มีหลายด้าน ดังนี้

• เพิ่มความน่าเชื่อถือธุรกิจ: ถ้าพบคู่ค้าอยู่ในระบบ ก็มั่นใจเบื้องต้นได้ว่ามีตัวตนอยู่จริง 
• ประหยัดเวลาในการตรวจสอบคู่ค้า: ตรวจสอบผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยไม่สอบถามหรือเดินทางไปเช็กข้อมูลที่สรรพากร
• ลดความเสี่ยงทางภาษี: ระบบช่วยตรวจสอบว่าผู้ขายจดทะเบียนจริง และเราสามารถขอใบกำกับภาษีและหักภาษีซื้อได้ตามสิทธิ
• ช่วยจัดการเอกสารภาษีซื้อได้ถูกต้อง: หากพบว่าเอกสารใบกำกับภาษีซื้อระบุข้อมูลไม่สอดคล้องกับระบบ VAT INFO ก็สามารถแจ้งผู้ขายให้แก้ไขได้ ลดความเสี่ยงเคลมภาษีซื้อจากใบกำกับภาษีที่ผิดพลาด

 

ขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบ VAT INFO

รวมขั้นตอนง่าย ๆ ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ในการเช็กข้อมูลผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT 

1. เข้าเว็บไซต์ของ VAT INFO

2. เลือกใส่ข้อมูลแล้วกดค้นหา 

• เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก (ไม่จำเป็นต้องใส่เลขที่สาขา) หรือ
• ชื่อกิจการ (นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา) 

3. ระบบจะแสดงข้อมูล ประกอบด้วย

• เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
• สาขา
• ชื่อผู้ประกอบการ /ชื่อสถานประกอบการ
• ที่อยู่
• วันที่จดทะเบียน 
• ประวัติการจดทะเบียน

4. กรณีที่ไม่พบผู้ประกอบการจด VAT ในระบบ หน้าจอจะแสดงผลว่า “ข้อความปฏิเสธ”
5. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (13หลัก) ที่บันทึกไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ กรุณาตรวจสอบหรือทำรายการใหม่”

6. บันทึกผลตรวจสอบ เก็บเป็นหลักฐานประวัติคู่ค้า

 

ทำไมต้องตรวจสอบก่อนว่าคู่ค้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้วหรือยัง?

1. ถ้ากิจการของเราซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายที่ไม่จด VAT จะไม่สามารถขอใบกำกับภาษีเพื่อเคลมภาษีซื้อได้ 
2. ถ้าผู้ขายจดทะเบียน VAT แต่ออกใบกำกับภาษีผิด เช่น ใส่หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีผิด หรือที่อยู่ผิด ถือว่าใบกำกับภาษีนั้น เป็นภาษีซื้อต้องห้าม ไม่สามารถเคลมภาษีซื้อได้
3. เป็นหลักฐานในการควบคุมภายในที่ดี เกี่ยวกับการตรวจสอบความมีตัวตนและน่าเชื่อถือของคู่ค้า ก่อนเริ่มการค้าขายด้วย

 

ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อมูลคู่ค้าในระบบต้องทำอย่างไร?

ถ้าพบว่าไม่มีข้อมูลคู่ค้าในระบบ แนะนำว่าควรสอบถามไปยังคู่ค้า เพราะบางครั้งอาจจะได้รับเลขที่ผู้เสียภาษีผิด หรือชื่อกิจการผิดทำให้ค้นหาไม่เจอ หรือคู่ค้าเป็นบริษัทแต่ยังไม่ได้เข้าเงื่อนไขการจด VAT

 

ถ้าสอบถามจนมั่นใจแล้วยังค้นหาข้อมูลไม่พบ ไม่สอดคล้องกับที่คู่ค้าให้ข้อมูลไว้ แนะนำว่าไม่ควรเริ่มต้นทำการค้าด้วยตั้งแต่แรก 

 

ระบบบริหารภาษีมูลค่าเพิ่มใน FlowAccount ช่วยจัดการใบกำกับภาษีซื้อได้อย่างไร

กรณีที่เป็นกิจการจด VAT ที่ FlowAccount มีฟังก์ชั่นบริหารภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ช่วยให้เก็บข้อมูลใบกำกับภาษีซื้อที่ได้รับจากคู่ค้า เลือกสถานะเอกสารว่าขอเคลมภาษีซื้อหรือไม่ และแนบเอกสารไว้ในระบบเพื่อง่ายต่อการค้นหา เพียงเท่านี้ก็สามารถจัดทำรายงานภาษีซื้อได้แบบอัตโนมัติ เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแก่กรมสรรพากรได้

ทุกคนน่าจะรู้จักวิธีการ “เช็กผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วยระบบ VAT INFO” กันแล้ว เพียงแค่มีข้อมูลพื้นฐาน อย่าง เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี หรือชื่อบริษัท ก็สามารถเช็กง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ VAT INFO ซึ่งมีประโยชน์ในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคู่ค้า และความถูกต้องของข้อมูลในใบกำกับภาษีซื้อ ก่อนยื่นขอเครดิตภาษีซื้อประจำเดือนได้อย่างมั่นใจ

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ VAT INFO 

1. ถ้าผู้ขายไม่ได้จด VAT แล้วเรายังซื้อสินค้าหรือบริการได้ไหม?

ตอบ: สามารถซื้อได้ เพราะบางกิจการอาจไม่ได้เข้าเงื่อนไขการจด VAT หากซื้อสินค้าหรือบริการ เราจะไม่สามารถขอใบกำกับภาษีเพื่อมาหักภาษีซื้อได้ตามสิทธิของผู้จดทะเบียน VAT อย่างไรก็ตาม หากเป็นค่าใช้จ่ายในธุรกิจ สามารถขอใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน เพื่อแสดงการซื้อขาย และนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจได้ปกติ

2. บริษัทที่จด VAT แต่เลิกกิจการไปแล้วจะปรากฏในระบบ VAT INFO หรือไม่? 

ตอบ: ไม่ปรากฏ เพราะหน้าจอจะแสดงผลว่า “ข้อความปฏิเสธ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร(13หลัก) ที่บันทึกไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ กรุณาตรวจสอบหรือทำรายการใหม่”

3. หากเพิ่งจดทะเบียน VAT ผ่าน ระบบจะอัปเดตและตรวจพบรายชื่อกิจการหรือไม่

ตอบ: ระบบ VAT INFO จะอัปเดตวันต่อวัน ทำให้กิจการที่เพิ่งจด VAT ผ่านมีชื่อปรากฏในการค้นหาทันที 

4. เช็กข้อมูลผู้จดทะเบียน VAT ผ่านระบบ VAT INFO ฟรีไหม?

ตอบ: เช็กข้อมูลฟรี เพราะ VAT INFO เป็นระบบฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ที่ให้บริการสืบค้นเบื้องต้นแบบไม่มีค่าใช้จ่าย 

5. การตรวจสอบ VAT INFO ทำให้เรามั่นใจว่าควรจะทำการค้ากับคู่ค้าได้ 100% หรือไม่

ตอบ: ไม่เสมอไป แนะนำให้ตรวจสอบคู่ค้าในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ประวัติบริษัท, ประสบการณ์, ผู้บริหาร คุณภาพสินค้า และบริการ