
| เมื่อพูดถึงการ “ปิดงบการเงิน” คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเป็นอะไรที่เร่งรีบและมีเวลาจำกัด หรือต้องทำภายในช่วงปลายปีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเข้าใจขั้นตอนการปิดงบการเงิน การเตรียมเอกสาร และการกำหนดตารางเวลาทำงานไว้ล่วงหน้า จะสามารถช่วยให้นักบัญชีปิดงบการเงินได้ไวขึ้น ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีข้อมูลในการตัดสินใจหรือวางแผนธุรกิจได้รวดเร็วทันเวลา อีกทั้งไม่ต้องเสี่ยงส่งงบล่าช้าจนเสียค่าปรับอีกด้วย | 
เลือกอ่านได้เลย!
Toggleปิดงบการเงิน คืออะไร
ปิดงบการเงิน คือ กระบวนการปรับปรุงรายการบัญชี และจัดทำงบการเงินหลังจากสิ้นรอบปีบัญชีของธุรกิจ (โดยทั่วไปรอบปีบัญชีมักเป็นเป็นวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี) เพื่อให้รู้ว่าบริษัทมีฐานะการเงิน และผลประกอบการทั้งปีเป็นอย่างไรบ้าง และนำส่งงบการเงินให้คนที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าของธุรกิจ ผู้ถือหุ้น รวมถึงหน่วยงานรัฐ อย่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากร ตามที่กฎหมายกำหนด
พูดให้เข้าใจง่าย ๆ การปิดงบการเงิน ก็คือ การปรับปรุงรอบสุดท้าย เพื่อกวาดทุกตัวเลขรายการ และเอกสารมาใส่ให้ครบ แล้วสรุปผลประกอบการธุรกิจแบบไฟนอลสุดๆ นั่นเอง
ทำไมการปิดงบการเงินถึงสำคัญ
หลายคนเข้าใจผิดว่าการปิดงบการเงินนั้นต้องทำเพราะกฎหมายบังคับเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปิดงบนั้นสำคัญมาก ดังนี้
- ทำให้ทราบผลประกอบการว่ากำไรหรือขาดทุนอยู่เท่าไหร่ มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องแผนธุรกิจ การลงทุน หรือบริหารจัดการภายในของเจ้าของธุรกิจโดยตรง
 - งบการเงินใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการคำนวณและยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี (แบบ ภ.ง.ด.50)
 - เป็นเอกสารสำคัญมากในการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือการประมูลงาน
 
ทำความเข้าใจธุรกิจก่อน ช่วยให้ปิดงบได้ไวกว่าจริงหรือ?
การวางแผนปิดงบการเงินได้ไวขึ้น เคล็ดลับสำคัญที่นักบัญชีอาจมองข้ามมาตลอด ก็คือ “การทำความเข้าใจธุรกิจ” ให้ลึกซึ้ง เพราะแต่ละธุรกิจมีการสร้างรายได้ ต้นทุน และรายการทางบัญชีที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: ต้องจัดการสต๊อกวัตถุดิบให้ดี วางระบบตัดสต๊อกประจำวัน และตรวจสอบวัตถุดิบอย่างละเอียด เพราะวัตถุดิบอาจหมดอายุเร็ว การปรับปรุงบัญชีสินค้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกับกำไรขาดทุนของธุรกิจได้
 - ธุรกิจบริการ: ต้องระวังเรื่องรายได้รับล่วงหน้า หรือรายได้ค้างรับที่ต้องเช็กกับสัญญา และยังเจอภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากลูกค้าบ่อย ๆ ถ้านักบัญชีไม่เตรียมตัวหรือไม่มีข้อมูลครบถ้วนก็อาจใช้สิทธิทางภาษีไม่ได้
 
เมื่อเห็น “ภาพรวม” ของธุรกิจแล้ว ก็จะสามารถประเมินความเสี่ยงหรืองบประมาณการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการปรับปรุงปิดบัญชี หรือมีส่วนไหนที่ต้องเร่งเช็กก่อนเพราะผิดอยู่เป็นประจำ ส่งผลทำให้ปิดงบล่าช้า ดังนั้น เมื่อเข้าใจภาพรวมธุรกิจแล้ว อย่าลืมมุ่งเป้าไปโฟกัสในรายละเอียดทางบัญชีที่เกี่ยวข้องไว้แต่เนิ่น ๆ
ขั้นตอนการปิดงบการเงินอย่างละเอียด
รวมขั้นตอนการปิดงบการเงินแบบละเอียดที่จะช่วยให้วางแผนปิดงบได้อย่างมีระบบมากยิ่งขึ้น
1. รวบรวมข้อมูลและบันทึกบัญชีให้ครบถ้วน
เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและบันทึกบัญชีให้ครบ เพราะนี่คือ “สารตั้งต้นชั้นดี” ของการปิดงบการเงิน แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะบันทึกบัญชีตกหล่นอย่างไร การปิดบัญชีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการเก็บกวาดและรวบรวมเอกสารกลับมา เพื่อบันทึกบัญชีให้ครบถ้วนอีกทครั้ง
2. ตรวจสอบและกระทบยอดบัญชี (Reconciliation)
เมื่อมั่นใจว่าบันทึกบัญชีครบแล้ว ต้องตรวจสอบและกระทบยอดบัญชีทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเลขในบัญชีนั้นตรงกับข้อเท็จจริง โดยทำตามขั้นตอนนี้
- บัญชีธนาคาร → ตรวจสอบยอดกับ Bank Statement ให้ตรง
 - ลูกหนี้การค้า → เช็กว่ายอดที่บันทึกในบัญชีตรงกับใบแจ้งหนี้และยอดที่ยังไม่ได้เก็บเงิน
 - เจ้าหนี้การค้า → ตรวจสอบว่ายอดค้างจ่ายตรงกับใบแจ้งหนี้ที่ต้องจ่าย
 - สินค้าคงเหลือ → ตรวจนับของจริง เทียบกับบัญชีที่บันทึกไว้
 - ทรัพย์สินถาวร → ตรวจสอบรายการทรัพย์สินและคำนวณค่าเสื่อมราคา
 
3. ปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้อง
เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว ต้องทำการบันทึกปรับปรุงบัญชี (Adjustment) เพื่อให้งบสะท้อนกำไรขาดทุน สินทรัพย์และหนี้สินตามมาตรฐานการบัญชี ดังนี้
- หนี้สูญ ถ้ามีลูกหนี้ที่ทวงไม่ได้จริง ๆ
 - ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สำหรับลูกหนี้ที่อาจเก็บเงินไม่ได้
 - รายได้ค้างรับ เช่น ส่งมอบงานแล้ว แต่ยังไม่ได้วางบิล
 - ค่าเสื่อมราคา ของทรัพย์สินถาวร เช่น เครื่องจักร, รถยนต์
 - ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟที่ใช้ไปแล้ว แต่บิลยังไม่มา
 - หนี้สินผลประโยชน์พนักงาน คำนวณและตั้งหนี้ที่อาจเกิดจากการจ่ายชดเชยพนักงานเกษียณหรือให้ออกจากงาน
 
4. จัดทำงบการเงิน
เมื่อบันทึกและปรับปรุงทุกตัวเลขเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการ “สรุปภาพรวมธุรกิจ” ผ่านการจัดทำงบการเงิน ซึ่งงบที่บริษัททั่วไปต้องจัดทำ ประกอบด้วย
- งบฐานะการเงิน แสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และทุน
 - งบกำไรขาดทุน แสดงรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไร (หรือขาดทุน)
 - งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ แสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนทุน และกำไรสะสม
 
 
5. ตรวจสอบและอนุมัติงบการเงิน
ก่อนจะส่งงบ ต้องมีการตรวจสอบและอนุมัติตามขั้นตอน ดังนี้
- ส่งให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ตรวจสอบและเซ็นรับรอง
 - เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติรับรองงบ
 
6. ปรับปรุงรายการภาษี เพื่อยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)
ใช้ข้อมูลทางบัญชีที่ปรับปรุงปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว มาคำนวณภาษีตามหลักการภาษีแยกในกระดาษทำการต่างหาก จากนั้นบันทึกปรับปรุงรายการภาษีตามที่คำนวณได้ในงบการเงินเป็นรายการสุดท้าย และใช้ข้อมูลนี้ยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ประจำปี
7. ยื่นงบการเงินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังตรวจสอบอนุมัติรับรองงบการเงินแล้ว อย่าลืมยื่นงบการเงินให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ส่งงบการเงินพร้อมแบบ บอจ.5
 - กรมสรรพากร งบการเงินของบริษัทที่ส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) จะเชื่อมโยงให้กรมสรรพากรอัตโนมัติ ยกเว้นห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้องส่งบการเงินพร้อมแบบ ภ.ง.ด.50 ในระบบของกรมสรรพากร
 - ผู้ถือหุ้น
 - ธนาคาร/คู่ค้า ถ้ามีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกัน อย่าลืมส่งงบให้ธนาคารและคู่ค้าตามกำหนดด้วยนะ
 
เอกสารที่ใช้ในการปิดงบการเงิน มีอะไรบ้าง
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปิดงบการเงิน ถ้าจะบอกว่า “ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรายการค้า” นั้นคงไม่เกินจริง ดังนี้
| ประเภทเอกสาร | ใช้สำหรับอะไร | 
| Bank statement | กระทบยอดรายการเข้า-ออก ของเงินฝากธนาคาร | 
| สัญญาซื้อขาย / เช่า / สัญญาบริการ / เงินกู้ | ยืนยันการรับรู้รายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น | 
| ใบเสร็จรับเงิน–ใบกำกับภาษี / ใบแจ้งหนี้ | หลักฐานประกอบการบันทึกบัญชี | 
| หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย | ใช้ขอเครดิตภาษีกรณีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ | 
| รายงานลูกหนี้–เจ้าหนี้ | กระทบยอดลูกหนี้-เจ้าหนี้ให้ตรงกับยอดคงเหลือ | 
| รายงานสินค้าคงเหลือ | ตรวจนับของจริงกับบัญชีเพื่อไม่ให้สต๊อกคลาดเคลื่อน | 
| ทะเบียนทรัพย์สินถาวร | คำนวณค่าเสื่อมและทรัพย์สินถาวร | 
| รายงานเงินเดือน | คำนวณภาระหนี้สินสวัสดิการพนักงานหรือสิทธิประโยชน์ | 
ปิดงบการเงินแล้ว ต้องยื่นอะไรบ้าง ยื่นรูปแบบไหน?
หลังจากปิดงบการเงินแล้ว บริษัทต้องยื่นงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ผ่านระบบ e-Filing
ประกอบด้วย
- แบบ บอจ.5 รายชื่อผู้ถือหุ้น
 - งบการเงินที่ได้รับรอง รูปแบบ PDF หรือ XBRL (ดาวน์โหลดไฟล์ในระบบ e-filing) ประกอบด้วย งบฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
 - หน้ารายงานผู้สอบบัญชี ส่วนสรรพากรก็นำส่งแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.50 ผ่านระบบ RD e-filing
 
กำหนดการและบทลงโทษหากไม่ยื่นงบการเงิน
| หัวข้อ | กำหนดการ | 
| วันสิ้นรอบบัญชี | สมมติวันสิ้นปีบัญชี คือ วันที่ 31 ธันวาคม | 
| จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น | ภายใน 4 เดือนหลังจากวันสิ้นปีบัญชี
 วันสุดท้ายคือ 30 เมษายน  | 
| ยื่น บอจ.5 | ภายใน 14 วันหลังจากประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
 วันสุดท้ายคือ 14 พฤษภาคม  | 
| ยื่นงบการเงิน | ภายใน 1 เดือน หลังจากประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
 วันสุดท้ายคือ 31 พฤษภาคม  | 
| แบบภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.50 | ภายใน 150 วัน หลังสิ้นรอบบัญชี
 วันสุดท้ายคือ 30 พฤษภาคม  | 
ส่วนบทลงโทษของการยื่นงบล่าช้านั้นจะมีค่าปรับที่ต้องจ่าย ซึ่งมากน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการล่าช้า และเคสที่ล่าช้า
ประโยชน์ของการปิดงบการเงิน
- ทำให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดขึ้น เช่น รายได้ ต้นทุน กำไร ภาระหนี้สิน
 - เป็นเครื่องมือในการวางแผนภาษีและการเงิน เช่น ประเมินว่าปีนี้จะเสียภาษีเท่าไร ลงทุนเพิ่มไหม หรือขยายธุรกิจต่อดีไหม
 - เพิ่มความน่าเชื่อถือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร คู่ค้า นักลงทุน
 - ลดความเสี่ยงของค่าปรับ หรือปัญหากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร
 
การปิดงบการเงินให้รวดเร็วและแม่นยำนั้น นอกจากต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วนแล้ว การมีนักบัญชีหรือสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยถือเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะจะช่วยทำให้เจ้าของธุรกิจมั่นใจได้ว่างบออกมาถูกต้องและปิดจบได้อย่างราบรื่น หากใครกำลังมองหาสำนักงานบัญชีมืออาชีพ ให้ FlowAccount บริการค้นหาสำนักงานบัญชีช่วยคุณหานักบัญชีที่พร้อมช่วยดูแลงานปิดงบปีนี้ ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการปิดงบการเงิน ที่คุณต้องรู้
1. เราสามารถปิดงบการเงินเองได้ไหม?
ตอบ: ไม่ได้ เพราะการปิดงบการเงินต้องอาศัยนักบัญชีที่มีประสบการณ์มาช่วยปรับปรุงรายการ และตอนยื่นงบจะต้องให้ผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นผู้รับรองงบการเงินนี้ด้วย
2. ใครที่ต้องปิดงบการเงินบ้าง?
ตอบ: ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า นิติบุคคลต้องปิดงบการเงินและนำส่งงบการเงินแก่หน่วยงานรัฐ ดังนี้
- ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
 - นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
 - กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
 - บริษัทจำกัด
 - บริษัทมหาชนจำกัด
 
3. ปัญหาอะไรบ้าง ที่พบบ่อยในการปิดงบการเงิน
ตอบ: ปัญหาที่พบบ่อยในการปิดงบการเงินมี 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่
- ไม่ได้บันทึกบัญชีในแต่ละเดือนไว้ ทำให้งานหนักตอนปลายปี ปิดงบล่าช้า
 - เอกสารไม่ครบถ้วน
 - นักบัญชีปรับปรุงรายการไม่ครบถ้วน
 
4. ถ้าอยากปิดงบการเงินรวดเร็วขึ้น ควรวางแผนอย่างไรดี?
ตอบ: ควรบันทึกบัญชีรายเดือนให้ครบถ้วน และทราบกำหนดการในการส่งงบการเงิน วางแผนปิดงบการเงินไว้ล่วงหน้าในรายละเอียดตามแต่ละขั้นตอนที่ระบุไว้
5. สามารถหาผู้สอบบัญชีที่ตรวจสอบและรับรองงบการเงินแล้ว ได้จากที่ไหนบ้าง?
ตอบ: หากบริษัทจ้างสำนักงานบัญชีปิดงบการเงิน สำนักงานบัญชีสามารถแนะนำผู้สอบบัญชีให้ได้ โดย FlowAccount มีบริการค้นหาสำนักงานบัญชีให้ฟรี แบบไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องการหาผู้สอบบัญชีเอง สามารถค้นหาจากสภาวิชาชีพบัญชีได้เลย
About Author

นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่