หนังสือบริคณห์สนธิ คืออะไร? รู้จักเอกสารสำคัญเมื่อต้องการจดบริษัท

หนังสือบริคณห์สนธิ คือ

เมื่อพูดถึงการเริ่มต้นเป็นบริษัทจำกัด  สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้จักคือ “หนังสือบริคณห์สนธิ” โดยหนังสือบริคณห์สนธิ คือ เอกสารพื้นฐานที่เปรียบเสมือน “โครงสร้างแรกเริ่ม” ของบริษัทก่อนจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกำหนดข้อมูลสำคัญของบริษัทไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

เพราะเมื่อธุรกิจเติบโตและมีรายได้มากขึ้น หลายคนย่อมมองหาวิธีบริหารภาษีและค่าใช้จ่ายให้คุ้มค่าที่สุด หนึ่งในแนวทางที่นิยมคือการ จดทะเบียนบริษัท แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนนั้น ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจเอกสารสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะ หนังสือบริคณห์สนธิ ที่เป็นรากฐานสำคัญของการเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกต้อง


เลือกอ่านได้เลย!

หนังสือบริคณห์สนธิ คืออะไร ? 

หนังสือบริคณห์สนธิ (Memorandum of Association) คือ เอกสารสำคัญที่ใช้ประกอบในการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท มีลักษณะเป็นข้อตกลงเริ่มแรกระหว่างผู้ร่วมก่อตั้ง เพื่อระบุข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อบริษัท วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียนบริษัท ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และรายชื่อผู้เริ่มก่อการแต่ละคน ซึ่งเอกสารฉบับนี้เปรียบเสมือน “โครงสร้างแรกเริ่ม” ของบริษัท ก่อนที่จะยื่นจดทะเบียนจัดตั้งอย่างเป็นทางการ


หนังสือบริคณห์สนธิ ตัวอย่าง


หนังสือบริคณห์สนธิ มีความสำคัญกับการจดทะเบียนบริษัทอย่างไร ? 

หนังสือบริคณห์สนธิ คือเอกสารสำคัญสำหรับการจัดตั้งบริษัท เพราะเป็นเอกสารพื้นฐานที่ระบุโครงสร้าง ข้อมูลผู้เริ่มก่อการ วัตถุประสงค์ และจำนวนหุ้นที่จะออกเสนอขาย ก่อนนำไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดย FlowAccount ได้สรุปขั้นตอนของการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดไว้ ดังนี้


1. เป็นเอกสารที่เก็บข้อมูลโครงสร้างบริษัท

หนังสือบริคณห์สนธิคือ เอกสารแรกที่ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทต้องทำ เก็บข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างและรายละเอียดพื้นฐานของบริษัทระบุชื่อบริษัท เช่น ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ วัตถุประสงค์ทุนจดทะเบียน รายชื่อผู้เริ่มก่อการ และจำนวนหุ้นที่จะออกเสนอขาย


2. เป็นเอกสารที่ต้องนำไปจดทะเบียน

การได้มาซึ่งหนังสือบริคณห์สนธิถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการจดทะเบียนบริษัท เนื่องจากการจดทะเบียนบริษัทประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก ดังนี้


2.1. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ

เป็นขั้นตอนแรกที่ผู้เริ่มก่อการจัดทำ หนังสือบริคณห์สนธิ บริษัท เพื่อระบุข้อมูลพื้นฐานของบริษัท เช่น ชื่อบริษัท วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียน ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และรายชื่อผู้เริ่มก่อการ รวมถึงจำนวนหุ้นที่จะออกเสนอขายและการชำระเงินในหุ้น จากนั้นผู้เริ่มก่อการต้องยื่นหนังสือบริคณห์สนธิไปยัง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อแจ้งข้อมูลเหล่านี้ 


หมายเหตุ: หากการจดทะเบียนบริษัทไม่ได้ดำเนินการภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ หนังสือบริคณห์สนธิฉบับนั้นจะถือเป็น สิ้นผล


2.2. จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

หลังจากหุ้นที่ต้องชำระเงินมีผู้เข้าชื่อซื้อครบ ผู้เริ่มก่อการจะจัด ประชุมตั้งบริษัท เพื่อตกลงเรื่องข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท


เมื่อประชุมเสร็จ ผู้เริ่มก่อการจะมอบสิทธิและหน้าที่ทั้งหมดให้ กรรมการบริษัท จากนั้นกรรมการจะเรียกให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นชำระเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น เมื่อได้เงินครบ กรรมการจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดไปยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้บริษัทเป็นนิติบุคคลและสามารถเริ่มทำธุรกิจได้อย่างถูกต้อง


อย่างไรก็ตาม หากผู้เริ่มก่อการจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิและดำเนินขั้นตอนสำคัญครบทุกข้อภายในวันเดียว กรรมการสามารถยื่นจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิพร้อมกับจดทะเบียนบริษัทได้ทันที โดยไม่ต้องแยกการจดทะเบียน ทำให้บริษัทสามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในวันเดียว


3. เป็นหลักฐานทางกฎหมายที่สามารถตรวจสอบได้

หนังสือบริคณห์สนธิถือเป็นเอกสารก่อการเริ่มต้นของบริษัท ซึ่งระบุรายชื่อผู้เริ่มก่อการที่เข้าร่วมจัดตั้งบริษัทอย่างชัดเจน ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าตรวจสอบหรือขอคัดสำเนาเอกสารดังกล่าวได้ หากในอนาคตบริษัทมีกรณีทุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หนังสือบริคณห์สนธิสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันความรับผิดชอบของผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัทได้


ข้อมูลที่ต้องระบุลงในหนังสือบริคณห์สนธิ มีอะไรบ้าง ? 

ก่อนที่ผู้ประกอบการจะนำ หนังสือบริคณห์สนธิ ไปยื่นยัง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ควรทราบก่อนว่ากฎหมายกำหนดให้ต้องระบุข้อมูลอะไรบ้างเพื่อให้การจดทะเบียนเป็นไปอย่างถูกต้อง FlowAccount ได้สรุปข้อมูลสำคัญที่ต้องระบุในหนังสือบริคณห์สนธิไว้ดังต่อไปนี้

 

  • ชื่อบริษัท พร้อมคำว่า “จำกัด” ต่อท้ายชื่อ
  • ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท
  • วัตถุประสงค์ของบริษัท
  • ข้อความระบุว่า ความรับผิดของผู้ถือหุ้นมีจำกัด
  • จำนวนทุนจดทะเบียน แบ่งเป็นหุ้น และมูลค่าหุ้นต่อหุ้น
  • ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และลายมือชื่อของผู้ก่อตั้งบริษัท พร้อมจำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือ
  • ข้อมูลและลายมือชื่อของพยาน 2 ราย

ขั้นตอนการยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ ทำอย่างไร? สอนแบบจับมือทำ

การยื่น จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนจะจดทะเบียนบริษัท เพราะเป็นการระบุข้อมูลพื้นฐานของบริษัทและผู้เริ่มก่อการ ทำให้ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทเป็นไปอย่างถูกต้อง FlowAccount จึงได้รวบรวมขั้นตอนการยื่นและข้อมูลที่ต้องเตรียมไว้ดังนี้


ขั้นตอนที่ 1 : จัดทำหนังสือบริคณห์สนธิ (แบบ บอจ.2)

ผู้ก่อการต้องจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิให้ครบถ้วน โดยระบุข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อบริษัทพร้อมคำว่า “จำกัด” ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ วัตถุประสงค์และกิจกรรมหลักของบริษัท ข้อความระบุว่าความรับผิดของผู้ถือหุ้นมีจำกัด จำนวนทุนจดทะเบียน แบ่งเป็นหุ้นและมูลค่าหุ้นต่อหุ้น รวมถึงชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และลายมือชื่อของผู้เริ่มก่อการ พร้อมจำนวนหุ้นที่แต่ละคนถือ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนส่งเอกสาร


ขั้นตอนที่ 2 : ลงลายมือชื่อผู้เริ่มก่อการ

หลังจากจัดทำเอกสารครบถ้วนแล้ว ผู้เริ่มก่อการทุกคนต้องลงลายมือชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิ จากนั้นสามารถยื่นเอกสารได้ที่ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานสาขาทุกแห่ง หรือผ่านระบบ Biz Regist (จดทะเบียนออนไลน์) 


ขั้นตอนที่ 3 : การประชุมตั้งบริษัทและการชำระเงินค่าหุ้น

เมื่อยื่นหนังสือบริคณห์สนธิเรียบร้อยแล้ว ผู้เริ่มก่อการจะต้องจัด ประชุมตั้งบริษัท เพื่อพิจารณาข้อบังคับและกิจการต่าง ๆ ของบริษัท จากนั้นผู้เริ่มก่อการมอบสิทธิและหน้าที่ทั้งหมดให้กรรมการบริษัท กรรมการจะเรียกให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นชำระเงินตามที่กำหนด และดำเนินการจดทะเบียนบริษัทต่อไป


อยากจดทะเบียนบริษัท เริ่มสร้างธุรกิจในฝัน ให้ FlowAccount เป็นผู้ช่วยคุณได้เลย 

การจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิ คือขั้นตอนสำคัญก่อนการจดทะเบียนบริษัท เพราะเป็นเอกสารที่ระบุข้อมูลพื้นฐานของบริษัทและผู้เริ่มก่อการ ทำให้ขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นไปอย่างถูกต้อง 

 

และหากคุณกำลังวางแผน จดทะเบียนบริษัท แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน FlowAccount มีบริการ รับจดทะเบียนบริษัทครบวงจร ที่ช่วยดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการยื่นจดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทุกขั้นตอนที่คุณทำเองแล้ววุ่นวาย ยุ่งยากหรือไม่มีเวลาในการจัดการเอกสาร FlowAccount เราพร้อมช่วยคุณจดทะเบียนบริษัทได้อย่างมืออาชีพ ครบ จบที่เดียว ในราคาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น 


รับจดทะเบียนบริษัท

 

พิเศษ! เมื่อจดทะเบียนบริษัทกับ FlowAccount จะได้รับ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ FlowAccount ฟรี 1 ปี  (มูลค่า 5,490 บาท) เพื่อให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ บริหารบัญชี เอกสาร และภาษีได้ครบในที่เดียวพร้อมมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ช่วยให้การเปิดบริษัทของคุณเป็นเรื่องง่าย ถูกกฎหมาย และคุ้มค่าที่สุด


คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับหนังสือบริคณห์สนธิ 


หนังสือบริคณห์สนธิ ขอที่ไหน ? 

ตอบ : สำหรับคำถาม หนังสือบริคณห์สนธิ ขอที่ไหน ต้องอธิบายว่า คุณสามารถขอหนังสือบริคณห์สนธิ ได้ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานสาขาทุกแห่ง หรือผ่านระบบ Biz Regist (จดทะเบียนออนไลน์) ซึ่งสะดวก รวดเร็ว และตรวจสอบสถานะเอกสารได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือบริคณห์สนธิ ได้ที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า [ คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ]


หนังสือบริคณห์สนธิ มีอายุกี่เดือน ? 

ตอบ : หนังสือบริคณห์สนธิจะมีอายุ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน หากการจดทะเบียนบริษัทไม่ดำเนินการภายในระยะเวลา 3 ปี หนังสือบริคณห์สนธิฉบับนั้นจะสิ้นผลและคุณต้องทำการจัดทำใหม่


หนังสือบริคณห์สนธิ ขอออนไลน์ ได้ไหม ?

ตอบ : หนังสือบริคณห์สนธิ ขอออนไลน์ได้ โดนคุณสามารถจัดทำและยื่นหนังสือบริคณห์สนธิผ่านระบบ Biz Regist ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ครบขั้นตอน ไม่ต้องไปที่สำนักงานด้วยตัวเอง ทำให้สะดวกและประหยัดเวลา


ต้องทำอะไรหลังจากยื่นหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว?

ตอบ : หลังยื่นเอกสาร ผู้เริ่มก่อการต้องจัดประชุมตั้งบริษัท เพื่อพิจารณาข้อบังคับและกิจการต่าง ๆ ของบริษัท จากนั้นมอบสิทธิและหน้าที่ทั้งหมดให้กรรมการ และเรียกผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นชำระเงินตามที่กำหนด 

เมื่อได้รับชำระเงินครบตามจำนวน กรรมการต้องยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ประชุมตั้งบริษัท เพื่อให้บริษัทกลายเป็นนิติบุคคลและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : จดทะเบียนบริษัทตอนไหนดี


สามารถยื่นหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัทพร้อมกันได้ไหม?

ตอบ : สามารถทำได้ หากผู้เริ่มก่อการดำเนินการครบทุกขั้นตอนภายในวันเดียว ตั้งแต่จัดให้มีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นครบตามจำนวน จัดประชุมตั้งบริษัทเพื่อพิจารณากิจการต่าง ๆ มอบสิทธิและหน้าที่ให้กรรมการ และเรียกผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นชำระเงินค่าหุ้นตามที่กำหนด เมื่อดำเนินการครบทั้งหมด กรรมการสามารถยื่น หนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัทพร้อมกัน ได้ทันทีในวันเดียว ทำให้บริษัทสามารถเป็นนิติบุคคลและเริ่มดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องทันที

About Author

รับวันใช้งานฟรี 30 วัน
เมื่อสมัครทดลองใช้ FlowAccount วันนี้
สมัครเลย

บทความที่คุณน่าจะสนใจ