ในยุคที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้อัตราการจับจ่ายใช้สอยของธุรกิจนั้นลดลงกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาอย่างมาก ทำให้เหล่านักธุรกิจ SME ไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่ ล้วนต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ และการปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์อันน่าท้าทายนี้ ไม่ว่าจะอาศัยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ปรับแผนการตลาด รวมไปถึงการบริหารต้นทุนเพื่อจัดการรายจ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วิธีการหนึ่งในนั้นก็คือ
การบริหารจัดการต้นทุนในการจ้างพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานไปพร้อมๆ กัน
ในเมื่อรูปแบบการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาจนแทบไม่เห็นฝุ่น เจ้าของกิจการ หรือแม้แต่ฟรีแลนซ์เองก็ตาม ควรเริ่มหาเครื่องมือใหม่ๆ มาเพื่อช่วย ลดต้นทุน ในการจ้างทรัพยากรบุคคล และลดเวลาในการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
ในปัจจุบันโปรแกรมสำเร็จรูป และการจ้างฟรีแลนซ์กลายมาเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจมากขึ้น เพราะรายจ่ายในการจ้างพนักงานประจำถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Cost) ที่ต้องจ่ายทุกๆ เดือน และเป็นภาระอันหนักอึ้งสำหรับบางองค์กรในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ องค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกเสียค่าใช้จ่ายให้กับอะไรที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด คุ้มค่ามากที่สุด และช่วยลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่างานไหนที่ควรต้องเลือกใช้โปรแกรมให้ทำงานแทน หรือจ้างคนแบบไหน เพื่อให้ได้ทั้งงาน, ได้ทั้งความคล่องตัวเรื่องการเงิน และสามารถควบคุมงบประมาณได้อีกด้วย?
วันนี้เรามีไอเดียมาช่วยให้เจ้าของธุรกิจยุคใหม่ จัดการงานได้ง่ายขึ้น! โดยเริ่มต้นจาก การแบ่งงานเป็นสองประเภท นั่นคือ
เลือกอ่านได้เลย!
1. งานที่สามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทำได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ้างคน
เมื่อแบ่งงานประเภทนี้ออกมาแล้ว จึงเปรียบเทียบราคาว่าระหว่างค่าโปรแกรมสำเร็จรูป กับค่าจ้างบวกกับสวัสดิการพนักงาน การเลือกใช้แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน เพราะปัจจุบันมีโปรแกรมสำเร็จรูปหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการมากมาย ซึ่งก่อนตัดสินใจ ควรจะทดลองใช้งานก่อน และประเมินความเหมาะสมกับธุรกิจและระบบงานในปัจจุบันด้วย เพราะโปรแกรมเหล่านี้มักจะมีให้ทดลองใช้ฟรีกันอยู่แล้วสำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งหากทดลองใช้แล้วสามารถทำงานได้ดี ประหยัดเวลา ใช้งานง่ายไม่ต้องเสียค่าติดตั้งเริ่มต้น แถมราคาประหยัดโดยที่สามารถเป็นรายปีหรือต่อเดือนได้ การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
2. งานที่จำเป็นต้องพึ่งพาความสามารถของคน
ซึ่งรายละเอียดของงานของแต่ละธุรกิจจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจะต้องวิเคราะห์และแบ่งว่างานไหนที่ต้องจ้างคน แล้วจึงพิจารณาว่างานนั้นๆ ต้องจ้างพนักงานแบบไหน ควรจ้างพนักงานประจำ หรือจ้างฟรีแลนซ์ ซึ่งจ้างพนักงานประจำบริษัทส่วนใหญ่จะถนัดและทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีสายงานไหนบ้าง สำหรับงานที่เราอาจจะบริหารจัดการโดยการจ้างฟรีแลนซ์ เช่น
- งานที่ต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพสูง มีความสามารถด้านนั้นๆโดยเฉพาะ
- งานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์
- งานที่มีความยืดหยุ่นสูง ต้องการความรวดเร็ว และปรับเปลี่ยนง่าย
- งานที่ต้องทำให้จบเป็นรายโปรเจ็ค
- งานที่ต้องการผู้มีประสบการณ์
ซึ่งงานที่พิจารณาแล้วว่าจ้างฟรีแลนซ์ได้ จากนั้นมาลองเปรียบเทียบ การจ้างพนักงานประจำโดยใช้ค่าแรงขั้นต่ำ จำนวน 15,000 บาท/เดือน กับค่าจ้างฟรีแลนซ์ที่จ่ายค่าจ้างต่อชิ้นงาน ว่าการจ้างแบบไหนทำให้คุณได้ปริมาณงานที่มากที่สุด
ในหลายครั้งจะเห็นได้ว่า เงินจำนวนเท่ากันแต่สามารถได้ปริมาณงาน และหลากหลายของงานมากกว่า ค่าใช้จ่ายของการจ้างฟรีแลนซ์นั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณงาน ความยากของงานและการตกลงราคากันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสามารถปรับลดหรือปรับเพิ่มได้อย่างอิสระตามความต้องการ แต่เจ้าของกิจการอย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกงานที่เหมาะกับการจ้างฟรีแลนซ์!
สำหรับเจ้าของกิจการ หรือใครที่กำลังมองหาฟรีแลนซ์ฝีมือดีมาช่วยงานคุณ ลองหากันได้ที่ Fastwork.co แหล่งรวมฟรีแลนซ์คุณภาพอันดับ 1 ของไทย ซึ่งรวบรวมฟรีแลนซ์ที่มีประสบการณ์ให้คุณได้เลือกใช้บริการกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการงานออกแบบ เช่น โลโก้ และแบนเนอร์ เป็นต้น, แต่งรูปด้วยโปรแกรม Photoshop, เขียนคอนเทนต์, รับแปลภาษา, ออกแบบเว็บไซต์ ทำเว็บด้วย HTML, WordPress ฯลฯ ไปจนถึงงาน Online Marketing