ตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อถือหุ้นบริษัทแทนชื่อตัวเอง วิธีนี้มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร

ทำธุรกิจมาสักพัก มักจะมีคนแนะนำว่า “จดบริษัทโฮลดิ้งสิ…ทำแล้วดี มีประโยชน์ทางภาษีด้วย”

เจ้าของธุรกิจหลายคนก็คงแอบสงสัยอยู่ใช่ไหมคะว่า “บริษัทโฮลดิ้ง” หรือ การตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อถือหุ้นแทนชื่อตัวเองเนี่ยมันคืออะไร? ทำแล้วดีหรือไม่ และถ้าอยากทำจริงๆ มันยากหรือเปล่า ถ้าใครกำลังตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้อยู่ เรามาทำความเข้าใจพร้อมๆ กันในบทความนี้เลยค่ะ

บริษัทผู้ถือหุ้น หรือบริษัทโฮลดิ้ง (Holding company) คือ บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้น ในบริษัทอื่นเป็นหลัก และไม่มีการประกอบธุรกิจ อย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง

 

คนที่ทำธุรกิจในรูปแบบบริษัทนั้น น่าจะรู้จักคำว่า “ผู้ถือหุ้น” กันดีอยู่แล้ว ซึ่งหมายถึง คนที่เป็นเจ้าของบริษัทแบ่งตามสัดส่วนการถือหุ้นนั่นเองค่ะ

 

แต่ที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ เราสามารถจดจัดตั้งบริษัท โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นนิติบุคคล ที่เรียกว่าบริษัทได้ด้วยนะ ซึ่งจะมีสิทธิ์และอำนาจตามกฎหมายเหมือนๆ กันเลย เช่น สิทธิ์ในการโหวต อำนาจในการตัดสินใจต่างๆ

 

ตัวอย่างการตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อถือหุ้นแทนตัวเอง 

  • เดิม บริษัท A จะถือหุ้นใหญ่โดย นาย ก. 
  • วางโครงสร้างใหม่ โดยการเปิดบริษัท H ขึ้นมา เพื่อถือหุ้นใหญ่ในบริษัท A. และบริษัท H มีนาย ก. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกทีหนึ่ง

 

เมื่อทำเช่นนี้แล้ว บริษัท H จะมีอำนาจควบคุมบริษัท A. โดยปริยาย ซึ่งในภาษาบัญชีเรียกว่า “บริษัท A เป็นบริษัทย่อยของบริษัท H” ในขณะที่บอสใหญ่ตัวจริงก็ยังเป็น นาย ก. ที่ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท H อยู่ดีค่ะ

 

ตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างของ บริษัท H ที่ถือหุ้นบริษัท A เพียงบริษัทเดียว แต่ในชีวิตจริง เราจะเห็นว่ากลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่มีหลายๆ บริษัทอยู่ในเครือ เช่น บริษัท H ถือหุ้นบริษัท A บริษัท B บริษัท C ไปได้เรื่อยๆ และแต่ละบริษัทย่อยก็จะทำธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการนั่นเองค่ะ

ตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ขึ้นมาถือหุ้นแทนตัวบุคคล มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง?

 

ทุกคนน่าจะมองภาพออกแล้วว่าการตั้งบริษัทขึ้นมาถือหุ้นแทนตัวเองนั้นคืออะไร ทีนี้ก่อนตัดสินใจตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ลองมาดูกันว่ามีข้อดี ข้อเสียยังไงบ้าง

 

ข้อดี

  1. คุ้มครองทรัพย์สิน
    ถ้าบริษัทย่อย (“บริษัท A”) เกิดขาดทุน หรือมีปัญหาฟ้องร้อง ทรัพย์สินที่ถือครองโดยบริษัทโฮลดิ้ง (“บริษัท H”) จะยังคงได้รับการคุ้มครอง และเจ้าหนี้บริษัทย่อย (“บริษัท A”) จะไม่สามารถเข้าถึงได้
  2. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
    บริษัทโฮลดิ้งสามารถจัดโครงสร้างเพื่อใช้ประโยชน์ทางภาษีได้ เช่น การเลื่อนการจ่ายภาษีเงินได้จากการที่บริษัทย่อย (“บริษัท A”) มีกำไรและจ่ายปันผลออกมา (ปกติแล้วต้องจ่ายภาษีทันทีที่จ่ายปันผลให้บุคคล)
  3. สิทธิประโยชน์ทางภาษีเรื่องการให้กู้ยืม
    กรณีเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกู้ยืมเงินกันเอง ไม่ว่าจะคิดดอกเบี้ยเท่าใดไม่ถือเป็นกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ จึงไม่ต้องนำดอกเบี้ยมารวมคำนวณเป็นรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ (อ้างอิงมาตรา 91/5(5) แห่ง ประมวลรัษฎากร ประกอบคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 26/2534)
  4. การจัดง่ายขึ้น:
    บริษัทโฮลดิ้ง ถือเป็นศูนย์กลางความเป็นเจ้าของและแบ่งการลงทุนหลายรายการไว้ในบริษัทย่อยๆ การจัดการทรัพย์สินจึงง่ายและเป็นระเบียบมากขึ้น และการโอนย้ายเงินทุนระหว่างกันก็ง่ายขึ้นด้วย
  5. วางแผนส่งต่อมรดกจากธุรกิจ:
    บริษัทโฮลดิ้ง มีสัดส่วนการถือหุ้นชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนส่งต่อมรดกได้ง่ายกว่าการส่งต่อจากบุคคลไปยังบุคคล

ข้อเสีย

  1. โครงสร้างซับซ้อนขึ้น
    บริษัทโฮลดิ้งที่มีบริษัทย่อยหลายแห่งอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน โดยต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการบัญชีมากขึ้นกว่าปกติ
  2. ต้นทุนที่สูงขึ้น
    การจัดตั้งบริษัทหลายแห่ง มีต้นทุนค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ด้านกฎหมายและบัญชี ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นได้
  3. ขัดแย้งเรื่องการตัดสินใจ
    บริษัทโฮลดิ้งจะมีอำนาจควบคุมโดยรวมของบริษัทย่อย ซึ่งในทางกลับกันบริษัทย่อยเองอาจจะไม่ชอบใจกับนโยบายนี้เท่าใดนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในการทำงาน 
  4. กฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น
    บริษัทโฮลดิ้งและบริษัทในเครือจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การรายงานเรื่องบริษัทที่เกี่ยวข้องกันในงบการเงิน การทำ Transfer Pricing หรืออาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้สรรพากร
  5. เข้าใจผลประกอบการยากขึ้น
    นักลงทุน หรือแม้แต่เจ้าของกิจการอาจจะเข้าใจผลประกอบการของธุรกิจยากขึ้น เนื่องจากมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและมีบริษัทในเครือหลายแห่ง และการจัดทำรายงานก็จะใช้เวลามากยิ่งขึ้น

 


วิธีจดจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อถือหุ้นบริษัทแทนชื่อตัวเอง ทำอย่างไร?

 

กรณีที่มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจและมีผู้ถือหุ้นบุคคลอยู่แล้ว (“บริษัท A”) การจดจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งนั้น สามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้ คือ 

 

  1. จดบริษัทใหม่ (“บริษัท H”) ขึ้นมา แล้วกำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลธรรมดาตามที่ต้องการ 

พิเศษ บริการจดจัดตั้งบริษัท โดยผู้เชี่ยวชาญจาก FlowAccount เริ่มต้นเพียง 9,990 บาท

 

  1. ทำเอกสารโอนหุ้น และแก้ไขเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในบริษัทเดิม (“บริษัท A”) โดยมีบริษัท H เป็นผู้ถือหุ้น กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ที่นี่ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเรามีบริษัท H ถือหุ้นใน บริษัท A แทนตัวเองเรียบร้อยแล้วค่ะ 

 

กรณีที่ยังไม่มีบริษัท และต้องการจดบริษัทใหม่ให้มีผู้ถือหุ้นเป็นนิติบุคคลตั้งแต่ขั้นตอนการจดบริษัทก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยต้องทำเอกสารหนังสือเข้าชื่อจองซื้อหุ้นให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทที่จะมาถือหุ้นลงชื่อ ซึ่งทาง FlowAccount เองก็มีบริการทำเอกสารให้ครบชุดเลยค่ะ

 

ข้อคิดก่อนจดจัดตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อถือหุ้นบริษัทแทนชื่อตัวเอง

 

สุดท้ายนี้ก่อนจะจากกันไป ทุกคนน่าจะพอทราบที่มาที่ไป รวมไปถึงวิธีการในการจดจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งแล้ว ซึ่งขั้นตอนการจดทะเบียนนั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่สิ่งที่อยากฝากไว้ให้คิดก็คือ การตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า เราจดบริษัทโฮลดิ้งไปเพื่ออะไร และประโยชน์ที่ได้รับนั้นมีมากกว่าความวุ่นวายที่จะเพิ่มเข้ามาจริงๆ หรือไม่ ถ้าคำตอบนี้ยังไม่เคลียร์ลองใช้เวลากับตัวเองอีกสักนิดก่อนตัดสินใจ เพราะบริษัทโฮลดิ้ง อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับทุกคนค่ะ

แน่นอนว่าสำหรับข้อดี-ข้อเสียนั้น คงต้องประเมินกันตามสถานการณ์ หากคุณต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เรื่องการจดบริษัทและเคยช่วย SMEs มาแล้วหลากหลาย ขอแนะนำให้ลองติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของ FlowAccount กันดูนะคะ

 

 

About Author

รับวันใช้งานฟรี 30 วัน
เมื่อสมัครทดลองใช้ FlowAccount วันนี้
สมัครเลย