เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม มีขั้นตอนทำอย่างไร พร้อมอัปเดต 11 เรื่องน่ารู้ ปี 2568

เปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม

ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทั้งการทำผ่านระบบออนไลน์ และการยื่นเอกสาร ณ สำนักงานประกันสังคม โดยเน้นย้ำถึงสิทธิของผู้ประกันตนในการเลือกสถานพยาบาลที่ต้องการ รวมถึงข้อควรพิจารณาในการเลือกสถานพยาบาลใหม่ สำหรับบทความนี้ FlowAccount จะมาช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล รวมไปถึงการใช้สิทธิ์รักษาต่างสถานที่มาให้ทุกคนทราบกันค่ะ รู้เอาไว้จะได้ไม่เสียสิทธิ์นะคะ

เลือกอ่านได้เลย!

1. เมื่อนายจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้ลูกจ้าง สามารถเลือกสถานพยาบาลได้ไหม เลือกอย่างไร

ก่อนอื่นเลย เป็นที่รู้กันดีว่า นายจ้างทุกคนเมื่อมีพนักงานเข้ามา ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ให้พนักงานทุกคน โดยใช้แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน สปส.1-03 และต้องแจ้งภายใน 30 วัน และสามารถแจ้งผ่านทางออนไลน์ ระบบ e-Service ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมได้เช่นกัน

โดยในแบบ สปส.1-03 นั้น จะมีช่องให้ผู้ประกันตน เลือกสถานพยาบาล 3 ลำดับ หรือหากเคยเป็นผู้ประกันตนมาแล้ว จะใช้สถานพยาบาลที่เดิม ก็สามารถทำได้ โดยการแจ้งความประสงค์กับ HR ในขั้นตอนกรอกเอกสาร สปส.1-03 ค่ะ

เรื่องราวที่เราคุยกันนี้ ลูกจ้างหลายคน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองสามารถเลือกสถานพยาบาลได้ เพราะ HR บริษัทจัดการเลือกสถานพยาบาลให้เองด้วยความหวังดี แต่ไม่เป็นไรนะคะ ถึงแม้ว่าเลือกสถานพยาบาลไปแล้ว เราก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังค่ะ รออ่านในหัวข้อถัดๆ ไปได้เลย

2. พนักงานบริษัทที่มีสิทธิ์ประกันสังคม ต้องใช้บริการสถานพยาบาลตามสิทธิ์เท่านั้นหรือไม่

หากเราจะคุยกันเรื่องสิทธิ์รักษาพยาบาล เราต้องทำความเข้าใจเรื่องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชนคนไทยก่อน เดิมทีแล้ว คนไทยทุกคนจะมีสิทธิ์ บัตรทองหรือบัตร 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ติดตัวกันหมดทุกคน ซึ่งรักษาพยาบาลฟรี ตามข้อกำหนด (บางอย่างต้องจ่ายเพิ่ม เช่น ยานอกบัญชี) แต่สิทธิ์บัตรทองหรือบัตร 30 บาทนั้นใช้ได้สำหรับคนที่ไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลอื่นของรัฐ เช่น ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการและครอบครัว เป็นต้น นั่นก็แปลว่า มนุษย์เงินเดือนที่มีสิทธิ์ประกันสังคม มาตรา 33 ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์บัตรทองได้ จนกว่าจะออกจากสิทธิ์ประกันสังคม มาตรา 33 ค่ะ

ส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาล เราต้องไปรักษาตัว ณ สถานพยาบาลที่เรามีสิทธิ์อยู่ เพราะจะไม่ต้องสำรองจ่าย และใช้สิทธิ์ได้ตามกำหนด ยกเว้นกรณีเจ็บป่วย หรือประสบอันตรายฉุกเฉิน สามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ แต่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วจึงมาเบิกประกันสังคมภายหลัง

นอกจากนี้ การเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) เราสามารถเข้ารับการรักษาทุกที่ ฟรี! ไม่ต้องสำรองจ่าย ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” (UCEP) ซึ่งเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต จะประกอบไปด้วย 6 กรณี ดังนี้

  1. หมดสติไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
  2. หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง
  3. เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง
  4. ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม
  5. แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วนหรือชักต่อเนื่องไม่หยุด
  6. อาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

โดยสรุปก็คือ การใช้สิทธิ์ประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยทั่วไปต้องใช้ ณ สถานพยาบาลที่ระบุไว้ ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ใช้สิทธิ์ ณ สถานพยาบาลอื่นได้ค่ะ

3. การเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลสามารถทำได้ที่ใด ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

สิทธิ์สถานพยาบาลที่เราเลือกไว้แต่แรกนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เพราะบางทีลูกจ้างย้ายงาน ย้ายที่อยู่ไกลๆ หรือไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเลือกสถานพยาบาลนี้ไว้ (HR ใจดีเลือกให้เอง) แบบนี้อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะลูกจ้างสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลได้ด้วยตัวเอง ตาม 2 ช่องทางหลัก ดังนี้

ช่องทางสำนักงานประกันสังคมพื้นที่

ใช้เอกสาร แบบเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02) ในการยื่นขอเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล

ช่องทางออนไลน์

Download แอปพลิเคชัน SSO+ หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th แล้วเข้าสู่ระบบ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล โดยไม่ต้องแนบเอกสารอะไรเพิ่มเติม

4.วิธีเปลี่ยนโรงพยาบาล ประกันสังคมปี 2568

การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม 2568 สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี 2568 ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2568 กรณีเปลี่ยนสถานพยาบาลระหว่างปี ได้แก่ ย้ายที่ทำงาน หรือย้ายที่พักอาศัยข้ามจังหวัดเท่านั้น ซึ่งวิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 2568 มีด้วยกัน 4 ช่องทาง

4.1 ช่องทางสำนักงานประกันสังคมพื้นที่

ให้เราเตรียม เอกสาร สปส. 9-02 ถามว่าหามาจากไหน เราสามารถปริ๊นต์มาจากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมเลยค่ะ หรือกดดาวน์โหลดตรง “โหลดเอกสาร สปส. 9-02” หลังจากโหลดแบบ สปส. 9-02 มาแล้ว ให้เรากรอกเอกสาร โดยส่วนที่เราอาจจะต้องหาข้อมูลเพื่อมากรอกให้ครบถ้วน ดังนี้

  1. เลขที่บัญชีของสถานประกอบการ (นายจ้าง)  
  2. เข้าทำงานวันที่เท่าไหร่
  3. ได้รับค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนไหน

ข้อมูลส่วนนี้ เราอาจจะไม่มีอยู่ในมือ แต่เราสามารถไปสอบถามจากนายจ้าง หรือแผนก HR ได้ค่ะ

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะให้เน้น คือ สถานพยาบาล ลำดับที่ 1-3 เราควรตรวจสอบให้ดีว่า สถานพยาบาลแต่ละแห่ง มีผู้ใช้สิทธิ์เต็มหรือยัง โดยตรวจสอบผ่าน เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือ สายด่วน 1506

*หมายเหตุ หากไม่สามารถจัดสถานพยาบาลลำดับที่ 1 ให้ได้ จะจัดสถานพยาบาลลำดับถัดไปให้

แบบเลือกสถานพยาบาล

4.2 ช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ สปส. (www.sso.go.th)

เว็บไซต์ สปส. เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมได้ผ่านทางออนไลน์ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th เพื่อเข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก (ใช้ Username และ Password เดียวกับที่ลงทะเบียนผ่านไลน์สำนักงานประกันสังคม) 
  • ถ้ายังไม่เคยลงทะเบียนให้เลือก “สมัครสมาชิก” หรือเลือกเข้าสู่ระบบผ่านแอปฯ ThaiD
  • เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วจะมาที่หน้าตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตน กด “ขอเปลี่ยนโรงพยาบาล”
  • เลือกเหตุผลการเปลี่ยนโรงพยาบาล
  • เลือกโรงพยาบาลใหม่ที่ต้องการ
  • กดยอมรับข้อตกลง พร้อมบันทึก

4.3 ช่องทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน SSO Plus

นอกจากเว็บไซต์แล้ว เรายังสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมได้ผ่านแอปพลิเคชั่น SSO Plus ทางสมาร์ทโฟนโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSO+ ของสำนักงานประกันสังคม จากนั้นลงชื่อเข้าสู่ระบบ (ถ้ายังไม่เคยลงทะเบียนให้ลงทะเบียนก่อน)
  2. ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน
  3. รอยืนยันตัวตนผ่านระบบ OTP
  4. เข้าใช้งาน แอปพลิเคชั่น SSO+ กดปุ่มเมนู > มุมบนซ้าย
  5. ไปที่เมนู และเลือกฟังก์ชั่น “เปลี่ยนโรงพยาบาล”
  6. เลือกสถานพยาบาล ที่ต้องการ และเลือกเหตุผลในการเปลี่ยน
  7. อ่านเงื่อนไขให้ครบถ้วน กดยอมรับข้อตกลง และกดยืนยัน

4.4 ทำรายการผ่านไลน์ (LINE OA) สำนักงานประกันสังคม

ช่องทางไลน์ (LINE OA) เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมได้ด้วยการทำขั้นตอนต่อไปนี้

  • แอดไลน์ของสำนักงานประกันสังคม @ssothai แล้วเลือก “ข้อมูลของคุณ”
  • กรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบ หรือสมัครสมาชิกถ้ายังไม่เป็นสมาชิก
  • เลือกเมนู “เปลี่ยนโรงพยาบาล”
  • เลือกสาเหตุที่เปลี่ยนโรงพยาบาล
  • เลือกโรงพยาบาลใหม่ที่ต้องการ
  • อ่านหลักเกณฑ์การเลือกสถานพยาบาลให้ครบถ้วน
  • กดยอมรับข้อตกลง พร้อมกดยืนยัน
  • ยื่นเรื่องเรียบร้อย รอผลภายใน 2 วัน

5. สถานพยาบาลที่เข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมในปี 2568

ส่วนรายชื่อสถานพยาบาล ที่เข้าร่วมในระบบประกันสังคมปี 2568 แบบแยกรายจังหวัดครบทุกจังหวัด สามารถคลิกตรวจสอบได้ที่นี่ โดยผู้ประกันตนที่ต้องการเปลี่ยนสถานพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดที่ประจำทำงาน หรือใกล้ที่พักอาศัยในปัจจุบัน สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2567 ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2568

สถานพยาบาลที่ไม่เข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมในปี 2568

  • โรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม กรุงเทพมหานคร (กทม.) 
  • โรงพยาบาลเทพากร จ.นครปฐม 
  • โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ จ.สุราษฎร์ธานี 

ซึ่ง สปส. จะจัดหาสถานพยาบาลให้ผู้ประกันตนที่เคยเลือกใช้สิทธิประกันสังคมกับทั้ง 3 โรงพยาบาลเพื่อให้เลือกสถานพยาบาลสำหรับทดแทนในปี 2568 ต่อไป

6. หากไม่เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม/สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ประกันตน

  • สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาลสามารถใช้บริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลเดิมได้ตามปกติ 
  • ส่วนกรณีผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ประกันตน สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลต่อไปได้อีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพ

7. ยื่นแบบขอเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมแล้ว ต้องรอกี่วัน

เมื่อเรายื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาลแล้ว ทางสำนักงานประกันสังคมจะกำหนดวันที่เริ่มมีสิทธิรับริการทางการแพทย์ ดังนี้

  • กรณีสำนักงานประกันสังคมรับเอกสารขอเปลี่ยนโรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 1 ถึง 15 (ก่อน 16.30 น. ของวันที่ 15) เราจะสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ในวันที่ 16 ของเดือนนั้น
  • กรณีสำนักงานประกันสังคมรับเอกสารขอเปลี่ยนโรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 16 ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือน (ก่อน 16.30 น. ของวันสุดท้ายของเดือน) เราจะสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป

8. วิธีการแจ้งผลการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม

เมื่อเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งผลการเลือกโรงพยาบาลดังนี้

  • กรณีที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สปส. จะแจ้งรายงานผ่านทางสถานประกอบการ 
  • ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 แจ้งทางข้อความ (SMS) ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้กับ สำนักงานประกันสังคม

9. สาเหตุที่ทำให้เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมไม่ได้

9.1 สถานะการเป็นผู้ประกันตนไม่เข้าเงื่อนไข 

  • เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จึงไม่สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้
  • เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 แต่ถ้าส่งเงินสมทบไม่ครบตามเงื่อนไข หรือสิ้นสภาพเป็นผู้ประกันตนไปแล้ว

9.2 ข้อมูลส่วนตัวไม่ถูกต้อง 

ควรตรวจสอบชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน และข้อมูลอื่น ๆ ให้ถูกต้องก่อนทำรายการ

9.3 อยู่นอกเวลาที่ให้เปลี่ยนโรงพยาบาล

  • หากต้องการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมประจำปีจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ของปีปัจจุบันจนถึงวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป นอกเหนือจากนี้จะไม่สามารถย้ายโรงพยาบาลได้ 
  • ยกเว้นมีการย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน จึงสามารถเลือกเปลี่ยนโรงพยาบาลระหว่างปีได้

9.4 โรงพยาบาลใหม่ที่ต้องการย้ายไปไม่เปิดรับคนเพิ่ม

หากโรงพยาบาลที่เราต้องการย้ายไปรักษาเปิดรับผู้ประกันตนเต็มจำนวนแล้ว เราจะไม่สามารถย้ายสิทธิไปได้ ต้องเลือกโรงพยาบาลแห่งอื่นแทน

9.5 ระบบขัดข้อง

ช่วงที่ทำรายการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมผ่านออนไลน์อาจเป็นช่วงที่ระบบกำลังปรับปรับปรุงอยู่ แนะนำให้รอสักพักหรือรอวันถัดไป แล้วเข้าทำรายการใหม่อีกครั้ง

10. วิธีตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล

  • เว็บไซต์ www.sso.go.th 
  • แอปพลิเคชัน SSO plus+  
  • สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศไทย 
  • สถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ 
  • เครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย (มท.) 
  • Line @ssothai 
  • โทรหาสายด่วน 1506 กด 1 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

11. การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 มีผลอย่างไรกับคนทำงาน ลูกจ้าง หรือเจ้าของกิจการ

11.1 ประโยชน์ของคนทำงานเมื่อรู้การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 

ในฐานะที่เป็นคนทำงาน ลูกจ้าง หรือพนักงานในบริษัท เมื่อรู้การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 แล้ว จะทำให้เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ได้อย่างถูกต้อง และตรงตามความต้องการ รวมไปถึงการเรียนรู้สิทธิการรักษาพยาบาลในประกันสังคมจะทำให้ใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง และครอบคลุมตามความต้องการได้

11.2 ประโยชน์ของ HR เมื่อรู้การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 

HR เป็นคนที่รวบรวมเอกสารพร้อมจัดระเบียบเอกสารทุกอย่าง หนึ่งในนั้นคือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ที่จะต้องดำเนินการแทนคนทำงาน จึงจำเป็นต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมอย่างละเอียด รวมไปถึงคอยอัพเดทข่าวสารใหม่จากสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้คนในบริษัทได้ทราบทั่วถึง พร้อมคอยเตือนเมื่อใกล้ถึงวันหมดเขตของการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม

11.3 ประโยชน์ของเจ้าของกิจการเมื่อรู้การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68

สำหรับบริษัทขนาดใหญ่นั้นอาจจะมี HR ช่วยดูเรื่องการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ให้ แต่ถ้าคุณยังเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่ยังดูแลเอกสารเอง และยังไม่มี HR ช่วยดูแล การเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 นั้นสำคัญมาก จะได้เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ให้ลูกจ้าง และตนเองได้ 

นอกจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับประกันสังคมอย่างการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 แล้ว ข้อมูลที่ขาดไม่ได้เลย คือ ชื่อพนักงาน ตำแหน่งงานปัจจุบัน และเงินเดือนปัจจุบัน เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง ถ้าใช้โปรแกรมเงินเดือน และโปรแกรมข้อมูลพนักงาน ที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้น จะทำให้เก็บข้อมูลเพื่อทำเรื่องเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ได้รวดเร็วและถูกต้องยิ่งขึ้น

สรุป

จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 นั้นมีสิ่งที่ต้องรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 วิธีเลือกโรงพยาบาลประกันสังคม โรงพยาบาลที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมประกันสังคม วิธีการแจ้งผลการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม สาเหตุที่ทำให้เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมไม่ได้ และวิธีตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล ซึ่งรายละเอียดแต่ละข้อนั้นมีผลกับการเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าคนทำงานรู้และเข้าใจการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมก็จะทำให้สะดวกมากขึ้น และได้รักษาพยาบาลใกล้ขึ้นด้วยสิทธิประกันสังคมที่มีอยู่


ในฐานะคนทำงาน HR หรือเจ้าของกิจการ การได้เรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 จะทำให้ต่างคนต่างทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะความเข้าใจตรงกัน ทำให้ต่างคนต่างดำเนินการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ได้ราบรื่นและถูกต้องยิ่งขึ้น

ยิ่งเจ้าของกิจการที่เพิ่งมาทำธุรกิจได้ไม่นาน การทำสลิปเงินเดือนใช้โปรแกรมเงินเดือนตั้งแต่ต้น จะทำให้ทำเอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมปี 68 ได้สะดวก รวดเร็ว และถูกต้องยิ่งขึ้น

FlowAccount นอกจากจะเป็นโปรแกรมบัญชีที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดแล้ว เรายังมีฟีเจอร์โปรแกรมเงินเดือนที่ช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลพนักงาน การจ่ายเงิน เชื่อมกับระบบบัญชีให้คุณบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

About Author

รับวันใช้งานฟรี 30 วัน
เมื่อสมัครทดลองใช้ FlowAccount วันนี้
สมัครเลย

บทความที่คุณน่าจะสนใจ