คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการใช้รถกรรมการในกิจการและประเด็นทางภาษี
1. กรรมการนำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้ในกิจการ สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีบริษัทได้หรือไม่?
ตอบ: ได้ แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการของสรรพากร วิธีที่ดีที่สุดคือบริษัทต้องทำ “สัญญาเช่ารถยนต์” กับกรรมการอย่างเป็นทางการ เพื่อเปลี่ยนสถานะจากรถส่วนตัวให้เป็นรถที่บริษัทเช่ามาใช้งาน วิธีนี้จะทำให้บริษัทสามารถนำ “ค่าเช่า” และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้อย่างถูกต้อง
2. ต้องทำเอกสารอะไรบ้างเพื่อให้ค่าใช้จ่ายรถกรรมการเป็นที่ยอมรับของสรรพากร?
ตอบ: สิ่งที่ต้องมีคือ “สัญญาเช่ารถยนต์” ระหว่างกรรมการ (ผู้ให้เช่า) และบริษัท (ผู้เช่า) โดยกำหนดอัตราค่าเช่าที่สมเหตุสมผลตามราคาตลาด นอกจากนี้ ใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าน้ำมัน, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าทางด่วน ควรระบุเป็น “ชื่อของบริษัท” เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการลงบัญชีที่ชัดเจน
3. บริษัทสามารถขอคืนภาษีซื้อ (VAT) จากค่าน้ำมันหรือค่าซ่อมรถของกรรมการได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่ได้ หากรถยนต์คันดังกล่าวเป็น “รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน” เช่น รถเก๋ง, SUV ภาษีซื้อที่เกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับรถประเภทนี้ทั้งหมด (ค่าน้ำมัน, ค่าซ่อม, ค่าประกัน) จะถือเป็น “ภาษีซื้อต้องห้าม” ตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าบริษัทไม่สามารถนำไปขอคืนหรือหักออกจากภาษีขายได้ แต่ยังสามารถนำมูลค่ารายจ่าย (ก่อน VAT) ไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้
4. บริษัทสามารถจ่ายค่าอะไรเกี่ยวกับรถกรรมการได้บ้าง?
ตอบ: หากมีสัญญาเช่าอย่างถูกต้อง บริษัทสามารถบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดังนี้:
– ค่าเช่ารถยนต์: จ่ายให้กรรมการตามที่ระบุในสัญญา (บริษัทต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5%)
– ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง: ตามการใช้งานจริงเพื่อกิจการ
– ค่าซ่อมบำรุงและดูแลรักษา: เช่น การเปลี่ยนยาง, การเช็คระยะ
– ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์
– ค่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี
5. การใช้รถกรรมการแบบเช่า กับ การซื้อรถในนามบริษัท แบบไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน
– การเช่ารถกรรมการ: ข้อดี คือ ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อรถ, ไม่ต้องบันทึกเป็นทรัพย์สินของบริษัท ข้อเสีย คือ ไม่สามารถนำรถมาหักค่าเสื่อมราคาได้ (หักได้เฉพาะค่าเช่า)
– การซื้อรถในนามบริษัท: ข้อดี คือ สามารถนำรถยนต์มาหัก “ค่าเสื่อมราคา” เป็นค่าใช้จ่ายได้ (สูงสุดจากฐานทุน 1 ล้านบาท) ข้อเสีย คือ ต้องใช้เงินลงทุนสูง และหากเป็นรถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ก็ยังคงติดปัญหา “ภาษีซื้อต้องห้าม” เหมือนเดิม
About Author

เพจให้ความรู้เรื่องบัญชีสำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่อยากให้บัญชีเป็นเรื่องง่าย ใกล้ตัว และมีประโยชน์กับธุรกิจ ภายใต้แนวคิดทีว่า “ทำบัญชี แล้วจะมีกำไร”
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่









