บทความนี้ FlowAccount จะพาคุณไปทำความเข้าใจความหมายของคำว่า Entrepreneur โดยจะเจาะลึกไปถึงแก่นของ Entrepreneur Mindset ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมบางคนเป็นแค่เจ้าของกิจการ แต่บางคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้

 

Entrepreneur คือใคร ? มีหน้าที่อะไรบ้าง

Entrepreneur คือ บุคคลที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ หรือ “ผู้ประกอบการ” ที่ลงมือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นจากศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรือนวัตกรรม เพื่อสนองความต้องการของตลาด หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม 

 

โดยนิยามของ Entrepreneur คือ ไม่ใช่เพียงคนทำธุรกิจทั่วไป แต่คือ “นักสร้าง” ที่กล้ารับความเสี่ยง มีภาวะผู้นำ และสามารถระดมทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งเงินทุน ทีมงาน และเทคโนโลยี มาผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้ไอเดียกลายเป็นความจริงที่สร้างคุณค่าและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

เมื่อเข้าใจแล้วว่าบทบาทและหน้าที่ของ Entrepreneur คืออะไร คำถามสำคัญที่ตามมาคือ “อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนธรรมดากล้าที่จะเสี่ยง ลงมือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และเผชิญหน้ากับความล้มเหลวได้โดยไม่ย่อท้อ?” คำตอบของเรื่องนี้ซ่อนอยู่ในพลังขับเคลื่อนจากภายในที่เรียกว่า “Entrepreneur Mindset” ซึ่งถือเป็นรากฐานและหัวใจสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

Entrepreneur Mindset คืออะไร ? รู้จักแนวคิดสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการ

Entrepreneur Mindset คือ ชุดความคิด กรอบทัศนคติ และความเชื่อที่เป็นรากฐานในการขับเคลื่อนการกระทำของ ผู้ประกอบการ มันคือเลนส์ที่พวกเขามองโลก ซึ่งแตกต่างจากคนทั่วไป โดยมองเห็นโอกาสในทุกปัญหา และมองความล้มเหลวเป็นการเรียนรู้ที่ล้ำค่า หรือบอกได้ว่า Entrepreneur Mindset ไม่ใช่พรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เป็นสิ่งที่สามารถสร้างและฝึกฝนได้ ประกอบด้วยแนวคิดสำคัญหลายประการ เช่น

• Growth Mindset: ความเชื่อว่าความสามารถและทักษะสามารถพัฒนาได้เสมอ ไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ ๆ
• Resilience (ความยืดหยุ่นทางความคิด): ความสามารถในการล้มและลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่จมอยู่กับความผิดพลาด แต่นำมาเป็นบทเรียนเพื่อก้าวต่อไป
• Proactiveness (การทำงานเชิงรุก): ไม่รอให้โอกาสเข้ามา แต่เป็นฝ่ายสร้างโอกาสและลงมือทำก่อนเสมอ
• Resourcefulness (ความสามารถในการหาทางออก): มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและหาทางออกได้แม้ในสถานการณ์ที่มีทรัพยากรจำกัด

 

Entrepreneur มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

Entrepreneur ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามเป้าหมายและวิธีการดำเนินธุรกิจ การทำความเข้าใจประเภทของ Entrepreneur จะช่วยให้คุณเห็นภาพเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการที่หลากหลายมากขึ้น

The Innovator (นักสร้างนวัตกรรม)

คือ ผู้ประกอบการ ที่ขับเคลื่อนด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อาจเป็นเทคโนโลยีพลิกโลก, สินค้าที่แก้ปัญหาได้ดีกว่าเดิม หรือโมเดลธุรกิจที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรม (Disruption) พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบในวงกว้างและมักจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับตลาด

The Hustler (นักลงมือทำ)

เป็นผู้ประกอบการประเภทที่เชื่อมั่นในการทำงานหนักและความพยายามอย่างไม่ลดละ มีความสามารถในการขาย, การเจรจาต่อรอง และการสร้างเครือข่ายที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถเริ่มต้นจากศูนย์หรือมีทรัพยากรที่จำกัด (Bootstrapping) และใช้ความมุ่งมั่นทุ่มเททั้งหมดเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจด้วยตัวเอง

The Social Entrepreneur (ผู้ประกอบการเพื่อสังคม)

Social Entrepreneur คือผู้ประกอบการที่ก่อตั้งธุรกิจโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พวกเขาไม่ได้วัดความสำเร็จจากผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับผลกระทบเชิงบวก (Social Impact) ที่สร้างขึ้นควบคู่กันไป

The Scaler (นักขยายธุรกิจ)

ผู้ประกอบการประเภทนี้มีความเชี่ยวชาญในการนำธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่ามีโอกาสเติบโต มาต่อยอดและขยายขนาด (Scale-Up) อย่างรวดเร็ว พวกเขามีความสามารถในการสร้างระบบ, วางโครงสร้างองค์กร และระดมทุน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศหรือระดับโลก

 

คุณสมบัติของการเป็น Entrepreneur ยุคใหม่ ต้องมีทักษะอะไรบ้าง ?

โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การเป็น Entrepreneur ยุคใหม่ต้องมีชุดทักษะที่หลากหลายและพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อนำพาธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน นี่คือทักษะสำคัญที่คุณต้องเรียนรู้และพัฒนา

1. Accounting & Finance (การบัญชีและการเงิน)

หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือตัวเลขคุณสมบัติของ Entrepreneur ยุคใหม่เลยต้องสามารถ เข้าใจตัวเลขบัญชี เพื่อวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินของบริษัทได้ ไม่ว่าจะเป็นงบกำไรขาดทุนหรืองบดุล เพื่อใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการ วางแผนธุรกิจได้ชัดเจน และตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ เช่น การลงทุน, การควบคุมต้นทุน และการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Tax & Legal (ภาษีและกฎหมาย)

การทำธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ผู้ประกอบการ จึงจำเป็นต้อง รู้ทันทุกเรื่องสัญญา, เอกสารต่าง ๆ, ภาษี, กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเอง การมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สามารถให้คุณทำธุรกิจได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาจุกจิกที่จะตามมา

3. AI & Tech (เทคโนโลยีและ AI)

ในปัจจุบัน เทคโนโลยี กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน การเรียนรู้และอัปเดตเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำ เครื่องมือ AI เช่น Gemini มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงาน จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดแบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถยกระดับศักยภาพ และแข่งขันกับองค์กรขนาดใหญ่ได้

4. Sales & Marketing (การขายและการตลาด)

สินค้าที่ดีจะไร้ความหมายหากไม่มีใครรู้จักหรือซื้อ ดังนั้นทักษะของ Entrepreneur ที่ดี จะต้องมีความสามารถ ในการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาด และ การขายแบบใช้ได้จริง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเปลี่ยนพวกเขาให้กลายมาเป็นลูกค้าให้ได้ การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่เฉียบคมจะช่วยให้ ยอดขายเติบโตขึ้น เห็นกำไรชัด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระยะยาว

5. Strategy & Operations (กลยุทธ์และการดำเนินงาน)

เบื้องหลังธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่การจัดการสต็อกสินค้า (ของเข้า-ของออก), การวาง Process การทำงานของทีมให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้ ธุรกิจเติบโตได้ไม่สะดุด และสามารถขยายกิจการ (Scale-Up) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. People Management (การบริหารคนและทีม)

Entrepreneur ไม่สามารถสร้างการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวคนเดียว ทักษะในการบริหารคนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตั้งแต่การบริหารพนักงาน สร้างทีมที่แข็งแกร่ง, การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน, ไปจนถึงการ วัดผลการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมขององค์กรให้สามารถ รองรับการเติบโตขององค์กรในอนาคต ได้อย่างมั่นคง

 

 

จากไอเดียสู่ความสำเร็จ ถึงเวลา Up Skill ความรู้ให้ผู้ประกอบการในงาน SME How To Scale 2025

Entrepreneur คือ ผู้ที่ไม่หยุดพัฒนา ไม่เพียงแค่มีความฝันในการสร้างธุรกิจ แต่ยังมุ่งมั่นเรียนรู้และต่อยอดทักษะของตนอยู่เสมอ เพราะในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จไม่ได้มาจากไอเดียเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการ Up Skill และ Re-skill อย่างต่อเนื่อง เพื่อพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ และนำพาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

 

FlowAccount ขอเชิญชวน ผู้ประกอบการ ที่มีความฝันและต้องการยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น มาร่วมอัปเดตความรู้และพัฒนาทักษะในงาน SME How To Scale Expo 2025 สุดยอดงานอบรมความรู้เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ที่อยาก Up Skill หรือ Re Skill ความรู้ด้านการทำธุรกิจ จัดเต็มตลอด 2 วัน เหมือนได้มาเรียน MBA  ฉบับรวบรัด พร้อมสร้าง Connection ใหม่ๆ ด้วยพื้นที่พบปะ Entrepreneur เพื่อโอกาสใหม่ทางธุรกิจ

 

แล้วพบกันที่งาน SME How To Scale Expo 2025 ในวันที่ 19-20 ธันวาคม 2568 ที่ Sasin School of Management อีเวนต์เดียวที่รวมความรู้จัดเต็มแบบบุฟเฟต์ 2 วัน เลือกเข้าได้กว่า 30+ Workshops

กับ Speakers มากกว่า 35 คน ทั้งผู้เชี่ยวชาญและเจ้าของธุรกิจตัวจริง 

 

บัตร Early Bird ราคาเพียง 1,490 บาท (จากปกติ 2,990 บาท)
ราคาพิเศษเฉพาะวันนี้ – ถึง 30 พ.ย. 2568 เท่านั้น!

ซื้อบัตรร่วมงานราคาพิเศษตอนนี้ คลิก

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการเป็น Entrepreneur

รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการเริ่มต้นเส้นทางสาย ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) มาตอบให้หายข้องใจกัน

1. ผู้ประกอบการกับนักธุรกิจต่างกันอย่างไร?

ตอบ : Entrepreneur (ผู้ประกอบการ) มักเน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การแก้ปัญหา และการนำนวัตกรรมมาสู่ตลาด ในขณะที่นักธุรกิจอาจเน้นการดำเนินธุรกิจที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพและเติบโต

2. ต้องมีเงินทุนเยอะ ๆ ถึงจะเป็น Entrepreneur ได้ใช่หรือไม่?

ตอบ : ไม่จำเป็นเสมอไป Entrepreneur ยุคใหม่หลายคนเริ่มต้นจากแนวคิด "Lean Startup" คือการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (MVP - Minimum Viable Product) ด้วยทรัพยากรที่จำกัดเพื่อทดลองตลาดก่อน เมื่อพิสูจน์ได้ว่ามีลูกค้าจริง จึงค่อยๆ หาแหล่งเงินทุนอื่น ๆ เช่น Angel Investor หรือ Venture Capital เพื่อขยายธุรกิจต่อไป

3. ตัวอย่าง Entrepreneur ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมีใครบ้าง?

ตอบ : ตัวอย่าง Entrepreneur ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก มีอยู่มากมาย แต่บุคคลที่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการทั่วโลก ได้แก่

• Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมอย่าง iPhone และแนวคิดการออกแบบที่เน้น User Experiences 
• Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX ซึ่งเป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการที่กล้าท้าทายขีดจำกัดของเทคโนโลยี พัฒนาแนวคิดพลังงานสะอาดและการเดินทางสู่อวกาศให้กลายเป็นจริง
• Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ที่เริ่มต้นจากร้านหนังสือออนไลน์เล็ก ๆ จนกลายเป็นอาณาจักรอีคอมเมิร์ซระดับโลก

 

บุคคลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Entrepreneur คือผู้ที่มองเห็นโอกาสในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม กล้าลงมือทำ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จในระดับโลก

4. การเป็น Entrepreneur จำเป็นต้องเรียนจบด้านบริหารธุรกิจหรือไม่?

ตอบ : ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะผู้ประกอบการ หรือ Entrepreneur ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ สิ่งสำคัญกว่าคือ "ความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต" ความกระหายที่จะศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ทั้งเรื่องการตลาด การเงิน การบริหารคน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

5. Entrepreneurship คืออะไร?

ตอบ : Entrepreneurship คือกระบวนการของการสร้างสรรค์ พัฒนา และบริหารจัดการธุรกิจใหม่ โดยมีการระบุและใช้ประโยชน์จากโอกาสต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้ธุรกิจ