อากรแสตมป์คืออะไร ต้องชำระยังไง

อากรแสตมป์คืออะไร ต้องชำระยังไง

เวลาที่เราทำสัญญาทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงิน เช่าทรัพย์ หรือแม้แต่ทำหนังสือมอบอำนาจ หลายคนอาจเคยเห็นคำว่า "อากรแสตมป์" โผล่มาในเอกสาร แต่ก็อาจจะยังงงอยู่ว่า ตกลงมันคืออะไร ต้องซื้อแสตมป์จากไปรษณีย์มาติดเองหรือเปล่า แล้วถ้าลืมติดจะมีผลยังไง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจอากรแสตมป์แบบง่ายๆ พร้อมบอกวิธีชำระอย่างถูกต้อง เพื่อให้เอกสารมีผลทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์กันค่ะ

อากรแสตมป์คืออะไร?

อากรแสตมป์ (Stamp Duty) คือ ภาษีอากรประเภทหนึ่งที่จัดเก็บจากการทำตราสารหรือเอกสารทางกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะสัญญาหรือเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เช่น สัญญาเช่า สัญญากู้ยืม หนังสือมอบอำนาจ ใบหุ้น เป็นต้น

 

การชำระอากรแสตมป์ จะแสดงให้เห็นว่าเอกสารฉบับนั้นมีผลทางกฎหมายสมบูรณ์ และสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานได้ในทางกฎหมายอีกด้วย นอกจากนี้อากรแสตมป์ ไม่ใช่ แสตมป์ทั่วไป (ไปรษณียากร) ที่เราใช้ติดบนจดหมายกันนะคะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด!

 

อากรแสตมป์มีกี่ประเภท?

ปัจจุบัน ตราสารที่ใช้กับเอกสารที่มีผลทางกฎหมายมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน 

  • ตราสารสีน้ำเงิน 1 บาท
  • ตราสารสีเขียว 5 บาท
  • ตราสารสีแดง 20 บาท

 

โดยสามารถซื้อตราสารได้ที่สำนักงานสรรพากรในอำเภอและจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ (ไม่ใช่ที่ไปรษณีย์น้า)

 

ความสำคัญของอากรแสตมป์ในการทำสัญญา

ทำไมเราต้องใส่ใจเรื่องอากรแสตมป์ด้วย? 

 

คำตอบก็คือ เพื่อให้เอกสารมีน้ำหนักทางกฎหมายมากขึ้น และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากร

 

ถ้าไม่ติดอากรแสตมป์หรือชำระไม่ถูกต้อง เอกสารนั้นอาจไม่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีความได้ หรืออาจโดนค่าปรับย้อนหลังอีกด้วย เพราะฉะนั้น การติดอากรแสตมป์ให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นจึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง

 

เอกสารและตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์

ไม่ใช่เอกสารทุกประเภทจะต้องเสียอากรแสตมป์ แต่จะมีตราสารที่ระบุไว้ชัดเจนตามกฎหมาย ซึ่งหลัก ๆ ได้แก่

  • สัญญาเช่าทรัพย์สิน คิดอากรแสตมป์ 0.1% ของค่าเช่าตลอดอายุสัญญา เช่น ถ้าเช่า 1 ปี เดือนละ 10,000 บาท รวม 120,000 บาท จะเสียอากรแสตมป์ 120 บาท
  • สัญญากู้ยืมเงิน เสียอากร 1 บาทต่อทุกๆ เงินกู้ 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท เช่น กู้ 50,000 บาท จะต้องเสียอากรแสตมป์ 50 บาท
  • หนังสือรับสภาพหนี้ เสียอากรในอัตราเดียวกับสัญญากู้ยืมเงิน
  • หนังสือมอบอำนาจ เสียอากรแสตมป์ฉบับละ 10 บาท (เว้นแต่กรณีที่ใช้ในราชการบางประเภทจะได้รับยกเว้น)
  • ใบหุ้น / ใบหุ้นกู้ เสียอากร 1 บาทต่อมูลค่าหุ้นทุก 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท
  • หนังสือข้อตกลงแบ่งผลประโยชน์ เสียอากร 1 บาทต่อจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท
  • สัญญาจ้างแรงงานหรือจ้างทำของ เสียอากร 1 บาทต่อค่าจ้าง 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท เช่น จ้างทำงาน 30,000 บาท เสียอากร 30 บาท
  • สัญญาค้ำประกัน เสียอากร 1 บาทต่อยอดที่ค้ำประกัน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท

 

เอกสารแต่ละประเภทจะมีอัตราอากรแสตมป์ที่แตกต่างกัน เช่น สัญญาเช่าทรัพย์สิน คิดตามระยะเวลาการเช่า ส่วนสัญญากู้ยืมเงินจะคิดตามวงเงินกู้ เป็นต้นค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากเช็กอัตราอากรแสตมป์ทั้งหมด สามารถเช็กเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.rd.go.th/6162.html

 

วิธีการชำระค่าอากรแสตมป์

ปัจจุบันการชำระอากรแสตมป์ทำได้หลายวิธี และสะดวกขึ้นมาก โดยมีทางเลือกหลักๆ ดังนี้

  • ติดแสตมป์กระดาษ: วิธีดั้งเดิม โดยไปซื้ออากรแสตมป์จากสรรพากร แล้วนำมาติดลงบนเอกสาร พร้อมประทับตรายกเลิกแสตมป์ด้วยชื่อและวันเดือนปีให้เรียบร้อย
  • ยื่นแบบออนไลน์ (e-Stamp): ช่องทางใหม่ที่สะดวกมาก สามารถยื่นแบบผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่ website นี้ https://efiling.rd.go.th/rd-efiling-web/authen/OS9_V2 โดยไม่ต้องใช้แสตมป์กระดาษเลย เหมาะกับคนที่ทำเอกสารจำนวนมากหรืออยากเก็บทุกอย่างเป็นดิจิทัล
  • ยื่นแบบและชำระที่สำนักงานสรรพากร: สำหรับคนที่ยังอยากไปยื่นด้วยตนเอง ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน โดยกรอกแบบฟอร์มและชำระเงินที่เคาน์เตอร์ได้เลย

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับอากรแสตมป์

ถัดมาเรามาดูข้อควรรู้เกี่ยวกับอากรแสตมป์ จะได้ไม่พลาด เสียค่าปรับกันนะคะ

  • ระยะเวลาชำระ: โดยทั่วไปต้องชำระภายใน 15 วัน นับจากวันที่เอกสารมีผลบังคับใช้ (หรือลงวันที่ในเอกสาร)
  • หากลืมติด: สามารถชำระย้อนหลังได้ แต่จะมีค่าปรับและเงินเพิ่มตามระยะเวลาที่ชำระล่าช้า
  • เอกสารหลายฉบับ: ถ้ามีการทำเอกสารไว้หลายชุด ให้เลือกชุดเดียวที่ใช้งานหลักมาชำระอากรแสตมป์
  • รายการที่ยกเว้น: บางกรณีอาจได้รับยกเว้น เช่น เอกสารที่ทำกับส่วนราชการ หรือกรณีเฉพาะตามกฎหมาย

About Author

รับวันใช้งานฟรี 30 วัน
เมื่อสมัครทดลองใช้ FlowAccount วันนี้
สมัครเลย

บทความที่คุณน่าจะสนใจ