คุณซันนี่ สัจจเทพ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KRAFTKA เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเริ่มมาจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แฟนคุณซันนี่ซื้อรองเท้าและแต่งรองเท้าให้ คุณซันนี่จึงเริ่มมีความคิดว่าอยากจะทำแบรนด์ที่เกี่ยวกับศิลปะบนรองเท้า หน้าที่ของทีมคือ ออกแบบสินค้า เรียกว่า Blank Canvas สินค้าเปล่า ปล่อยออกมาเรื่อยๆ ให้คนได้ร่วมออกแบบ

และได้เล่าให้ฟังต่อว่า KRAFTKA เป็นแบรนด์ Sneaker ที่สร้างโดยศิลปินจากทั่วโลก เมื่อเข้ามาที่ร้าน เราจะได้เห็นรองเท้่าหลายร้อยลาย และแต่ละลายออกแบบโดยคนไม่ซ้ำหน้า ซึ่งตอนนี้เรามีศิลปินออกแบบกว่า 1,000 คน จาก 20 ประเทศ จากสวีเดน ไทย อเมริกา จากทุกประเทศเลยสามารถเข้ามาได้ที่เว็บ www.kraftka.com และเลือกออกแบบสินค้าแฟชั่นที่เรามีอยู่บนเว็บ และสินค้าจะออกมาจริงที่หน้าร้านของแบรนด์

ใครๆก็สามารถออกแบบกับ KRAFTKA ได้ มีตั้งแต่นักร้องจนนักวาด คนทำบัญชีที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีผลงานทางศิลปะมาก่อน เขาวาดเวลาที่เขาเบื่อๆเวลาทำงาน แล้วเขาก็ลองอัพโหลดขึ้นมาดู และกลายเป็นว่าคนซื้อเยอะ ขายดีอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นศิลปินขึ้นมา ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดีเลย หลายคนเห็นรองเท้าที่มีสีสันแบบนี้เขาก็ชอบ เวลามาที่ร้านก็เหมือนกับได้เดินอยู่ในแกลลอรี่แห่งหนึ่ง ที่ทุกอย่างเป็นภาพวาด และได้พบกับคนจากหลายๆประเทศ เบื้อหลังสินค้าทุกชิ้นมันมีเนื้อเรื่อง มีแรงบันดาลใจที่ชัดเจน

ออเดอร์แรกที่เราได้ขายไป เป็นผลงานของศิลปินชาวไทยชื่อ ปั๊ก อยู่ดีๆศิลปินไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ได้ขายรองเท้าให้คนต่างประเทศ มันก็เกิดคอนเนคชั่นร่วมกัน ความต้องการของผมที่อยากจะเชื่อมต่อศิลปินกับผู้บริโภคจากทั่วโลกมันกลายเป็นจริง

นอกเหนือจากเรื่องงานดีไซน์แล้ว คุณซันนี่ยังเล่าให้ฟังถึงปัญหาเรื่องบัญชีว่า การทำบัญชีเรามีเทมเพลตบัญชี 10 กว่าแบบ ทำจาก Illustrator บ้าง จาก PhotoShop บ้าง Excel บ้าง กลายเป็นสิ่งที่ลำบากสุดๆและเสียเราแบบสุดๆเหมือนกัน ในการทำ Invoice หรือ เอกสารสักอย่าง ที่ส่งกันไปมา แต่ละคนก็มีไอเดียของตัวเอง Invoice เป็นแบบไหน ส่งไปไม่มีเลขบัญชีบ้าง ไม่มีที่อยู่บ้าง ไม่มีชื่อบริษัทบ้าง กลายเป็นว่าสิ่งที่ควรจะเป็นเบื้องหลังทั้งหมดกินเวลาของเราไปหมดเลย

เพราะมีคนร่วมงานค่อนข้างเยอะ บัญชีจึงค่อนข้างซับซ้อน มีเอกสารเต็มไปหมด และก็รู้ว่าต้องเก็บเอกสารให้เรียบร้อย เขียนให้เรียบร้อย ทุกอย่างต้องชัดเจน จึงต้องวิ่งหาซอฟต์แวร์ที่ช่วยตอบโจทย์ด้านนี้ได้ ให้บัญชีของศิลปินทุกคนหรือผู้ร่วมออกแบบทุกคนเป็นระเบียบ เราจึงเลยร่วมงานกับ FlowAccount ที่จะช่วยให้งานของทุกคนง่ายขึ้น ตอนนี้เวลาที่ศิลปินจะส่ง Invoice หรือ เอกสารให้

เมื่อก่อนจะเป็นเอกสารที่เขาทำเองบน Word หรือ Excel ข้อมูลไม่ครบ ต้องส่งกลับไปมาเป็นร้อยสองร้อยที มันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว

ฝ่ายบัญชีก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากสอนทุกคนให้ทำบัญชีอย่างไร ก็เลยหาวิธีให้ทุกคนมาใช้โปรแกรมนี้ให้ได้ เพราะว่าตั้งแต่เริ่มจนจบมันง่ายมาก และเร็วมาก และไม่มีอะไรผิดพลาด ตอนนี้ศิลปินเกิน 50% หันมาใช้ FlowAccount นอกจากส่ง Invoice มาให้เรา เราก็ใช้ในชีวิตส่วนตัวของเขาด้วย ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรกับใครจะใช้ FlowAcoount หมด เพราะว่ามันมีระบบที่ค่อนข้างง่าย และได้ใส่ Branding ของเขาด้วย เขาก็ยิ่งมีความต้องการที่จะใช้มากขึ้น ทุกครั้งที่ได้คุยกับ Supplier หรือศิลปิน ก็จะบอกเขาเรื่อยๆว่าให้

ทุกครั้งที่ได้คุยกับ Supplier หรือศิลปิน ก็จะบอกเขาใช้ FlowAccount ทุกอย่างจะได้ราบรื่น จะได้รับเงินได้เร็วขึ้น

คุณซันนี่แนะนำว่า สำหรับคนที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ ผมขอแนะนำให้เรามีจุดยืนใหม่ให้ชัดเจน ยิ่งข่าวสารเดินทางได้รวดเร็วขึ้นเท่าไหร่ คนทั่วไปก็จะเห็นความก้าวหน้าของโลกได้เร็วและชัดเจนมากขึ้น การทำธุนกิจที่มีส่วมร่วมกับคนเยอะๆคือ อนาคต โลกจะเล็กลงเรื่อยๆคนที่อยู่กันคนละมุมโลก จะได้พบกันมากขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางไปหากันด้วยซ้ำ แต่เราก็ได้แบ่งปันข้อมูล แบ่งปันงานศิลปะ แบ่งปันความคิดร่วมกัน ต้องมีจุดยืนใหม่ที่ชัดเจน เราต้องคิดกว้างในเชิง Community และ Innovation