ทำธุรกิจส่วนตัวมาสักพักจนเป็นที่รู้จักมากขึ้น รายได้ก็ต้องมากขึ้นตามลำดับ และแน่นอนว่าทางเลือกในการจดทะเบียนบริษัทน่าจะแว๊บเข้ามาในหัวทุกคนอย่างแน่นอน แต่ทว่า หลายคนอาจสับสน ไม่รู้ต้องทำอะไรก่อน เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ใช้เวลาแค่ไหน หรือจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่กันแน่? บทความนี้นุชจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจขั้นตอนจดทะเบียนบริษัทแบบง่ายๆ ทีละสเต็ป เพื่อไขข้อสงสัยในการจดทะเบียนบริษัท พร้อมเติบโตสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจตัวจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่ทุกคนคิดแน่นอนค่ะ |
ประเภทนิติบุคคลมีอะไรบ้าง?
อันดับแรก เรามาปูพื้นฐาน 101 เกี่ยวกับนิติบุคคลให้เข้าใจกันก่อนค่ะ คำว่า “นิติบุคคล” หมายถึง กลุ่มบุคคลหรือองค์ที่ร่วมกันดำเนินกิจการ และก่อตั้งเป็นนิติบุคคลทางกฎหมาย (แยกต่างหากจากบุคคลธรรมดา) โดยทั่วไปแล้ว เจ้าของกิจการในนามของบุคคลธรรมดา สามารถเลือกจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
เลือกอ่านได้เลย!
Toggle1. ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามัญ
ห้างหุ้นส่วนสามัญ เป็นกิจการที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนมีสิทธิจัดการงานในนามของห้างหุ้นส่วนนั้น และต้องรับผิดชอบในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนร่วมกันไม่จำกัดจำนวน
2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด แบ่งหุ้นส่วนออกเป็น 2 ประเภท คือ หุ้นส่วนแบบไม่จำกัด และหุ้นส่วนแบบจำกัด ซึ่งหุ้นส่วนประเภทแรกจะมีสิทธิ์บริหารจัดการและตัดสินใจในกิจการได้เต็มที่ ส่วนหุ้นส่วนจำกัดจะไม่มีสิทธิ์บริหารและตัดสินใจ แต่จะได้สามารถสอบถามการดำเนินกิจการ ออกความเห็น เป็นที่ปรึกษา และรับผลตอบแทนตามสัดส่วนเงินลงทุน
3. บริษัทจำกัด
บริษัทจำกัด เป็นรูปแบบนิติบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยแบ่งทุนเป็นหุ้น และผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบในหนี้สินของบริษัทเท่ากับมูลค่าหุ้นที่ตนถืออยู่เท่านั้น การบริหารงานของบริษัทจะอยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท ซึ่งบริษัทจำกัดจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการโครงสร้างการบริหารที่ชัดเจน รองรับการเติบโตของกิจการในระยะยาว
การเลือกประเภทของนิติบุคคลให้เหมาะกับกิจการของตนเอง เป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพราะจะส่งผลต่อการบริหาร จัดการธุรกิจในระยะยาวค่ะ
ขั้นตอนจดบริษัท
สำหรับใครที่เลือกจดทะเบียนบริษัท ขั้นตอนต่อไปคือ การดำเนินการจดทะเบียนค่ะ (ใช่สิ…ถ้าเลือกแล้วไม่จดทะเบียนบริษัทก็ไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน!) ขั้นตอนสำคัญของการจดบริษัทที่ควรทำตามลำดับ มีดังนี้ค่ะ
1. ตั้งชื่อบริษัท พร้อมจองชื่อบริษัทให้เรียบร้อย
ขั้นตอนแรก ต้องเริ่มต้นจากการตั้งชื่อบริษัทเสียก่อนค่ะ ในขั้นตอนนี้ใครจะพึ่งพาเทคนิคการมูก็ทำได้เต็มที่เลย แต่อย่าลืมว่าต้องอยู่ในเงื่อนไขว่าชื่อต้องไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น ต้องสื่อความหมายที่เหมาะสมกับธุรกิจที่ดำเนินการ ไม่เป็นชื่อที่ชวนให้เข้าใจผิด และต้องไม่เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์และหน่วยงานรัฐด้วยนะคะ
เมื่อได้ชื่อที่ต้องการแล้ว ให้ดำเนินการจองชื่อกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้เรียบร้อยที่ https://reserve.dbd.go.th/
โดยชื่อที่จองไว้จะมีอายุ 30 วัน ซึ่งต้องดำเนินการจดทะเบียนให้เสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวด้วยค่ะ
2. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
ขั้นตอนที่ 2 คือ การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและยื่นต่อนายทะเบียน
หนังสือบริคณห์สนธิ ก็คือ หนังสือแสดงความต้องการจัดตั้งบริษัท
ในขั้นตอนนี้ เจ้าของกิจการจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน เพื่อให้การยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่
- แบบคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1)
เป็นแบบฟอร์มคำขออย่างเป็นทางการในการจัดตั้งบริษัท ซึ่งต้องระบุชื่อบริษัท ที่อยู่ วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียน และข้อมูลกรรมการ
- แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด
- รายการจดทะเบียนจัดตั้ง (แบบ บอจ.3)
เอกสารแสดงรายละเอียดการแต่งตั้งกรรมการ อำนาจกรรมการ และจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายในวันจดทะเบียน
- รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก.)
เอกสารที่แสดงข้อมูลส่วนตัวของกรรมการ เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน และตำแหน่งในบริษัท
- รายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5)
เอกสารแสดงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันจดทะเบียน พร้อมจำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้น
- สำเนาหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นหรือผู้ก่อการ เพื่อรับรองการจัดตั้งบริษัทและวาระอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท
เอกสารที่จัดทำขึ้นจากการประชุมผู้ก่อตั้งหรือผู้ถือหุ้น เพื่อรับรองการจัดตั้งบริษัท การแต่งตั้งกรรมการ และผู้สอบบัญชี
- สำเนาข้อบังคับ (ถ้ามี)
- สำเนาหลักฐานการรับชำระค่าหุ้นที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือหุ้น
- แบบ สสช.1
- แผนที่ตั้งสำนักงานของบริษัท
แสดงตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานของบริษัทอย่างชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณา
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เริ่มก่อการ กรรมการ และพยาน
พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
- หนังสือรับรองการใช้สถานที่ตั้งบริษัท
หากสถานที่ตั้งบริษัทไม่ใช่ของกรรมการหรือผู้ถือหุ้น จะต้องแนบหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่จากเจ้าของ พร้อมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของสถานที่
- สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
หากผู้ขอจดทะเบียนไม่ได้มายื่นเรื่องด้วยตนเอง ต้องแนบหนังสือมอบอำนาจ พร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท และแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
ในขั้นตอนนี้เอกสารอาจจะดูเยอะ แต่ถ้าจดทะเบียนในระบบ e-Registration ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ DBD Biz Regist หน้าจอจะพาเราเข้าไปกรอกข้อมูลต่างๆ และแนบเอกสารประกอบทั้งหลาย โดยไม่ต้องมานั่งทำความเข้าใจชื่อเอกสารที่ไม่คุ้นเคยเลยค่ะ
และที่สำคัญจากเอกสารที่เราต้องเตรียมการ ทุกคนน่าจะพอเข้าใจได้ว่า กว่าเราจะกรอกและเตรียมเอกสารได้สมบูรณ์นั้น เราต้องมีการหาผู้ถือหุ้น แบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน นัดประชุมผู้ถือหุ้นและเลือกกรรมการให้เรียบร้อยเสียก่อน ขั้นตอนการจดทะเบียนจึงจะเริ่มต้นได้นะคะ
หรือใครอยากทำตามเป็นขั้นตอน ก็สามารถดูวิดีโอสอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ผ่านระบบ DBD Biz Regist ได้ที่คลิปนี้เลยนะคะ
3. ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัท
เมื่อกรอกข้อมูลและแนบเอกสารประกอบต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบผ่านแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญและขาดไม่ได้ ก็คือ การชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ซึ่งจะขึ้นอยู่กับทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะคิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 500 บาทต่อทุนจดทะเบียน 100,000 บาท โดยมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 5,000 บาท นั่นแปลว่า ถ้าใครยิ่งมีทุนจดทะเบียนเยอะ ค่าธรรมเนียมก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวค่ะ
4. รับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
หลังจากดำเนินการทุกขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น หนังสือรับรองบริษัท รายชื่อผู้ถือหุ้น
นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทแล้ว อย่าลืมเผื่อเงินไว้สำหรับคัดลอกเอกสารต่างๆ เหล่านี้ไว้ด้วยนะคะ
สรุป
สรุปแล้ว การจดทะเบียนบริษัทไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือน่ากังวลอย่างที่หลายคนคิด ถ้าเราเข้าใจขั้นตอนและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประเภทนิติบุคคล การจองชื่อบริษัท การยื่นเอกสารสำคัญ ไปจนถึงการขอหลักฐานการจดทะเบียนค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท
Q : จดทะเบียนบริษัทแค่ 2 คนได้ไหม?
A : สามารถจดทะเบียนบริษัทโดยที่มีผู้ถือหุ้นแค่ 2 คนได้ค่ะ เนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกกฎหมายใหม่และมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2566 โดยจะต้องมีหุ้นบริษัทอย่างน้อย 10 บาทขึ้นไป (อย่างต่ำต้องมีหุ้นคนละ 5 บาท)
Q : จดทะเบียนบริษัทต้องใช้เงินเท่าไหร่?
A : ถ้าเป็นบริษัทนิติบุคคลขนาดเล็กที่จดทุนเริ่มต้นไม่สูง ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นซึ่งประกอบด้วยค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเริ่มต้น 5,000 บาท และค่าใช้จ่ายจำเป็นอย่างค่าตรายาง ค่าเอกสารรับรอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำเอกสารจัดประชุม จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 - 10,000 บาท ส่วนบริษัทขนาดใหญ่อาจมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 10,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว
Q : จดทะเบียนบริษัทแล้ว จะต้องเริ่มต้นทำบัญชียื่นภาษีนามบริษัทตั้งแต่เมื่อใด
A : เริ่มต้นทำบัญชีและนำส่งภาษีในนามบริษัท ตั้งแต่วันที่จดทะเบียนสำเร็จ ดูจากหนังสือรับรองการจดทะเบียนของบริษัท เพราะถือว่าบริษัทเป็นนิติบุคคลได้ถือกำเนิดขึ้น ณ วันนั้นเป็นต้นมา
Q : จดทะเบียนบริษัทได้ที่ไหน
A : เราสามารถจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองแบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ DBD Biz Regist ได้ แต่หากต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการให้ FlowAccount ก็มี บริการจดทะเบียนบริษัท ด้วยนะคะ สนใจสามารถลงทะเบียนและรับคำปรึกษาได้เลย
References
https://ereg.dbd.go.th/ERegistMemberWeb/nonmemberpages/home.xhtml
About Author

นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่