ถ้าพูดถึงอาชีพในฝันของนักบัญชีหลายคน หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นการมี "สำนักงานบัญชีเป็นของตัวเอง" แต่เดี๋ยวก่อน! จะเปิดสำนักงานบัญชีไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็เปิดได้เลยนะคะ เพราะมีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ต้อง "ขึ้นทะเบียนสำนักงานบัญชี" ให้เรียบร้อยก่อน
ถ้าวันนี้นักบัญชีคนไหนอยากทำความฝันในการเปิดสำนักงานบัญชีให้เป็นความจริง นุชแนะนำให้เริ่มต้นอ่านบทความนี้ก่อน เพราะนุชจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจขั้นตอนการจดทะเบียนสำนักงานบัญชีและข้อควรระวังในบทความนี้ค่า |
เลือกอ่านได้เลย!
Toggle1. เปิดสำนักงานบัญชีต้องขึ้นทะเบียนอะไรบ้าง
หลายคนเข้าใจว่าการเปิดสำนักงานบัญชี แค่จดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงยังไม่ได้ง่ายขนาดนั้นค่ะ เพราะสำนักงานบัญชีที่จัดตั้งในรูปแบบนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้อง ขึ้นทะเบียนนิติบุคคลกับสภาวิชาชีพบัญชี ภายใน 30 วันนับจากวันที่จัดตั้งบริษัทเสร็จสิ้นด้วยนะ
เหตุผลที่ต้องขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี
- เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547
- สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าบริษัทมีมาตรฐาน และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานวิชาชีพ
- หากไม่ขึ้นทะเบียน อาจถูกเพิกถอนสิทธิการประกอบธุรกิจบัญชี รวมถึงมีความผิดตามกฎหมาย
2. ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนสำนักงานบัญชีมีอะไรบ้าง
การขึ้นทะเบียนสำนักงานบัญชีในรูปแบบนิติบุคคลกับสภาวิชาชีพบัญชี มีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
เอกสารที่ต้องเตรียม
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อายุไม่เกิน 3 เดือน
- หลักฐานการชำระค่าจดทะเบียนบุคคล และค่าใช้จ่ายดำเนินการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน
- งบกำไรขาดทุนย้อนหลัง 1 ปี หรือถ้าเป็นบริษัทใหม่ ให้แนบงบเท่าที่มี
- หลักฐานหลักประกัน ซึ่งต้องมีมูลค่าอย่างน้อย 3% ของทุนจดทะเบียน (หากยังไม่มีรายได้) เช่น หากทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ต้องจัดหลักประกัน 30,000 บาท โดยหลักประกันสามารถเป็น
- บัญชีเงินฝากประจำ
- บัตรเงินฝาก
- พันธบัตรรัฐบาลไทย
- พันธบัตรองค์กรหรือรัฐวิสาหกิจ
- กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพบัญชีของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
- สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (กรณีมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการต่างชาติ)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นแทน)
วิธีการยื่นจดทะเบียน
- ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี ได้แก่
- คำขอจดทะเบียนนิติบุคคล (สวบช.5)
- คำขอแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน (สวบช.5.3) - แนบเอกสารทั้งหมด
- ยื่นด้วยตนเองที่ สภาวิชาชีพบัญชี หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ก็ได้
นอกจากนี้แล้ว สภาวิชาชีพบัญชีเพิ่งเปิดใช้ระบบยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลแบบออนไลน์ สามารถทำตามขั้นตอนนี้แทนการนำส่งเอกสารด้วยตัวเองหรือส่งทางไปรษณีย์ได้เลยค่ะ
- เข้าระบบ Biz Portal ผ่านเว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี เลือก “ระบบจดทะเบียนนิติบุคคล”
- ล็อกอินด้วยบัญชีที่ใช้ในการจดทะเบียนในระบบ Biz Portal
- กรอกแบบฟอร์มและอัปโหลดเอกสาร
- ติดตามสถานะจนได้รับการอนุมัติ
- ชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบ 2,400 บาท
- รอรับหนังสือรับรองจากสภาวิชาชีพบัญชี
ในรายละเอียดเกี่ยวกับการขอสมัครรับ Username และ Password และขั้นตอนอย่างละเอียดสามารถศึกษาในคู่มือเพิ่มเติมได้เลย
สำหรับขั้นตอนการขึ้นทะเบียนนี้ อย่าลืมเตรียมเงินค่าธรรมเนียมจดทะเบียนไว้ 2000 บาท และการแจ้งข้อมูลหลักประกัน 400 บาท รวมเป็น 2400 บาทด้วยนะคะ
3. การต่ออายุ และการแจ้งหลักประกันประจำปี
เมื่อจดทะเบียนนิติบุคคลเรียบร้อยแล้ว สำนักงานบัญชียังมีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องทุกปี ได้แก่
3.1 การต่ออายุทะเบียนนิติบุคคล
- ต้องต่ออายุ ทุก 1 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี ภายใน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุ
- ยื่นคำขอต่ออายุ (สวบช.5.2) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์สภาฯ https://www.tfac.or.th/upload/9414/j9wHI3j0Nb.pdf
- เอกสารประกอบ
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล มีอายุไม่เกิน 3 เดือน
- ค่าธรรมเนียมต่ออายุ 2,000 บาท
3.2 การแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันประจำปี
- ภายใน 60 วันนับจากสิ้นรอบบัญชีทุกปี
- หลักประกันเพื่อประกัน จำนวนไม่น้อยกว่า 3% ของจำนวนที่มากกว่าระหว่าง ทุน ณ วันที่ยื่นจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพ หรือรายได้ ณ วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี
- ยื่นคำขอแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับประกัน เพื่อประกันความรับผิดต่อบุคคลที่สาม (สวบช.5.3) ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์สภาฯ
- เอกสารประกอบ
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล มีอายุไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาหลักประกัน
- สำเนางบการเงินของปีก่อน (กรณีที่งบการเงินล่าสุดยังไม่ได้ตรวจสอบและแสดงความเห็น โดยผู้สอบบัญชี)
- หนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนนิติ
- ค่าธรรมเนียมการแจ้ง 400 บาท
3.3 การเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญ
หากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญ เช่น
- ชื่อบริษัท
- ทุนจดทะเบียน
- เลิกกิจการ
ต้องแจ้งต่อสภาวิชาชีพบัญชี ภายใน 15 วัน พร้อมค่าธรรมเนียม 500 บาท ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายและอาจถูกเพิกถอนทะเบียนนะคะ
4. ข้อควรระวังสำหรับสำนักงานบัญชีมือใหม่
ในทางปฏิบัติมีหลายคนพลาดเกี่ยวกับการเปิดสำนักงานบัญชีในรูปแบบบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดค่ะ เรามีข้อควรระวังสำคัญที่อยากแนะนำ ดังนี้ค่ะ
- ลืมขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี
บางบริษัทคิดว่าการจดทะเบียนจัดตั้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพียงพอแล้ว แต่หากไม่ขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี จะ ไม่สามารถให้บริการบัญชีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอาจมีโทษปรับหรือเพิกถอนสิทธิการประกอบวิชาชีพ
- หลักประกันไม่ครบถ้วน
ต้องคำนวณหลักประกันให้ถูกต้อง คือ 3% ของจำนวนที่มากกว่า ทุนจดทะเบียน หรือรายได้ ซึ่งต้องเช็กกับงบการเงินอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีหลักฐานของการวางหลักประกันด้วยนะ เช่น เงินฝากประจำ หรือกรมธรรม์ประกันภัย
- ลืมต่ออายุหรือแจ้งหลักประกันประจำปี
หากลืมต่ออายุ จะถือว่าทะเบียนหมดอายุทันที และหากลืมแจ้งหลักประกัน อาจถูกปรับหรือถูกระงับการให้บริการได้
สรุป
การเปิดสำนักงานบัญชีแบบนิติบุคคล ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารจดทะเบียนบริษัท แต่ต้องขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี จัดเตรียมหลักประกันให้ถูกต้อง ต่ออายุทุกปี และแจ้งรายละเอียดหลักประกันเป็นประจำ เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างมั่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าในระยะยาว
หากวางแผนจะเปิดสำนักงานบัญชีปีนี้ อย่าลืมตรวจสอบขั้นตอนเหล่านี้ให้ครบถ้วนก่อนลงมือจริงนะคะ
FAQ คำถามพบบ่อย
Q1: เปิดบริษัททำบัญชีต้องขึ้นทะเบียนสภาวิชาชีพบัญชีหรือไม่?
A1: ต้องขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันหลังจัดตั้งบริษัท เพื่อให้สามารถให้บริการบัญชีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
Q2: หลักประกันต้องใช้เท่าไร?
A2: ไม่น้อยกว่า 3% ของทุนจดทะเบียน (กรณียังไม่มีรายได้) เช่น ทุน 1,000,000 บาท ต้องมีหลักประกัน 30,000 บาท แต่กรณีที่มีรายได้แล้ว หลักประกันจะต้อง จำนวนไม่น้อยกว่า 3% ของจำนวนที่มากกว่าระหว่างทุนหรือรายได้
Q3: ต่ออายุทะเบียนสำนักงานบัญชีทุกกี่ปี?
A3: ต้องต่ออายุทุกปี และต่อก่อนหมดอายุ 3 เดือน
Q4: หากลืมต่ออายุจะเกิดอะไรขึ้น?
A4: จะไม่สามารถให้บริการบัญชีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอาจถูกเพิกถอนทะเบียน
About Author

นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่