เตรียมตัวให้พร้อม กับโครงการ “คนละครึ่งพลัส” หรือ “คนละครึ่ง 2568” ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปี 2568 หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้า ร้านอาหาร ที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้า แล้วกำลังสงสัยว่าลงทะเบียนร้านค้าด้วยแอปถุงเงินอย่างไร ให้ร้านรับคนละครึ่งได้ บทความนี้มีสอนวิธีลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสให้คุณ |
บทความนี้ FlowAccount จะขอมาสรุปขั้นตอนการลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 หรือ คนละครึ่งพลัส สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร ที่อยากทำให้ร้านตัวเองรับคนละครึ่งได้ อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย พร้อมเงื่อนไขที่ควรรู้ เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกต้องและไม่พลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป
เลือกอ่านได้เลย!
Toggleคนละครึ่ง 2568 คืออะไร ?
“คนละครึ่งพลัส” หรือ “คนละครึ่ง 2568” คือ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนายอนุทิน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าขนาดเล็ก และฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยรัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าสินค้าและบริการครึ่งหนึ่งหรือ 50% ของยอดซื้อ ไม่เกิน 200 บาท ต่อคน ต่อวัน ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
“คนละครึ่ง 2568” มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์มากขึ้น จากโครงการ “คนละครึ่ง” เมื่อปี 2565 ดังต่อไปนี้
- เพิ่มช่วงอายุของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ จากเดิมอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็น อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป
- เพิ่มวงเงินการใช้งาน จากเดิม 150 บาท/คน/วัน เป็น 200 บาท/คน/วัน
- เพิ่มสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี เป็น 2,400 บาท/คน ตลอดโครงการ (ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 2,000 บาท/คน)
- เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดเล็ก (SMEs) เข้าร่วมโครงการได้
สมัครโครงการคนละครึ่ง 2568 อย่างไร ร้านค้าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
ร้านค้าหรือร้านอาหาร ที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 จะต้องเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้
- ใบสมัครเข้าร่วมโครงการ (สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com)
ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ยื่นแบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับกระทรวงมหาดไทย
ร้านค้านิติบุคคลรายย่อยหรือธุรกิจเฉพาะ ยื่นแบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับธนาคารกรุงไทย - บัตรประจําตัวประชาชน
- รูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
จากนั้น นำเอกสารหลักฐานดังกล่าว ไปติดต่อที่ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือสาขาธนาคารกรุงไทย เพื่อขออนุมัติเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 – 19 ธันวาคม 2568
ร้านค้าประเภทไหนบ้าง ที่สามารถลงทะเบียนคนละครึ่งได้ ?
ร้านค้าใหม่ที่จะลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ได้ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
1.ต้องเป็นร้านค้าถุงเงินที่ได้รับการยืนยันประกอบกิจการจริงจากเจ้าหน้าที่รัฐของกระทรวงมหาดไทย
- ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย
- สามารถสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินได้ที่เว็บไซต์ www.ถุงเงินกรุงไทย.com
2. นำแบบฟอร์มใบสมัคร มายื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ ที่จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ในโครงการคนละครึ่ง 2565
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ร้านค้าเคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 (ปี 2565) แล้ว หากร้านค้าผ่านเกณฑ์จะสามารถรับสิทธิเข้าร่วมโครงการได้เลย
ร้านค้าบุคคลธรรมดา
ร้านค้าบุคคลธรรมดา ที่ผู้ประกอบการร้านค้าฯ มีสัญชาติไทย ไม่ได้เป็นนิติบุคคล และประกอบธุรกิจ ดังต่อไปนี้
1.ร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือ ร้านค้าธงฟ้าฯ
- ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
2. ร้านค้าที่ให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม
- ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซีมิเตอร์, รถตู้โดยสาร, รถสามล้อสาธารณะ, รถสองแถวร้บจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น
- ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ร้านค้านิติบุคคล หรือธุรกิจเฉพาะ
นิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ประกอบไปด้วย
1. นิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลและงบการเงิน (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567
- ประกอบธุรกิจขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
2. ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่
- รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ
3. ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ และร้านค้าของวิสาหกิจชุมชน ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
สินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
ร้านค้าประเภทไหนบ้าง ที่ไม่ต้องลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568
ร้านค้าที่ไม่ต้องลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ได้แก่
- ร้านค้าถุงเงินที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ผ่านเกณฑ์ ตามเงื่อนไขโครงการ
- ร้านค้าธงฟ้าฯ ของบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ
- ร้านค้าโครงการกรุงเทพแผงลอย ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ
ซึ่งสิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่
- อัปเดตแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- กดยอมรับเงื่อนไขโครงการ ที่รูปโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ ในแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
วิธีการลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 สำหรับร้านค้าใหม่ ทำอย่างไร ?
สำหรับร้านค้าที่ไม่เคยลงทะเบียนคนละครึ่งมาก่อน สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 – 19 ธันวาคม 2668
วิธีลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ง่าย ๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอน ต่อไปนี้
- มีบัญชีธนาคารกรุงไทย (ประเภทออมทรัพย์/กระแสรายวัน)
- สมัครเป็นร้านค้าถุงเงินผ่าน www.ถุงเงินกรุงไทย.com และดาวน์โหลด/อัปเดตแอปฯ ถุงเงินเป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ตรวจสอบประเภทกิจการ ดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงาน
(ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ยื่นแบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับกระทรวงมหาดไทย / ร้านค้านิติบุคคลรายย่อยหรือธุรกิจเฉพาะ ยื่นแบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับธนาคารกรุงไทย) - นำแบบฟอร์มการสมัคร พร้อมบัตรประจําตัวประชาชนและรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ มายื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
- ร้านค้าที่จะได้รับผลการพิจารณาผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชั่นถุงเงิน
- เมื่อผ่านเข้าร่วมโครงการ แบนเนอร์คนละครึ่งพลัส จะปรากฏบนแอปฯ ถุงเงิน
- กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการ
- รับชำระค่าสินค้าและบริการจากประชาชน
- ตรวจสอบประวัติการรับเงิน บนแอปฯ ถุงเงิน
ร้านค้าที่เข้าร่วมคนละครึ่ง 2568 ต้องเสียภาษีไหม ?
ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 มีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ประกอบการยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้เช่นเดิม
- สำหรับบุคคลธรรมดา รายได้จากการขายสินค้าและบริการถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (8) และต้องยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90)
ซึ่งใครที่ยังไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ของการส่งภาษีสำหรับร้านอาหาร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ : ภาษีร้านอาหาร
- สำหรับนิติบุคคล ต้องยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50)
อย่างไรก็ตาม หากร้านค้ามีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และยื่นแบบแสดงรายการภาษี (ภ.พ.30) ทุกเดือน
จัดการบัญชี รายรับ-รายจ่าย ได้อย่างเป็นระบบด้วยโปรแกรมบัญชี FlowAccount
การเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง 2568” เป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มยอดขาย แต่การบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากไม่มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ อาจทำให้เกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดเมื่อต้องยื่นภาษีประจำปีได้
FlowAccount เป็นโปรแกรมบัญชีที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและร้านค้าทั่วไป เพื่อช่วยให้ร้านค้าของคุณสามารถจัดการเรื่องบัญชีได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การบันทึกรายรับ-รายจ่าย ไปจนถึงการออกเอกสารสำคัญทางบัญชี เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี ทำให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของร้านได้แบบเรียลไทม์ และเตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการยื่นภาษีได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาไปโฟกัสกับการขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 สำหรับร้านค้า
เปิดร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Food Delivery เข้าร่วมโครงการด้วยได้ไหม?
ตอบ: สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ โดยร้านค้าที่ขายผ่านช่องทาง Food Delivery สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้เหมือนร้านค้าทั่วไป โดยหลังจากที่ร้านค้าได้รับการอนุมัติแล้ว จะสามารถเลือกผูกกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้บนแอปฯ ถุงเงิน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งร้านค้าจะสามารถเลือกผูกกับแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้เพียงรายเดียวเท่านั้น
โครงการคนละครึ่งพลัส เริ่มใช้งานได้วันที่เท่าไร?
ตอบ: ร้านค้าทั่วไป จะเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน จนไปถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2568 และ
ร้านค้าที่ขายผ่าน Food Delivery จะเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ระหว่างเวลา 06.00 – 21.00 น. ของทุกวัน จนไปถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2568
ร้านค้าจะรู้ผลการลงทะเบียนได้ภายในกี่วัน?
ตอบ: ร้านค้าจะสามารถรู้ผลการพิจารณาได้ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568
ร้านค้าจะได้เงินจากโครงการคนละครึ่งอย่างไร?
ตอบ: ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง จะได้เงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ร้านค้าได้ผูกไว้กับระบบ โดยจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 : เงินส่วนของประชาชน ที่ชำระผ่าน G Wallet ตั้งแต่เวลา 02:00 น. เป็นต้นไป
ส่วนที่ 2 : เงินสมทบจากภาครัฐ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
แต่ สำหรับร้านค้าที่ขายผ่าน Food Delivery จะได้รับเงินใน 3 วันถัดไปนับจากวันทำรายการ
About Author

A graduate student with degrees in Accounting and Financial Management, complemented by professional experience as an external auditor at a Big4 firm and as a Business Analyst in the financial sector.