บทความนี้แนะนำนักบัญชีให้วางแผนปิดงบการเงินล่วงหน้าเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ โดยเน้นการทำความเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง การวางตารางเวลาที่ชัดเจน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้เกี่ยวข้อง และการระมัดระวังในขั้นตอนสำคัญต่างๆ เช่น การกระทบยอดบัญชีและการแยกประเด็นทางบัญชีกับภาษี |
เมื่อพูดถึงการ ปิดงบการเงิน ไม่ว่านักบัญชีคนไหนก็ต้องเคยผ่านบรรยากาศเร่งรีบและความกดดันใช่ไหมคะ ยิ่งเมื่อใกล้ถึง “เดดไลน์” เข้าไปทุกที เราอาจพบเจอเอกสารตกหล่น การตามล่าตัวเลขไม่ครบถ้วน แถมยังต้องประสานงานข้ามหลายแผนก น่าปวดหัวเป็นที่สุด แต่ข่าวดี ก็คือ เราก็ยังพอมีเวลาวางแผนการปิดงบการเงินไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เราสามารถจัดการปิดงบให้ “ไวขึ้น” และ “เป๊ะขึ้น” ซึ่งวันนี้นุชอยากจะแชร์วิธีการดีๆ ให้เพื่อนๆ ในบทความนี้ค่ะ
เลือกอ่านได้เลย!
Toggle1. ทำความเข้าใจธุรกิจก่อน ช่วยให้ปิดงบได้ไวกว่า
การที่เราจะวางแผนปิดงบการเงินได้ไวขึ้น เคล็ดลับสำคัญที่นักบัญชีอาจมองข้าม ก็คือ “การทำความเข้าใจธุรกิจ” ให้ลึกซึ้ง เพราะแต่ละธุรกิจมีการสร้างรายได้ ต้นทุน และรายการทางบัญชีที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: ต้องจัดการสต๊อกวัตถุดิบให้ดี วางระบบตัดสต๊อกประจำวัน และตรวจสอบวัตถุดิบอย่างละเอียด เพราะวัตถุดิบอาจหมดอายุเร็ว การปรับปรุงบัญชีสินค้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกับกำไรขาดทุนของธุรกิจได้
- ธุรกิจบริการ: ต้องระวังเรื่องรายได้รับล่วงหน้า หรือรายได้ค้างรับที่ต้องเช็กกับสัญญา และยังเจอภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากลูกค้าบ่อย ๆ ถ้านักบัญชีไม่เตรียมตัวหรือไม่มีข้อมูลครบถ้วนก็อาจใช้สิทธิทางภาษีไม่ได้
เมื่อเราเห็น “ภาพรวม” ของธุรกิจ ก็จะประเมินความเสี่ยงหรือประมาณการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการปรับปรุงปิดบัญชี หรือมีส่วนไหนที่ต้องเร่งเช็กก่อนเพราะผิดอยู่เป็นประจำ ส่งผลทำให้ปิดงบล่าช้า ดังนั้น เมื่อเข้าใจภาพรวมธุรกิจแล้ว อย่าลืมมุ่งเป้าไปโฟกัสในรายละเอียดทางบัญชีที่เกี่ยวข้องไว้แต่เนิ่น ๆ
ตัวอย่างเอกสารที่ควรมีไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้กระบวนการปิดงบลื่นไหลที่สุด ได้แก่
- ใบอนุญาตต่าง ๆ ควรมีติดตัวไว้ทุกครั้ง
- สัญญาสำคัญ/สัญญาซื้อขาย เป็นประโยชน์มากสำหรับการรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี
- ประวัติการจ่ายภาษีต่าง ๆ
- ข้อมูลการจ่ายเงินเดือน สำหรับคำนวณประมาณการหนี้สินผลประโยชน์พนักงาน ในกรณีที่บริษัทมีพนักงานจำนวนมาก
2. วางตารางการปิดงบการเงิน
การ “วางตาราง” คือ หัวใจสำคัญที่ทำให้ปิดงบการเงินได้ไวขึ้น เพราะเมื่อกำหนดขอบเขตเวลา (Timeline) ในทุกขั้นตอนแล้ว จึงช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรู้ว่าต้องทำอะไรภายในวันไหนบ้าง และนักบัญชีก็จะได้กระจายภาระงานไปยังผู้รับผิดชอบได้ง่ายขึ้น โดยทำตามขั้นตอนนี้ค่ะ
2.1 รู้ Deadline ที่ต้องส่งงบการเงิน
การยื่นงบการเงินขึ้นอยู่กับรูปแบบของนิติบุคคล เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ซึ่งแต่ละรูปแบบมีเดดไลน์หรือความต้องการทางกฎหมายแตกต่างกัน สมมุติว่ารอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม วันสำคัญที่ต้องรู้ มีดังนี้
เจาะลึกข้อมูลในตาราง
- บริษัทจำกัด จะต้องจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือน (30 เม.ย.) นับตั้งแต่วันสิ้นรอบบัญชี เพื่ออนุมัติงบการเงิน
- หลังจากนั้น ต้องส่งรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ. 5) ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 14 พ.ค.
- ทั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัดต้อง “ยื่นงบการเงิน” ภายใน 31 พ.ค. ซึ่งเป็นการส่ง e-Filing ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- การยื่นภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 50) ต้องทำภายใน 150 วัน หรือ 30 พ.ค. ของปีถัดไป
พอทราบ Deadline การนำส่งงบแล้ว ให้ระลึกไว้ในใจว่าถ้าส่งงบล่าช้ากว่าวันที่ในตารางนี้เมื่อใด จะมีค่าปรับตามมา แถมเจ้าของกิจการก็ไม่น่าพอใจเป็นแน่ค่ะ
2.2 วางแผนการทำงาน
เมื่อตารางหลักถูกล็อกด้วยกฎหมาย เราจึงสามารถเอา “Deadline” ที่รู้แน่นอนแล้วมาวางแผนตารางงานล่วงหน้าของเราได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างเช่น
- ช่วง กุมภาพันธ์ :นักบัญชีควรปิดบัญชีเสร็จในช่วงนี้
- ถัดจากนั้นให้วางแผนย่อยในแต่ละเดือน/แต่ละสัปดาห์ ในเดือนกุมภาพันธ์ เช่น
- สัปดาห์ที่ 1: รวบรวมเอกสาร บันทึกบัญชีให้ครบถ้วน
- สัปดาห์ที่ 2: ปรับปรุงรายการ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ประมาณการต่าง ๆ
- สัปดาห์ที่ 3: กระทบยอดบัญชี เช่น ธนาคาร สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้ เจ้าหนี้
- สัปดาห์ที่ 4: สรุปและตรวจทานงบการเงิน เตรียมส่งผู้สอบบัญชี
- ช่วง มีนาคม: ผู้สอบบัญชีใช้เวลาตรวจสอบงบและเซ็นรับรอง ส่วนนักบัญชีก็ต้องคอยตอบคำถามและส่งข้อมูลให้ตามผู้สอบร้องขอ
- กลางเดือนเมษายน: ต้องมีงบเรียบร้อยเพื่อเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นสำหรับบริษัทจำกัด
การแยกย่อยรายละเอียดออกมาเป็นตารางให้ละเอียดแบบนี้ จะทำให้เห็นภาพรวมว่าเมื่อถึงเดือนมีนาคม เราจะอยู่ในสถานะไหนของกระบวนการปิดงบ และจะได้วางแผนล่วงหน้าเผื่อเหตุฉุกเฉิน เช่น ขาดเอกสารบางส่วนต้องติดตามเพิ่มเติมจากผู้เกี่ยวข้องได้
3. สื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “การสื่อสาร” เพราะเราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ เราต้องติดต่อสื่อสารกับเจ้าของกิจการ แผนกอื่น ๆ และผู้สอบบัญชี เพื่ออัปเดตความคืบหน้า ขอข้อมูลที่จำเป็น และอธิบายสิ่งที่ต้องทำ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการแจ้ง Deadline ชัด ๆ ว่า “ถ้าเลยวัน XX นี้ไป ข้อมูลจะไม่ทันสำหรับการปิดงบนะ” เป็นต้น
ผู้ที่ต้องสื่อสารหลัก ๆ ประกอบด้วย
3.1 ผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจ
- ขอข้อมูลที่จำเป็น เช่น สัญญาโครงการใหม่ แหล่งที่มาของรายได้และต้นทุน หรือแผนการขยายธุรกิจ
- แจ้งความคืบหน้าว่า ปิดงบไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ เหลือจุดไหนที่รออนุมัติหรือเซ็นเอกสาร
3.2 ทีมงานแผนกอื่น
- ยกตัวอย่างเช่น แผนกคลังสินค้า เพื่ออัปเดตยอดสินค้าคงเหลือ แผนกขาย/การตลาด เพื่อยืนยันยอดขาย หรือส่วนลดส่งเสริมการขาย เป็นต้น
- กำหนดวันตายตัวว่า ต้องส่งรายงาน/เอกสารภายในวันไหน เพื่อให้การปิดบัญชีไม่สะดุด
3.3 ผู้สอบบัญชี
- คุยตารางการสอบบัญชี ว่าจะขอเอกสารอะไรบ้าง และเข้ามาตรวจสอบเมื่อไร
- แจ้งประเด็นพิเศษหรือถามคำปรึกษาตามมาตรฐานบัญชี หากมีกิจการลงทุนใหม่หรือต้องตั้งประมาณการพิเศษ
- ยิ่งเราปิดงบได้เร็วและครบถ้วน ผู้สอบบัญชีก็ทำงานได้ราบรื่นขึ้น และจะเซ็นรับรองงบได้ตามกำหนด
4. ข้อควรระวัง
การวางแผนปิดงบให้ไวก็ต้องแลกมากับการจัดการอย่างมีระบบ และการใส่ใจรายละเอียดพอสมควร ดังนั้น สิ่งที่ควรระวังในการปิดงบมีดังนี้
4.1 อย่าข้าม “ขั้นตอนการปิดบัญชี”
การปิดบัญชีควรทำตามขั้นตอน ถ้าใครใช้ FlowAccount สามารถดูขั้นตอนการปิดบัญชีที่นี่ได้เลย อย่าเร่งรีบจนเกินไป จนข้ามขั้นตอนการตรวจสอบกระทบยอดบัญชีสำคัญ มิเช่นนั้นพอไปถึงมือผู้สอบบัญชีอาจโดนตีกลับ ต้องแก้ย้อนไปมา ทำให้เสียเวลาและอาจหลุด Deadline ได้ค่ะ
4.2 แยกให้ชัดระหว่างปิดงบการเงินทางบัญชีกับภาษี
- การปิดงบตามมาตรฐานบัญชี เน้นความถูกต้องของรายการทางบัญชี สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของธุรกิจ
- การจัดการภาษี เน้นตามกฎหมายภาษี เช่น มีการปรับปรุงเพิ่ม–ลดตามข้อกำหนดต่าง ๆ ของสรรพากร ดังนั้น ต้องมีการทำ “Worksheet ภาษี” แยกต่างหากออกจากกัน
4.3 ระวังเหตุไม่คาดฝันจากสถานการณ์ธุรกิจ
ยิ่งธุรกิจใหญ่หรือมีความซับซ้อนมากเท่าไร โอกาสเกิดปัญหาอย่างเช่น สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน หรือเหตุการณ์พิเศษ (เช่น โรคระบาด COVID-19) ยิ่งมีผลต่อการปิดงบการเงิน บางครั้งอาจต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ หรือด้อยค่าทรัพย์สิน การเตรียมตัวและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เราจัดทำงบการเงินได้ถูกต้องและทันเวลามากยิ่งขึ้นค่ะ
สรุป
เห็นไหมคะว่า การ “ปิดงบการเงินให้ไวขึ้น” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวค่ะ สำหรับใครที่อยากรู้ว่า วางแผนปิดงบการเงินได้ไวขึ้น ต้องทำยังไงบ้าง ขอแค่เราวางแผนล่วงหน้าให้ดี เข้าใจธุรกิจให้ชัด วางตารางการทำงาน สื่อสารกับทีมที่เกี่ยวข้องให้รู้หน้าที่ตัวเอง และคอยระวังจุดเสี่ยงสำคัญ เพียงเท่านี้ก็น่าจะทำให้นักบัญชีทุกท่านทำงานปิดงบการเงินได้ “ง่ายขึ้น” กว่าที่เคยเลยล่ะค่า
About Author

นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล
ร่วมสมัครเป็นนักเขียนกับ FlowAccount ได้ที่นี่