สวัสดีครับ หลังจากบทความครั้งก่อนมีการพูดถึงประเภทหัก ณ ที่จ่ายที่พบบ่อยไปแล้ว ในบทความผมจึงอยากมาแนะนำเอกสารสำคัญที่ต้องออกทุกครั้งที่มีการหัก ณ ที่จ่ายกันครับ เอกสารนั้นเรียกว่า “ หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย ”
หนังสือรับรองภาษี หัก ณ ที่จ่าย คืออะไร คือเอกสารที่ผู้จ่ายเงินที่มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่าย ออกให้ผู้รับเงินเมื่อได้ทำการหักเงินบางส่วนไว้ตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร โดยหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายนี้ต้องออกให้แก่ผู้รับเงิน 2 ฉบับที่มีข้อความตรงกัน
โดยต้องมีข้อความด้านบนของหนังสือรับรองแต่ละฉบับดังนี้
- ฉบับที่ 1 มีข้อความว่า “สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายใช้แนบพร้อมกับแสดงรายการ”
- ฉบับที่ 2 มีข้อความว่า “สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน”
ให้เราอ่านให้ฟัง
ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย เมื่อไหร่
- กรณีเงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า บำเหน็จ (เงินได้มาตราที่ 40(1) (2)) ให้ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของปีถัดจากปีที่มีการหัก ณ ที่จ่าย หรือภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันที่ผู้ถูกหัก ณ ที่จ่ายออกจากงานในระหว่างปีภาษี
- กรณีจ่ายเงินได้อื่น ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าบริการ ค่าขนส่ง ค่าโฆษณา เป็นต้น (เงินได้ตามมาตรา 40(3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8)) ให้ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายทันทีทุกครั้งที่มีการหัก ณ ที่จ่าย
ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย อย่างไร
- จัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ในกรณีที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่นต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับ ส่วนตัวเลขที่ใช้สามารถใช้ได้ทั้งเลขไทยและเลขอารบิค
- ต้องจัดทำสำเนาคู่ฉบับ ซึ่่งเป็นฉบับที่ 3 นอกเหนือจากฉบับที่ 1 และ 2 ที่ออกให้ผู้ถูกหัก ณ ที่จ่ายไป เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่ได้ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายให้ไปแล้วแต่ชำรุดหรือสูญหาย ให้ผู้ที่ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายออกใบแทนหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายได้ โดยถ่ายสำเนาฉบับที่ 3 และใส่ข้อความว่า “ใบแทน” ไว้ด้านบนของเอกสาร และมีการลงลายมือชื่อของผู้ออกใบแทนไว้เป็นหลักฐานด้วย
- ระบุประเภทของเงินได้พึงประเมินที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายในหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย
- ในกรณีที่ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายจากเงินได้พึงประเมินประเภทเงินเดือน แล้วมีการหักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกาองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน สามารถระบุจำนวนเงินที่หักเข้ากองทุนดังกล่าวในแต่ละปีในหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายได้
- การลงชื่อของผู้มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่ายในหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย สามารถทำได้ทั้งประทับตรายางและลงลายมือชื่อจริง หรือพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ที่มีการเก็บลายมือชื่อไว้แล้วก็ได้
สำหรับการกรอกข้อมูลในหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย ต้องกรอกให้อ่านเข้าใจง่ายซึ่งสามารถทำได้ทั้งการเขียนและการพิมพ์ และผู้จ่ายเงินต้องทำเครื่องหมาย ✔ ลงในช่อง ロว่าเป็น (1) หัก ณ ที่จ่าย (2)ออกให้ตลอดไป (3)ออกให้ครั้งเดียว (4) อื่น ๆ (ระบุ)………………………………..
ในส่วนของการลงลายมือชื่อผู้จ่ายเงิน ต้องระบุข้อความดังนี้
- ลงลายมือชื่อผู้จ่ายเงินหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
- ระบุวัน เดือน ปี ที่ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย
- ประทับตรานิติบุคคล (ถ้ามี)
ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย ด้วยโปรแกรมบัญชี FlowAccount
ปัจจุบัน เรามีวิธีที่ง่ายกว่าการกรอกข้อมูลแบบระบบ Manual แล้ว แถมยังเป็นการช่วยบันทึกข้อมูลไว้บนระบบโปรแกรมบัญชีในรูปแบบของข้อมูลบน Cloud ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร โดยสามารถทำได้เพียงแค่ใช้เมนูหัก ณ ที่จ่ายในโปรแกรม FlowAccount ใช้งานฟรีได้เลยที่นี่
เมื่อสมัครแล้ว ทดลองทำตามตัวอย่างนี้
สมมติว่าผมมีการตกลงทำสัญญาโฆษณากับบริษัทแห่งหนึ่งด้วยราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 53,500 บาท สามารถออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายได้โดย

- กรอกรายละเอียดชื่อ ที่อยู่บริษัท ที่ผมต้องจ่ายค่าโฆษณาให้ ซึ่งต้องกรอกให้ถูกต้องตามที่บริษัทนั้นจดทะเบียนไว้ครับ
- ระบุวันที่ที่ทำการหัก ณ ที่จ่าย
- เลือกแบบที่ใช้ ในกรณีนี้ผมจ่ายค่าโฆษณาให้บริษัท เลือกแบบ ภ.ง.ด.53 ครับ ถ้าเป็นการหักบุคคลธรรมดาเลือก ภ.ง.ด.3 ครับ
- ระบุประเภทเงินได้ที่ต้องการหัก ณ ที่จ่าย ในกรณีนี้ผมระบุเป็นค่าโฆษณาครับ
- ระบุจำนวนเงินตามสัญญาโฆษณา ความจริงแล้วการคำนวณยอดหัก ณ ที่จ่ายต้องคำนวณจากยอดก่อนภาษีมูลค่าเพิ่มนะครับ แต่ถ้าใช้ FlowAccount กรอกยอดที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มได้เลยครับ แล้วคลิกเลือก “รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม” เดี๋ยวระบบจะคำนวณถอดภาษีมูลค่าเพิ่มให้เราเองครับ
- เลือกอัตราภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย ในกรณีนี้ผมหักค่าโฆษณา 2% ครับ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของเปอร์เซ็นต์ของแต่ละประเภทค่าบริการได้จากบทความ ประเภทหัก ณ ที่จ่าย ที่พบบ่อย ครับ
- สั่งพิมพ์ 2 ฉบับให้ผู้ถูกหัก ณ ที่จ่ายครับ ระบบจะบันทึกให้อัตโนมัติ

เพียงเท่านี้ก็จะได้ หนังสือรับรองภาษี หัก ณ ที่จ่าย ให้ผู้รับเงินจากเราและมีสำเนาฉบับที่ 3 ไว้ในระบบของเราด้วยครับ
ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย ด้วยแอปมือถือ FlowAccount
สำหรับใครที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ และชอบใช้มือถือทำงาน คุณก็สามารถใช้แอปพลิเคชั่น New FlowAccount ออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายได้ด้วยเช่นกันครับ ทำง่ายๆ แค่เพียง 3 สเต็ปเท่านั้น
1. เข้าเมนูหัก ณ ที่จ่าย คลิกสร้างใหม่
2. เลือกประเภทหัก ณ ที่จ่าย
3. กรอกตัวเลขและบุคคลที่จะออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายให้ ก็จะได้หนังสือรับรอง หัก ณ ที่จ่าย แล้วละครับ 📧
ใครที่ใช้มือถือทำงานเป็นหลักก็อย่าลืมดาวน์โหลดแอปกันไปใช้นะครับ ทั้งทาง iOS และ Andriod
App Store: https://apple.co/2PoDikS
Play Store: http://bit.ly/354gFcf
แค่นี้ก็ทำให้คุณมีตัวช่วยทำงานเอกสารได้สะดวกขึ้นทุกที่แล้วครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย
1. ใบ 50 ทวิ ที่ได้จาก “เงินเดือน” กับใบ 50 ทวิ ที่ได้จาก “งานฟรีแลนซ์” เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?
ตอบ: แม้จะเรียกว่า “ใบ 50 ทวิ” เหมือนกัน แต่ที่มาและรูปแบบการออกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- ใบ 50 ทวิ จากเงินเดือน: เป็น “เอกสารสรุปยอดทั้งปี” นายจ้างจะออกให้พนักงานเพียงปีละ 1 ครั้ง ภายในวันที่ 15 ก.พ. ของปีถัดไป เพื่อสรุปรายได้และภาษีที่หักไว้ตลอดทั้งปีจากการยื่น ภ.ง.ด.1
- ใบ 50 ทวิ จากงานฟรีแลนซ์/ค่าบริการ: เป็น “เอกสารที่ออกเป็นครั้งๆ” ผู้ว่าจ้าง (ผู้จ่ายเงิน) มีหน้าที่ต้องออกให้ผู้รับเงิน “ทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี” ณ วันที่จ่ายเงิน เพื่อเป็นหลักฐานของการหักภาษีจากการยื่น ภ.ง.ด.3 หรือ ภ.ง.ด.53
2. ในฐานะผู้จ่ายเงิน (นายจ้าง) หากออกใบ 50 ทวิ ให้ผิดพลาด หรือไม่ได้ออกให้ จะมีผลอย่างไร?
ตอบ: ความรับผิดชอบตามกฎหมายจะตกอยู่กับ “ผู้จ่ายเงิน” ทั้งหมด
- หากข้อมูลผิด: เช่น สะกดชื่อผิด, คำนวณภาษีผิด ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้อง “ยกเลิกฉบับเดิมและออกฉบับใหม่ที่ถูกต้อง” ให้แก่ผู้รับเงินโดยเร็วที่สุด
- หากไม่ยอมออกให้: ผู้จ่ายเงินมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และที่สำคัญคือ หากผู้รับเงินไม่สามารถใช้สิทธิ์เครดิตภาษีได้เพราะไม่มีเอกสาร ผู้จ่ายเงินอาจต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
3. ในฐานะผู้รับเงิน (ฟรีแลนซ์) หากลูกค้าไม่ยอมออกใบ 50 ทวิ ให้ ควรทำอย่างไร?
ตอบ: นี่คือปัญหาที่พบบ่อย และคุณมีสิทธิ์ตามกฎหมาย ขั้นตอนที่ควรทำคือ
- ติดต่อผู้จ่ายเงิน: แจ้งเตือนและร้องขอเอกสารอีกครั้งอย่างเป็นทางการ โดยอ้างอิงถึงหน้าที่ตามกฎหมายของผู้จ่ายเงิน
- รวบรวมหลักฐาน: หากยังไม่ได้รับ ให้รวบรวมหลักฐานการรับเงินทั้งหมดที่คุณมี เช่น ใบแจ้งหนี้, สลิปการโอนเงิน, สัญญาจ้าง
- ปรึกษากรมสรรพากร: คุณสามารถนำหลักฐานเหล่านี้ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในพื้นที่ของคุณเพื่อขอคำแนะนำได้ เจ้าหน้าที่จะช่วยชี้แจงและอาจติดต่อผู้จ่ายเงินเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
4. การออกใบ 50 ทวิ เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53 อย่างไร?
ตอบ: ทั้งสองอย่างเป็นกระบวนการที่ต้องทำควบคู่กันและสัมพันธ์กัน 100% เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน
- การยื่น ภ.ง.ด.3 / ภ.ง.ด.53: คือการที่ผู้จ่ายเงิน “นำส่งเงินภาษี” ที่หักไว้ให้กับ “กรมสรรพากร”
- การออกใบ 50 ทวิ: คือการที่ผู้จ่ายเงินออก “หลักฐาน” ให้กับ “ผู้รับเงิน” เพื่อยืนยันว่าได้นำส่งภาษีจำนวนนั้นให้สรรพากรแล้วดังนั้น ข้อมูลในใบ 50 ทวิและข้อมูลที่กรอกในแบบ ภ.ง.ด.3/53 สำหรับธุรกรรมเดียวกัน จะต้องตรงกันทุกประการ
5. หากทำใบ 50 ทวิ หาย สามารถใช้สำเนาหรือไฟล์ดิจิทัลแทนได้หรือไม่?
ตอบ: สามารถทำได้ หากคุณทำเอกสารตัวจริงหาย คุณสามารถติดต่อผู้จ่ายเงินเพื่อขอ “สำเนา” ใบ 50 ทวิ ซึ่งสามารถใช้ยื่นภาษีได้เช่นเดียวกับตัวจริง ในปัจจุบัน หลายบริษัทเปลี่ยนมาออกใบ 50 ทวิในรูปแบบ “ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์” (e-Withholding Tax Certificate) ซึ่งกรมสรรพากรยอมรับอย่างเป็นทางการและสามารถใช้อ้างอิงในการยื่นภาษีออนไลน์ได้ทันที สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่รูปแบบของเอกสาร แต่คือความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนเอกสารนั้น
ข้อมูล: