มาไล่ทีละจุดเรื่องหัก ณ ที่จ่าย 3เตรส/48ทวิ/65จัตวา/69ทวิ/ออกให้ตลอดไป

หัก ณ ที่จ่าย

ทำความเข้าใจต่อว่าเราจ่ายเงินได้ประเภทอะไรบ้าง มาตรา 3 เตรส หัก ณ ที่จ่าย 48 ทวิ 65 จัตวา 69 ทวิ หรือออกให้ตลอดไป คืออะไร ไม่ว่าจะเป็นนักบัญชีมือใหม่ หรือเจ้าของธุรกิจก็สามารถยื่นแบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้องแล้วค่ะ

สำหรับคนที่ยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย คงจะเคยสงสัยใช่ไหมคะว่า ในหน้าแบบแสดงรายการภาษี มีส่วนนึงที่เราต้องติ้กว่า เรายื่นภาษีตามมาตราอะไร พอมาถึงจุดนี้ทั้งผู้ประกอบการและนักบัญชีเองก็มีสตั๊นกันบ้างแหละ เพราะไม่มั่นใจเหมือนกันว่าควรติ๊กเลือกอันไหนกันแน่

 

ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจในแต่ละจุด ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่กำลังหัดยื่นแบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายค่ะ

 

แบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่พบบ่อย

 

เริ่มต้นทำความเข้าใจกันก่อนค่ะ แบบภาษีนั้นมีหลายแบบด้วยกันตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในที่นี้ เรากำลังพูดถึงเรื่องภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ก็คือ ภาษีที่ผู้จ่ายต้องหักไว้จากการจ่ายเงิน ด้วยอัตราตามที่กฎหมายกำหนด

 

และแบบภาษีที่เรามักจะเจอบ่อยๆ ก็คือ ภ.ง.ด. 3 และ ภ.ง.ด.53 

  • ภ.ง.ด.3 คือ แบบภาษีสำหรับนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ผู้จ่ายหักไว้ สำหรับผู้รับเงินที่เป็นบุคคลธรรมดา เช่น นาย ก. รับบริการเขียนแบบให้
  • ภ.ง.ด.53 คือ แบบภาษีสำหรับนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ผู้จ่ายหักไว้ สำหรับผู้รับเงินที่เป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท ข. รับเหมาก่อสร้างอาคาร 

 

แบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย

 

ดังนั้น ในเบื้องต้นเพื่อนๆ ทุกคนต้องเลือกประเภทแบบภาษีให้ถูกต้องก่อน ซึ่งถ้าเราเข้าใจว่าจ่ายเงินให้กับใคร บุคคลหรือนิติบุคคล ตอนเลือกประเภทแบบ ภ.ง.ด.3 และ 53 ก็ไม่น่าพลาดค่ะ

 

มาตรา 3 เตรส / 48 ทวิ / 50 (3)(4)(5) ใน ภ.ง.ด. 3 คืออะไร

 

ถัดมา สำหรับคนที่กำลังกรอกแบบ ภ.ง.ด.3 สำหรับการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายของบุคคลธรรมดา จะมีช่องให้ติ๊ก 3 ช่อง ได้แก่ มาตรา 3 เตรส / 48 ทวิ / 50 (3)(4)(5) แต่ละช่องมีความหมายว่าอะไร ลองมาดูกันเลย

 

แบบ ภงด 3 ที่มี 3 ช่องติ๊ก

 

1. มาตรา 3 เตรส คือ การหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5)-(8)

 

แหม่ อธิบายก็เหมือนไม่ได้อธิบาย แล้วเจ้าเงินได้ตามมาตรา 40(5)-(8) มันคืออะไรกัน 

  • เงินได้ มาตรา 40(5) คือ เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินต่างๆ
  • เงินได้ มาตรา 40(6) คือ เงินได้จากวิชาชีพอิสระต่างๆ เช่น วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอื่นที่กฎหมายกำหนด
  • เงินได้มาตรา 40(7) คือ เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ ในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ เช่น การรับเหมาก่อสร้าง
  • เงินได้มาตรา 40(8) คือ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือเงินได้อื่นๆ

 

โดยสรุป ถ้าจำแบบง่ายๆ การติ๊กช่อง มาตรา 3 เตรส จะใช้กับการหัก ณ ที่จ่ายเงินได้ 40 (5)-(8)  สำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งเท่าที่อ่านมาก็เหมือนว่าจะคลอบคลุมค่าใช้จ่ายหลายประเภทในธุรกิจแล้วสินะ ฮ่าๆ 

 

2. มาตรา 48 ทวิ คือ การหัก ณ ที่จ่ายสำหรับองค์การรัฐบาลที่เสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้า ไม่ว่าจะออกให้ 1 ครั้ง หรือออกให้แบบตลอดไป โดยมาตรานี้ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็มักจะไม่ได้ใช้กัน

 

3. มาตรา 50 (3)(4)(5) คือ การหัก ณ ที่จ่ายที่เข้าข่าย 3 กรณีต่อไปนี้

  • มาตรา 50 (3) ใช้กรณีจ่ายเงินได้พึงประเมิน มาตรา 40 (5)(6)  ให้แก่ผู้รับซึ่งไม่ได้อยู่ในไทย
  • มาตรา 50 (4) ใช้กรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล จ่ายเงินได้พึงประเมินมาตรา 40(5)-(8)
  • มาตรา 50 (5) ใช้กรณีจ่ายเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (8) สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์ 

 

มาตรา 3 เตรส / 65 จัตวา / 69 ทวิ ใน ภ.ง.ด. 53 คืออะไร

 

ต่อด้วย แบบ ภ.ง.ด.53 สำหรับการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายของนิติบุคคล จะมีช่องให้ติ๊ก 3 ช่อง เช่นเดียวกัน แต่มาตรากฎหมายแตกต่างกันนะ แต่ละอันมีความหมายว่าอย่างไร ลองมาดูที่นี่เลย

 

แบบ ภงด 53 ที่มี 3 ช่องติ๊ก

 

  1. มาตรา 3 เตรส คือ การหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5)-(8) เหมือนกับ ภ.ง.ด.3 เลย ต่างกันตรงที่ผู้รับเงินเป็นนิติบุคคลนั่นเอง
  2. มาตรา 65 จัตวา คือ กรณีที่ “องค์การของรัฐบาลเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้าทอดหนึ่งทอดใดหรือทุกทอดซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ซื้อสินค้าจากองค์การของรัฐบาล” ชื่อมาตราเปลี่ยนไป แต่ความหมายคล้ายๆกับ ภ.ง.ด. 3 เลยนะ
  3. มาตรา 69 ทวิ คือ การหัก ณ ที่จ่ายกรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล จ่ายเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 ให้บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ดังนั้น ผู้ที่ต้องติ๊กมาตรา 69 ทวิ ในการยื่นภ.ง.ด.53 คือ รัฐบาล องค์การของรัฐบาลนั่นเอง

 

เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ทุกคนก็น่าจะ เลือกแบบภาษีถูก และติ๊กประเภทเงินได้ถูกช่องกันแล้ว แต่นุชคิดว่าหลายคนน่าจะยังคาใจกับคำศัพท์นึงเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่ะ นั่นก็คือ หัก ณ ที่จ่ายออกให้ตลอดไปคืออะไรกันนะ

 

หัก ณ ที่จ่ายออกให้ตลอดไป คืออะไร

 

หัก ณ ที่จ่ายออกให้ตลอดไป

 

รู้หรือไม่ว่า คนจ่ายเงินก็สามารถออกภาษีหัก ณ ที่จ่ายแทนให้คนรับเงินได้ค่ะ ซึ่งเราจะเห็นช่องนี้ให้ติ้กในหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่ายนั่นเอง 

 

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท เช่าตึกจากนาย ก. ซึ่งค่าเช่าราคา 5,000 บาท 

 

โดยปกติแล้วบริษัทต้องยื่น ภ.ง.ด.3 มูลค่า 5,000 บาท หัก ณ ที่จ่าย 5% เป็นเงิน 250 บาท นายก็จะได้รับเงินสุทธิ 4,750 บาท

แต่การออกภาษีแทนคือ นาย ก. ไม่อยากถูกหักเงิน ต้องการรับเงินเต็มที่จำนวน 5,000 บาท จึงทำสัญญา ให้บริษัทรับผิดชอบค่าภาษีแทน

 

ดังนั้น ค่าเช่าที่ตกลงกัน จึงต้องคำนวณใหม่เป็น 5,263.16 บาท [คำนวณจาก ค่าเช่า*100/(100-อัตราภาษี)]

 

เมื่อนำ 5,263.16 บาท มาหัก ณ ที่จ่ายด้วยอัตรา 5% นายก็จะได้รับเงินสุทธิ 5,000 บาท ตามที่ นาย ก. ต้องการ แบบนี้จึงเรียกว่า หัก ณ ที่จ่ายออกให้ตลอดไป คือการออกภาษีแทนทุกทอดนั่นเองค่ะ

 

ถ้าใครเจอกรณีแบบนี้ ที่คนรับเงินไม่ยอดให้หัก ณ ที่จ่าย ก็จะมีวิธีนี้เป็นทางเลือกในการเจรจาค่ะ (แต่ขอบอกไว้ว่า สุดท้ายคนรับเงินยังไงก็ต้องมีเงินได้ เอาไปเสียภาษีบุคคลธรรมดาอยู่ดีนะ) 

 

โดยสรุปแล้ว

 

การยื่นแบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้ถูกเริ่มต้นจากการเลือก ประเภทแบบภาษีว่าเป็น ภ.ง.ด.3 (จ่ายให้บุคคล) หรือ ภ.ง.ด.53 (จ่ายให้นิติบุคคล) เสียก่อน 

 

จากนั้นในรายละเอียดก็ไปทำความเข้าใจต่อว่าเราจ่ายเงินได้ประเภทอะไรบ้าง ซึ่งทั้ง ภ.ง.ด.3 และ 53 ที่เราเจอบ่อยก็คือ มาตรา 3 เตรส เพราะเป็นการยื่นหัก ณ ที่จ่าย เงินได้มาตรา 40 (5)-(8) ค่ะ และส่วนมาตราที่เหลือก็เลือกตามความเหมาะสม (แต่มักจะไม่เจอบ่อย) 

 

เพียงเท่านี้ ไม่ว่าจะเป็นนักบัญชีมือใหม่ หรือเจ้าของธุรกิจก็สามารถยื่นแบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้องแล้วค่ะ

About Author

ลองใช้งานFlowAccount ฟรี 30 วันได้ง่ายๆ วันนี้
ลองใช้งานฟรีได้ง่ายๆ วันนี้
สมัครเลย

You may also like