ความสำคัญของใบสั่งซื้อเพื่อทุกธุรกิจ
นอกจากใบสั่งซื้อจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ และช่วยรับประกันการสั่งซื้อสินค้าในทางกฎหมายแล้ว การจัดการใบสั่งซื้ออย่างมืออาชีพ ยังมีประโยชน์ในด้านการวางแผนการจัดซื้อและการควบคุมความเสี่ยงด้านการทุจริตในหลายทางอีกด้วย เช่น
- ช่วยให้วางแผนการจัดซื้อและการบันทึกบัญชีต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถย้อนไปดูรายละเอียดคำสั่งซื้อในอดีตได้อย่างเป็นระบบ
- สามารถนำใบ PO ไปทำ 3-Way Matching ร่วมกับใบรับสินค้าและใบแจ้งหนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับตรงกับสินค้าที่สั่งไป ด้วยการเปรียบเทียบรายละเอียดคำสั่งซื้อจากใบรับสินค้าและใบสั่งซื้อ
- เพื่อตรวจสอบว่าจำนวนเงินที่จ่ายจริงตรงกันกับยอดที่สั่งซื้อหรือไม่ ด้วยการเปรียบเทียบยอดเก็บเงินจากใบ Invoice และยอดจากใบสั่งซื้อ
ในกรณีที่มีการทุจริตหรือการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่เหมาะสม สามารถตรวจสอบชื่อผู้อนุมัติการสั่งซื้อย้อนหลังเพื่อการสืบสวนต่อไปยังผู้ขอซื้อสินค้าและต้นเหตุได้

จุดเชื่อมโยงสำคัญในวงจรจัดซื้อ

การออกใบสั่งซื้อเป็นหนึ่งขั้นตอนใน Business Process ส่วนของวงจรซื้อ (Procure to Pay Process) ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- แผนกต่างๆ ที่มีความต้องการซื้อสินค้า ส่งคำขอสั่งซื้อสินค้าหรือบริการไปยังแผนกจัดซื้อด้วยเอกสาร ใบขอซื้อ (PR: Purchase Requisition)
- แผนกจัดซื้อรวบรวมคำสั่งซื้อจากทั้งบริษัท อาจมีการขอใบเสนอราคา (Quotation) จากผู้ขายหลายราย เพื่อเปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขของใบเสนอราคาจากฐานข้อมูลคู่ค้า โดยทั่วไปมักจะขอใบเสนอราคามากกว่า 3 เจ้าขึ้นไป เพื่อจัดทำรายงานเปรียบเทียบและตัดสินใจ
- จัดทำ ใบสั่งซื้อ (PO: Purchase Order) เซ็นอนุมัติโดยผู้มีอำนาจและส่งให้ผู้ขาย
- เมื่อได้รับสินค้า ตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าที่ได้รับและใบรับสินค้า (Goods Received Note) หรือบันทึกการรับสินค้าในระบบ
- หากสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับที่สั่งซื้อไปในใบสั่งซื้อ กิจการสามารถเลือกไม่รับสินค้าและตีกลับสินค้าไปยังผู้ขายได้
- หากสินค้าที่ได้รับตรงกับที่สั่งซื้อ หลังการตรวจสอบจะต้องมีการลงนามรับสินค้าก่อนจัดเก็บเข้าคลังและส่งใบรับสินค้า (อาจส่งร่วมกับใบกำกับภาษี) ให้กับแผนกบัญชี สำเนาใบรับของให้แผนกจัดซื้อและเก็บไว้ที่แผนกรับสินค้าเองเป็นหลักฐานการรับสินค้า
- เมื่อได้รับการเรียกเก็บเงิน แผนกบัญชีเจ้าหนี้จึงจัดทำ 3-Way Matching โดยเปรียบเทียบข้อมูลในใบแจ้งหนี้ (Invoice) ใบสั่งซื้อ (PO) และใบรับสินค้า (GRN) เมื่อข้อมูลตรงกัน ผู้มีอำนาจจะเซ็นอนุมัติ ดำเนินการจ่ายเงินแก่ผู้ขายตามเงื่อนไขที่ตกลงกันในใบสั่งซื้อและบันทึกบัญชี
- ถ้าจ่ายค่าสินค้าด้วยเช็ค ควรมีการสแตมป์ “จ่ายแล้ว” ลงบนเอกสารเพื่อป้องกันการจ่ายเงินซ้ำซ้อนและส่งเอกสารคืนให้แผนกบัญชีเพื่อบันทึกบัญชี

องค์ประกอบสำคัญของใบสั่งซื้อ
รายละเอียดที่ควรมีในใบสั่งซื้ออย่างครบถ้วน มีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลผู้ซื้อและผู้ขาย : ระบุชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลติดต่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของทั้งสองฝ่าย (ถ้ามี)
- รายละเอียดใบสั่งซื้อ : หมายเลขใบสั่งซื้อที่ไม่ซ้ำกัน วันที่ครบกำหนด
- รายละเอียดการสั่งซื้อ : วันที่สั่งซื้อ รายละเอียดสินค้าหรือบริการ จำนวนและราคาต่อหน่วย
- ยอดรวมและเงื่อนไขทางการเงิน : จำนวนเงินรวมทั้งหมด วิธีการชำระเงินและผู้รับผิดชอบค่าขนส่ง ส่วนลด เงื่อนไขทางภาษีและระยะเวลาเครดิตเทอมในการชำระเงิน
- ข้อมูลการจัดส่ง : กำหนดระยะเวลา วิธีและสถานที่ในการจัดส่ง เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า(Incoterms)
- การรับรองเอกสาร : ลายเซ็นของผู้จัดทำและอนุมัติใบสั่งซื้อ
ประเภทของใบสั่งซื้อ
ใบสั่งซื้อแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- ใบสั่งซื้อแบบมาตรฐาน : ใบสั่งซื้อทั่วไป เรียบง่ายแต่มีข้อมูลพื้นฐานครบถ้วน เหมาะสำหรับการสั่งซื้อจำนวนไม่มากและเป็นครั้งคราว
- ใบสั่งซื้อแบบกำหนดเอง : มีการปรับแต่งข้อมูลเพื่อให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของธุรกิจ มักใช้สำหรับการสั่งซื้อสินค้าที่มีความซับซ้อนหรือมีจำนวนมาก
- ใบสั่งซื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ : ใบสั่งซื้อดิจิทัลที่สะดวก ออกง่ายและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ มักพบในบริษัทที่มีการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เช่น FlowAccount หรือระบบ ERP ต่างๆ สามารถดูวิธีการสร้าง ใบสั่งซื้อ ด้วยโปรแกรมบัญชี FlowAccount ได้ที่นี่
สรุปทิ้งท้าย
ใบสั่งซื้อเป็นเอกสารในวงจรรายจ่ายที่มีความสำคัญต่อต้นทุนธุรกิจ การจัดการคลังสินค้าและการป้องกันการทุจริต การจัดการใบสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพสามารถเริ่มได้ง่ายๆ ตั้งแต่การระบุข้อมูลในใบ PO ให้ครบถ้วน การกำหนดนโยบายให้มีผู้อนุมัติคำสั่งซื้อทุกครั้ง จนไปถึงการจัดการควบคุมภายในที่ดีด้วยการนำ PO ไปจัดทำ 3-Way Matching โดยสามารถสร้างใบสั่งซื้อออนไลน์ได้ง่ายๆ ด้วย FlowAccount โปรแกรมบัญชีออนไลน์เพื่อธุรกิจยุคใหม่ที่ทำได้มากกว่าออกเอกสาร ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจให้คุณหมดห่วงเรื่องบัญชีและภาษี ทดลองใช้ FlowAccount ฟรี! ที่นี่
FAQ เกี่ยวกับใบสั่งซื้อ
ใบสั่งซื้อ (PO) แตกต่างจากใบขอซื้อ (PR) อย่างไร?
ใบสั่งซื้อ (PO) คือเอกสารที่ผู้ซื้อออกให้ผู้ขายซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อยืนยันคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการ แต่ใบขอซื้อ (PR) คือเอกสารภายในที่แผนกต่างๆ ภายในองค์กรของผู้ซื้อส่งไปยังแผนกจัดซื้อให้ช่วยซื้อของที่ต้องการใช้ให้ เช่น แผนกการตลาด ต้องการปากกา 10 แท่ง และแผนกบัญชีต้องการปากกา 5 แท่ง แผนกจัดซื้อมีหน้าที่รวบรวม PR ที่ได้รับจากทุกแผนกในบริษัทเพื่อสั่งปากการวม 15 แท่งในเงื่อนไขและราคาที่ดีที่สุด
ใบสั่งซื้อเป็นสัญญาประเภทหนึ่งใช่หรือไม่?
ใช่ เมื่อผู้ซื้อออกใบสั่งซื้อและผู้ขายตอบรับด้วยการยืนยันคำสั่งซื้อหรือการส่งมอบสินค้าตาม PO ใบสั่งซื้อนั้นจะกลายเป็นสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายทันที หากผิดนัดชำระ ก็สามารถบังคับปรับได้หากมีการระบุเอาไว้ในใบสั่งซื้อ แต่การทำสัญญาจะมีเงื่อนไขระบุรายละเอียดที่ครอบคลุมมากกว่าการทำใบสั่งซื้อที่มีความสะดวกคล่องตัวในการทำธุรกิจมากกว่า ในการซื้อขายที่มีปริมาณมากจึงยังควรทำสัญญาควบคู่กับใบสั่งซื้ออยู่
หากใบสั่งซื้อถูกยกเลิก ควรทำอย่างไร?
หากจำเป็นต้องยกเลิกใบสั่งซื้อ ผู้ซื้อควรตรวจสอบเงื่อนไขภายในใบสั่งซื้อว่ามีเงื่อนไขการยกเลิกที่ต้องปฎิบัติตามหรือไม่ เช่น ค่าปรับ/ค่าธรรมเนียมการยกเลิก ช่วงเวลาการแจ้งยกเลิก (Notice Period) หรือขั้นตอนการยกเลิกที่ชัดเจน รวมไปถึงควรติดต่อติดต่อผู้ขายเพื่อแจ้งการยกเลิกและออกเอกสารยืนยันการยกเลิกคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการหรืออัปเดตสถานะในระบบให้เร็วที่สุดเพื่อระงับข้อพิพาททางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://flowaccount.com/blog/purchase-order-purchasing-cycle/
https://www.wolftcb.com/รายละเอียด/ใบสั่งซื้อคืออะไรUnd__Undทำความรู้จักเอกสารสำคัญในโลกธุรกิจ
https://www.businessplus.co.th/Activities/ข่าวสาร-erp-mrp-c019/เปิด-po-แล้ว-ต้องทำสัญญาอีกไหม-v8359?srsltid=AfmBOooqGifF3EaC9K6lqne-XntN9bOdWoDIB6JZWPDcEPGNZpETi0Hc
About Author

ชนิสรา กิจศรีโสภณ: SEO content writer และ IT auditor ผู้กระตือรือร้นในการอัปเดตความรู้ นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและข้อมูลเชิงลึกพร้อมย่อยให้เข้าใจง่ายเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้อ่าน